ย้ายด่วนพยาบาล กระชากผู้ป่วยชรา


เพิ่มเพื่อน    

    รพ.พุทธชินราชแสดงความเสียใจ หลังโซเชียลแชร์กระหึ่ม พยาบาลกระทำรุนแรงต่อคนไข้วัย 90 ปีที่ป่วยถุงลมโป่งพองต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ล่าสุด ผอ.รพ.เสนอผู้ว่าฯ เซ็นย้ายไปประจำ สสจ.พร้อมตั้งกรรมการสอบวินัย ด้านหัวหน้าหอผู้ป่วยวิกฤติรายงาน พยาบาลเห็นผู้ป่วยอยู่ขอบเตียงเกรงจะตก เลยออกแรงกระชาก
    โลกโซเชียลแชร์กันกระหึ่มอีกครั้ง หลังมีผู้โพสต์คลิปพยาบาลกระทำรุนแรงต่อผู้ป่วยติดเตียง เป็นชายชรา อายุ 90 ปี โดยในคลิปจะเห็นภาพพยาบาลคนหนึ่งเดินมาที่เตียง ขณะที่ผู้ป่วยมีสายท่อเครื่องช่วยหายใจต่อระโยงระยาง ไม่สามารถขยับตัวหรือช่วยเหลือตัวเองได้ จากนั้นพยาบาลได้จับร่างผู้ป่วยดึงขยับตัวอย่างแรง ก่อนโยนผ้าห่มใส่ไปที่ใบหน้า แล้วเอาไปรองที่ศีรษะ ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอื้ออึง
    หลังคลิปดังกล่าวแพร่ออกไปในช่วงเย็นวันอังคาร ค่ำวันเดียวกัน นพ.วิสิทธิ์ เสถียรวันทนีย์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์อาวุโส รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก พร้อมด้วย นพ.อารีย์ เจษฎาญานเมธา รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์, นพ.โตมร ทองศรี รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ และ น.ส.ศิริพร ศิริวัฒนไพศาล รักษาการหัวหน้าพยาบาล ได้เปิดแถลงข่าวที่ รพ.พุทธชินราช 
    นพ.วิสิทธิ์กล่าวพร้อมยกมือไหว้ขอโทษว่า พวกเราในฐานะคณะผู้บริหาร รพ.พุทธชินราช ขอแสดงความเสียใจ ต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภาพที่ปรากฏ พวกตนในฐานะผู้บริหารก็รู้สึกเช่นเดียวกับประชาชนทุกคน คือทนไม่ได้ ต้องกราบขอโทษ และแสดงความเสียใจต่อญาติคนไข้ ขณะเดียวกันทาง รพ.ก็มิได้นิ่งนอนใจ ได้ย้ายพยาบาลคนดังกล่าวออกจากการดูแลคนไข้ให้ไปปฏิบัติการด้านอื่นก่อน รวมทั้งจะมีการสืบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินการทางวินัยด้วย
    ขณะที่ น.ส.ศิริพรกล่าวว่า ปกติพยาบาลคนนี้นิสัยดี แต่อาจจะมีความเครียดด้านอื่นๆ หลังจากทราบว่าเป็นข่าวเจ้าตัวก็เครียดมาก ที่ผ่านมาก็ได้ปรับปรุงพฤติกรรมผู้ให้บริการเป็นระยะอยู่แล้ว และมีการนิเทศวิธีปฏิบัติต่อคนไข้มาตลอดเวลา กรณีนี้อาจจะมีสิ่งผิดปกติกับตัวของน้องพยาบาล ต้องรอผลการสอบทางวินัย ในส่วนของผู้ป่วย เป็นผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง อายุ 90 ปี มานอนรักษาตัวด้วยอาการหอบหืด และใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ คนไข้ไม่ค่อยรู้สึกตัว ขณะนี้กำลังติดต่อกับญาติผู้ป่วย
    ด้าน นพ.สุชาติ พรเจริญพงษ์ ผอ.รพ.พุทธชินราช กล่าวเมื่อวันพุธว่า โรงพยาบาลต้องขอแสดงความเสียใจและกราบขอโทษสังคมต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ตนไปร่วมงานศพที่จังหวัดนครสวรรค์ ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ จึงมอบหมายให้รอง ผอ.แถลงข่าวชี้แจงเหตุการณ์ต่อสื่อมวลชน เมื่อตนกลับมาจากนครสวรรค์ในเวลาประมาณ 5 ทุ่มเศษ ก็ไปดูอาการคนไข้รายดังกล่าว ซึ่งถือว่าอาการทั่วไปยังปกติ ส่วนพยาบาลก็ค่อนข้างเครียด โดยทาง รพ.จะเร่งดำเนินการสอบวินัยต่อไป เบื้องต้นตนได้เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกย้ายพยาบาลคนดังกล่าวออกนอกพื้นที่โรงพยาบาลก่อน ซึ่งน่าจะไปประจำอยู่ที่สำนักงานสาธารณสุข (สสจ.) 
    มีรายงานว่า  ผวจ.พิษณุโลกได้ลงนามคำสั่งย้ายด่วนพยาบาลรายนี้ออกนอกพื้นที่แล้ว 
    ผศ.อังคณา สริยาภรณ์ เลขาธิการสภาการพยาบาล กล่าวว่า สภาการพยาบาลขอแสดงความเสียใจต่อญาติและสังคมต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าเห็นจากคลิปวิดีโอแล้วรู้สึกตกใจมาก โดยทาง รพ.ต้นสังกัดอยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนสภาการพยาบาลเองก็จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบจริยธรรมภายในวันศุกร์ที่ 28 ก.ย.นี้ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะต้องใช้เวลาสอบนานแค่ไหน ซึ่งการลงโทษมีตั้งแต่การว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ใบอนุญาตสูงสุดนาน 2 ปี และถ้ารุนแรงสุดคือการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ อย่างไรก็ตาม ยังบอกไม่ได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเข้าข่ายเป็นความผิดแบบใด เพราะต้องพิจารณาข้อมูลอีกมากตามกระบวนการ
    "อยากให้เห็นใจ เพราะมาตรฐานของการดูแลคนไข้ในหอผู้ป่วยวิกฤติ อยู่ที่พยาบาล 1 คนต่อคนไข้ 2 คน แต่เท่าที่ทราบหอผู้ป่วยวิกฤตินี้ พยาบาล 1 คนต้องดูแลคนไข้ 8 คน เราไม่ได้พูดเพื่อแก้ตัวแทนใคร แต่พูดถึงสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น"
    ผศ.อังคณากล่าวว่า จากการสอบถามหัวหน้าหอผู้ป่วยวิกฤติ บอกว่า พยาบาลคนนี้ทำงานดีมาตลอด รวดเร็ว ไม่มีกิริยารุนแรง ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ช่วงขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่พยาบาลเห็นคนไข้อยู่ขอบเตียง เกรงว่าจะตกจึงใช้แรงกระชาก เพราะปกติการขยับคนไข้ต้องใช้พยาบาลช่วยกันถึง 2 คน และยังมีความเป็นห่วงจึงใช้หมอนรองศีรษะ อย่างไรก็ตาม ขอให้รอผลการตรวจสอบเพื่อหามูลเหตุที่แน่ชัด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"