สพฐ.ตั้งเป้าควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก 7พันแห่งใน4ปี "หมอธี"เผยเวิลดิ์แบงก์แนะไทยสมควรทำเพื่อเดินหน้าปฎิรูปการศึกษา   


เพิ่มเพื่อน    

 
28ก.ย.61-ธนาคารโลก แนะไทยควบรวมหรือการลดจำนวนโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อบรรลุปฏิรูปการศึกษา เพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนที่คุ้มค่า "หมอธี ” มอบประธาน กพฐ. ขับเคลื่อนการลดโรงเรียนขนาดเล็ก อาจจะไม่ใช่การควบรวมทั้งหมด แต่อาจใช้หลายวิธี   “ปิยบุตร” ตั้งเป้าควบโรงเรียนให้ได้ประมาณ 7,000 แห่ง ภายใน 4 ปี

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และ ตัวแทนจากธนาคารโลก (World Bank) ว่า ในที่ประชุมทางธนาคารโลกได้มาเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า การควบรวมหรือการลดจำนวนโรงเรียนขนาดเล็ก ในสังกัด สพฐ. ถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่สุดอันหนึ่งในการปฏิรูปการศึกษา ด้านประสิทธิภาพให้คุ้มค่ากับการลงทุน ซึ่งในที่ประชุมธนาคารโลกได้รายงานตัวเลข และได้มีการซักซ้อมการทำงานว่า กพฐ.จะกำกับดูแลต่อไปอย่างไร เพื่อให้เกิดความชัดเจน มีเป้าหมายอย่างไร ทั้งนี้ในส่วนของการดำเนินการจะทำอย่างไรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้นคงต้องมีการหารือ แต่อาจจะไม่ใช่การควบรวมโรงเรียนทั้งหมด ซึ่งอาจจะต้องมีการคิดใหม่เรื่องครูประจำชั้น เพราะจากข้อมูลของธนาคารโลกชัดเจนว่า จำนวนครูต่อนักเรียนของประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์ที่ดีที่สุดในโลก คือ 1:17 แต่เมื่อลงลึกในรายละเอียดกลับพบว่าครูขาดแคลน ดังนั้นการแก้ไขปัญหาไม่ใช่ว่าเราจะมานั่งควบรวมโรงเรียนอย่างเดียวจะต้องทำการดำเนินการในหลายด้านพร้อมกัน ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ได้มีการจัดหน้าที่รับผิดชอบแต่ละด้านให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว อีกทั้งศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ก็จะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการศึกษา

“ธนาคารโลกบอกว่าเรื่องนี้มีความพยายามกันมาอย่างยาวนาน ใช้ระยะเวลากว่า 30 ปีแล้วก็ไม่สำเร็จ ซึ่งจากข้อมูลตัวเลขของเวิลดิ์แบงก์ ระบุว่า เรามีโรงเรียนสังกัดสพฐ.14,000 โรง  หากสามารถควบรวมได้ก็จะทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยโรงเรียนเหล่านี้จะอยู่ในกลุ่มโรงเรียนขนาดเล็กและกลาง ผมจึงมอบหมายงานท้าทายให้แก่นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประธาน กพฐ.ว่า ขอให้ กพฐ.ชุดนี้ทำให้สำเร็จ อีกทั้งเป้าหมายของการประชุมครั้งนี้ คือ การวางทิศทางและเรียงลำดับภารกิจที่สำคัญของ กพฐ.”รมว.ศธ.กล่าว

ด้านนายปิยะบุตร กล่าวว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กนั้นคงไม่สามารถควบรวมได้ทั้งหมดแต่จำเป็นต้องดูในบริบทของแต่ละพื้นที่ เช่น โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล อยู่บนเขา การควบรวมจะยิ่งส่งผลเสียต่อนักเรียนดังนั้น จะต้องเข้าไปพัฒนาการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตและพัฒนาครูให้มีประสิทธิภาพ แนวทางที่รวมกันและทำเป็นโรงเรียนกินนอน หรือการถอดบทเรียนจากโรงเรียนที่มีการเรียนการสอนแบบคละชั้น รวมชั้นระหว่าง ป.1-ป.2 ,ป.3-ป.4 เรียนด้วยกัน แบบพี่สอนน้อง ครูช่วยกันสอน ทำให้เด็กมีประสิทธิภาพซึ่งเป็นแนวทางที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ อย่างไรก็ตาม ตั้งเป้าควบรวมโรงเรียนให้ได้ประมาณ 7,000 แห่ง ภายในระยะเวลา 3-4ปี
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"