ผมอ่านหนังสือหลายเล่มที่ออกมา "แฉ" โดนัลด์ ทรัมป์พร้อมๆ กันในช่วงนี้ ได้ความรู้สึกเหมือนดูละครน้ำเน่าการเมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องเหลือเชื่อ
เกือบทุกเล่มล้วนกลายเป็นหนังสือขายดีเทน้ำเทท่า เพราะเป็นเบื้องหลังที่คนวงในเอาออกมาเปิดโปงทั้งสิ้น
มีทั้งเรื่องกลเม็ดเด็ดพรายทางการเมือง
เรื่องทรยศหักหลัง
เรื่องชิงรักหักสวาท
เรื่องเซ็กซ์เพี้ยนๆ
เรื่องข่มขู่, ต่อรอง, สร้างภาพและแบล็กเมล์
และการยัดเงินไม่ให้ความลับชั่วร้ายถูกเปิดเผย
หากเอาเรื่องฉาวที่ทรัมป์ถูกเปิดโปงในหนังสือพิมพ์ทั้งหลายเหล่านี้มาสร้างเป็นหนังหนึ่งเรื่อง ผมเชื่อว่าจะต้องร้อนแรงทำเงินมหาศาล
Fear: Trump in the White House เขียนโดย Bob Woodward เป็นนักข่าวสืบสวนสอบสวน มีชื่อเสียงระดับชาติจากการขุดคุ้ยคดี Watergate ร่วมกับนักข่าวอีกคนที่ชื่อ Carl Bernstein จนประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสันต้องลาออกเมื่อปี 1974 เพราะจำนนต่อหลักฐานว่าเขามีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการ "ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม" ในกรณีแอบขโมยข้อมูลของพรรคเดโมเครตที่ตึกวอเตอร์เกต
เรื่องราวที่ถูกเปิดโปงในหนังสือเล่มนี้บอกกล่าวถึงความอลหม่านในการบริหารของทรัมป์ที่ไร้ทิศทาง และส่วนใหญ่เป็นไปตามอารมณ์ส่วนตัวของเขา
รายละเอียดหลายประเด็นในหนังสือเล่มนี้ตรงกับที่เปิดเผยในหนังสือขายดีก่อนหน้านี้ที่ชื่อ Fire and Fury โดย Michael Wolff ที่แฉถึงการทำงานที่ไร้กฎไร้ศีลธรรมของทรัมป์
Bob Woodward รู้ว่าทรัมป์และสมุนจะต้องออกมาตอบโต้เนื้อหาของหนังสือหลายตอนแน่นอน เขาจึงโทรศัพท์ไปหาทรัมป์ตอนที่หนังสือกำลังจะวางร้าน เพื่อบอกว่าเขาได้พยายามจะขอสัมภาษณ์ทรัมป์ติดต่อผ่าน 6 คนแต่ถูกปฏิเสธ
ทรัมป์ทำไขสืออ้างว่าไม่เห็นมีใครบอกว่า Woodward ติดต่อมาเลย ถ้ารู้ก็พร้อมจะคุยด้วย
Woodward ยืนยันว่าได้ขอผ่านคนสำคัญรอบๆ ทรัมป์หลายคน แต่เมื่อไม่ได้รับการตอบสนองจึงต้องออกหนังสือโดยไม่มีคำให้สัมภาษณ์ของทรัมป์
ในฐานะเป็นนักข่าวประสบการณ์มาก เขายืนยันกับทรัมป์ว่าทุกประโยคในหนังสือมาจากแหล่งข่าวที่มีตัวตน และเขาอัดเสียงเอาไว้หมดเพื่อเป็นหลักฐาน แต่ไม่อาจจะเปิดเผยชื่อจริงของผู้ให้ข้อมูลได้
หนังสืออีกเล่มที่ชื่อ Full Disclosure เขียนโดย Stormy Daniels ดาราหนังโป๊ที่อ้างว่าเคยมีสัมพันธ์พิเศษกับทรัมป์ และทรัมป์เคยให้ทนายส่วนตัวให้เงิน 130,000 เหรียญ (ประมาณ 4 ล้านบาท) เพื่อปิดปากเธอ
เธอรู้ว่าหากเธอเขียนเล่าเบื้องหลังของความสัมพันธ์กับทรัมป์ก็จะถูกปฏิเสธ หาว่าสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อจะหาประโยชน์ส่วนตัวเท่านั้น
ดังนั้น สาวคนนี้จึงเขียนเล่ารายละเอียดของการไปมาหาสู่อย่างละเอียด มีสีสันจนเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นหนังสือโป๊ได้เลยทีเดียว
เช่นเขียนถึงขนาดอวัยวะเพศของทรัมป์และกิจกรรมอันสั้นจู๋บนเตียง (รวมไปถึงอีกหลากหลายรายละเอียดที่ผมไม่พร้อมจะแปลให้อ่านได้สำหรับคอลัมน์จริงจังกับสาระการเมืองไทยและระหว่างประเทศเช่นนี้-ฮา)
อีกเล่มหนึ่งที่ผมอ่านอยู่พร้อมๆ กันชื่อ Unhinged โดย Omarosa Newman ซึ่งเคยเป็นคนสนิทของทรัมป์ตั้งแต่เล่นเป็นตัวละครหลักของทีวีเรียลลิตี The Apprentice ของทรัมป์ จนได้เข้ามาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกับคนผิวสี นั่งทำงานในทำเนียบขาว
เธอถูกปลดกะทันหันหลังจากที่พยายามจะให้ทรัมป์แสดงจุดยืนไม่เหยียดคนผิวสี และเริ่มจะเห็นด้านมืดของทรัมป์จนไม่อาจจะทำงานต่อไปได้
หากเอาเนื้อหาจากหนังสืออีกเล่มคือ A Higher Loyalty: Truth, Lies and Leadership โดยอดีตผู้อำนวยการเอฟบีไอ James Comey มาวิเคราะห์พร้อมกันแล้วก็จะเห็นภาพของทรัมป์ที่น่ากลัว
เพราะทรัมป์เป็นผู้นำที่ไม่มีหลักศีลธรรม, ไม่มีหลักคิดเรื่องธรรมาภิบาล, บริหารทำเนียบขาวเหมือนบริษัทส่วนตัว และมุ่งมองชื่อเสียงและผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่าที่จะตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อคนทั้งประเทศ
ยิ่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับทรัมป์มากๆ ยิ่งเชื่อว่าอเมริกากำลังถดถอยกลายเป็นประเทศที่หมดสภาพของการเป็นผู้นำโลกแล้วจริงๆ
จนกว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงอีกครั้งหนึ่งที่วอชิงตัน!
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |