เพลิงไหม้ทาวน์โฮมในหมู่บ้านซื่อตรงย่านหนองจอก เจ้าของเป็นสัตวแพทย์เปิดเป็นโรงพยาบาลสัตว์ ได้รับบาดเจ็บถูกไฟลวกทั้งสามี-ภรรยา ขณะที่ลูกสาว 2 คน วัย 16 กับ 13 ปี ติดเหล็กดัดสำลักควันไฟเสียชีวิต
    เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 27 กันยายนนี้ เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 58/120 เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หมู่บ้านซื่อตรง ซอยสุวินทวงศ์ 29 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงและเขตหนองจอก กทม. ต่อมาตำรวจ สน.ลำผักชีได้รับแจ้ง จึงประสานรถดับเพลิงใกล้เคียงไปดับไฟ พร้อมเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าบ้านดังกล่าวเปิดเป็นโรงพยาบาลสัตว์ซื่อตรง ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน หน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำส่งโรงพยาบาลเวชการุณรัศมิ์ คือ นายสัตวแพทย์ (นสพ.) ชาติชัย โภคานิตย์ อายุ 44 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส สำลักควัน ถูกไฟคลอกตามร่างกาย และ สพญ.กันยวีร์ สุจีพงศ์ อายุ 44 ปี ภรรยา ถูกไฟลวกบริเวณแขน นอกจากนี้พบผู้เสียชีวิต 2 ศพ เป็นลูกสาวเจ้าของบ้าน ชื่อ น.ส.ธารวีธ์ โภคานิตย์ อายุ 16 ปี และ ด.ญ.นิธารวีธ์ โภคานิตย์ อายุ 13 ปี 
    เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง หลังจากนั้นก็มีไฟลุกไหม้ขึ้นที่บ้านหลังดังกล่าว จึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ขณะที่ชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงได้พยายามช่วยกันนำถังดับเพลิง และถังน้ำเข้าสกัดเพลิง พร้อมพยายามเข้าไปช่วยลูกสาวเจ้าของบ้าน โดยร่วมกับคนงานชาวเมียนมาพังเหล็กดัดติดหน้าต่าง นำตัวทั้งสองออกมาทางหน้าต่าง คาดว่าช่วงเกิดเหตุทั้ง 2 คนอยู่ในอาการตื่นตระหนกและกำลังวิ่งหาทางออก แต่สำลักควันไฟ เมื่อชาวบ้านช่วยนำตัวออกมาได้ ก็พบว่าทั้งสองหมดสติไปแล้ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
    พ.ต.ท.เจริญ วิทิตกรกุล รอง ผกก. (สอบสวน) สน.ลำผักชี กล่าวว่า ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอีกครั้งว่าสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากอะไร เบื้องต้นทราบว่าเพลิงเกิดขึ้นจากใต้บันไดชั้นล่างซึ่งมีคัตเอาต์ และเป็นจุดเชื่อมต่อสายไฟไปยังจุดต่างๆ ของตัวบ้าน และมีช่องลมทำให้ไฟโหมขึ้นไปข้างบนได้ ส่วนห้องของเด็ก 2 คนที่เสียชีวิต มีลักษณะเป็นเตียง 2 ชั้น พี่กับน้องนอนด้วยกัน หน้าต่างก็มีเหล็กดัดทำให้หนีออกไม่ได้ ขณะที่ประตูก็ถูกไฟไหม้ ทราบว่าพ่อกับแม่พยายามจะเข้าไปช่วยลูกแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ จึงตัดสินใจกระโดดจากชั้น 2 ลงมาก่อน อาการสาหัสมาก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ในห้องฉุกเฉิน ทั้งนี้ ยังไม่มีใครกล้าบอกทั้งคู่ว่าลูกสาว 2 คนเสียชีวิตแล้ว เพราะเกรงว่าจะกระทบกระเทือนจิตใจ.