อดีตผู้พิพากษาชี้คดี'ลุงวิศวะ'ไม่เป็นการป้องกันตัวตามกม.ระวังวิจารณ์มั่วผิดฐานดูหมิ่นศาล


เพิ่มเพื่อน    

 

28ก.ย.61- ภายหลังศาลชลบุรีมีคำพิพากษาจำคุก 10 ปี และให้ชดใช้สินไหมทดแทน 3.4 แสนบาท  คดีนายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ อายุ 50 ปี อาชีพวิศวกร เป็นจำเลย ในความผิดฐานพกพาอาวุธปืน ฆ่าคนตายโดยเจตนา กรณีก่อเหตุยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นที่ล้อมรถเก๋งและพยายามทำร้าย เป็นเหตุให้กระสุนถูกนายนวพล หรือปอน ผึ่งผาย อายุ 17 ปี เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 ล่าสุด นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng   ระบุว่า

.....วิชากฎหมายเป็นวิชาการอย่างหนึ่ง ถ้าไม่ได้ศึกษาไม่ว่าจะศึกษาจากสถาบันการศึกษาหรือศึกษาด้วยตนเอง ก็ไม่อาจจะรู้ได้ ไม่ต่างจากวิชาการด้านอื่นๆ เช่น แพทย์ วิศวะ หรือเภสัช เป็นต้น
.....คนที่ไม่ได้เรียนแพทย์ แต่วิพากษ์วิจารณ์วิชาการทางการแพทย์ ไม่ได้เรียนวิศวะแต่ไปวิพากษ์วิจารณ์การกำหนดโครงสร้างของอาคาร หรือไม่ได้เรียนเภสัชแต่ไปวิพากษ์วิจารณ์อัตราส่วนผสมของยา
.....ย่อมไม่ต่างจากคนที่ไม่ได้ศึกษาวิชากฎหมายและไม่มีความรู้ทางกฎหมาย แต่กลับชอบให้ความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ตัวบทกฎหมายหรือเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมายหรือคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล โดยไม่ได้อ่านเนื้อหาในคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลเลย
.....ขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์คดีที่วิศวกรคนหนึ่งใช้อาวุธปืนยิงกลุ่มวัยรุ่นที่มีการทะเลาะกับวิศวกรเป็นเหตุให้วัยรุ่นตายหนึ่งคนและศาลพิพากษาลงโทษจำคุกวิศวกรในความผิดฐานฆ่าคนตาย โดยไม่ได้พิจารณาเนื้อหาข้อเท็จจริงที่ปรากฎในสำนวนศาล แต่กลับวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างรุนแรง
.....การกระทำเพิ่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่นให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๘ นั้น
.....หลักสำคัญของมาตรานี้ก็คือ ผู้กระทำต้องไม่ได้มีส่วนกระทำอันละเมิดต่อต่อกฎหมายด้วย ถ้าผู้กระทำมีส่วนกระทำละเมิดต่อกฎหมายด้วยก็ไม่เป็นการป้องกันตามกฎหมาย
.....นายขาวนอนหลับอยู่ในบ้านของตนเอง รู้สึกตัวตื่นได้ยินเสียงดังกุกกักอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน จึงหยิบอาวุธปืนถือเดินลงไปดูเห็นคนสองคนกำลังช่วยกันขนทรัพย์สินไปวางไว้ที่ประตูบ้าน จึงร้องบอกว่าหยุดเดี๋ยวนี้ คนร้ายทั้งสองหันมามองเห็นนายขาวถืออาวุธปืนคนร้ายคนหนึ่งใช้อาวุธยิงนายขาวแต่กระสุนปืนพลาดไป นายขาวจึงใช้อาวุธปืนยิงไปที่คนร้ายทั้งสองคน ๑ นัด กระสุนปืนถูกคนร้ายคนที่ใช้อาวุธปืนยิงนายขาวถึงแก่ความตาย ส่วนคนร้ายอีกคนหนึ่งวิ่งหลบหนีไปได้
..........กรณีเช่นนี้การกระทำของนายขาวเป็นการกระทำที่เป็นการป้องกันที่ชอบด้วยกฎหมายไม่มีความผิดใดๆ เพราะนายขาวไม่ได้มีการกระทำที่ละเมิดต่อกฎหมายเลย
.....นายเขียวกับนายเหลืองขับขี่รถยนต์เฉี่ยวชนกัน ต่างจอดรถยนต์แล้วลงมาโต้เถียงกันว่า ตนเป็นฝ่ายขับขี่รถยนต์ถูกตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก อีกฝ่ายเป็นฝ่ายผิด โต้เถียงกันอยู่พักหนึ่งแล้วเกิดการชกต่อยกัน นายเขียวมีร่างกายเล็กกว่าสู้ไม่ได้จึงเปิดประตูรถยนต์หยิบเอามีดที่อยู่ในรถออกมาแล้วแทงนายเหลืองได้รับได้รับบาดเจ็บสาหัสและถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา
..........กรณีเช่นนี้การกระทำของนายเขียวจะอ้างว่าเป็นการป้องกันตนเองที่มีรูปร่างเล็กกว่านายเหลืองไม่อาจสู้นายนายเหลืองได้ไม่ได้ เพราะนายเขียวกับนายเหลืองมีการทะเลาะวิวาทและชกต่อยกันซึ่งเป็นการกระทำที่ละเมิดต่อกฎหมายกันมาก่อน
.....การวิพากษ์วิจารณ์เรื่องกฎหมายโดยที่ตนเองไม่มีความรู้กฎหมายจึงควรต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะการวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาของศาลถ้าเกินเลยไปจนเป็นด่าศาลด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย อาจมีความผิดฐานดูหมิ่นศาล ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๙๘ ซึ่งมีโทษจำคุก ๑ ปี ถึง ๗ ปี หรือปรับตั้งแต่ ๒๐,๐๐๐ บาท ถึง ๑๔๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.....นอกจากนี้ยังมีบุคคลที่ศึกษากฎหมายมาแต่ตีความหมายของตัวบทกฎหมายผิดๆ หรือบุคคลที่ไม่เคยศึกษาและไม่มีความรู้ทางกฎหมาย แต่ชอบแสดงความคิดเห็นหรือเสนอแนะในเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมายอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งก่อให้เกิดความความเข้าใจผิดแก่ประชาชนทั่วไปที่ไม่รู้กฎหมาย ย่อมเป็นอันตรายแก่สังคมส่วนรวมไม่น้อยเช่นเดียวกัน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"