พลันที่ออกปาก "ผมสนใจงานการเมือง"
นายกฯ ประยุทธ์.........
ก็สู่สภาพ "ศัตรูร่วม" ในทางแคบของพลพรรคนักเลือกตั้งที่ต้องปรองดองเฉพาะกิจเพื่อกำจัดในบัดดล!
เพราะความหวังเดียวของ "อำนาจเก่า-อำนาจใหม่" ที่จะได้กลับเข้าครองเมือง
ก็จากช่องทาง "เลือกตั้ง" นี่แหละ!
แต่เมื่อนายกฯ แสดงท่าทีตีตั๋วต่อ ทุกคน-ทุกพรรครู้ ว่าเผด็จการทหาร "พลเอกประยุทธ์" วันนี้
กับเผด็จการทหาร "พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน" วันนั้น
มัน "ต่างชั้น-ต่างสกุล" กันเลย!
บิ๊กบังลงสนาม ทุกคน-ทุกพรรค ซ่อนยิ้มหยัน แต่พอบิ๊กตู่ แค่บอกสนใจ
เท่านั้นแหละ ตลาดแตก.......
ร้องไห้ขี้มูกโป่ง ไปฟ้องพ่อ-ฟ้องแม่ ถึงเมืองฝรั่ง-เมืองแขกโน่นก็มี!
ที่น่าขัน สัปดาห์ที่แล้ว "นิด้าโพล" ออกผลสำรวจว่า คนที่ประชาชนอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี จากการเลือกตั้งที่จะถึง
อันดับ ๑ "พลเอกประยุทธ์" ด้วยคะแนนร้อยละ ๒๙.๖๖
สำหรับผม ฟังแล้วเฉยๆ
คือ "ก็มันแน่อยู่แล้ว" ว่าต้องเป็นอย่างนั้น รัฐบาลเผด็จการทหารนั่นน่ะ "คนเป็นนายกฯ" อยู่ได้ครบปี
ก็ถือว่าโคตรเฮง
แต่นี่ พลเอกประยุทธ์ ครบเทอม ๔ ปี เขี้ยวงาก็ยังกัดไม่เข้า ต่อเข้าปีที่ ๕ แทนจะมีเสียงไล่
ไปที่ไหนๆ กลับมีแต่ พ่อแก่-แม่เฒ่า, สาว-หนุ่ม ยัน ลูกเล็ก-เด็กแดง กู่ร้องปองรักจนก้องโลก
ลุงตู่..อยู่ต่อ ลุงตู่สู้ๆ พวกหนูเป็นกำลังใจให้นะ!
แบบนี้ ไม่ใช่เพราะเฮง
แต่เพราะ "ของเขาดี" มีฝีมือ มีวิสัยทัศน์นำชาติ เสียนิดเดียว มีพี่-มีเพื่อน และเอาแต่พวก (ทหาร) มากไปนิด
ก็ใช่ว่า รัฐบาลทหาร ๕ ปี ไม่มีตุกติก
มี...มีมากด้วย
เพียงแต่ไม่ใช่ตัวนายกฯ เท่านั้น จึงยกประโยชน์ให้ว่า ในภาพรวม.......
จากผลงานสร้างรากฐานเป็นอนาคตใหม่ให้สังคมชาติของรัฐบาลนี้
สมควรให้ "นายกฯ วันนี้" ตีตั๋วสู้ต่อ เป็น "นายกฯ พรุ่งนี้"
เพื่อสานภารกิจที่ยังไม่เสร็จ "ให้สำเร็จ"
งานต้องธำรง....
แต่ เพื่อน-พี่-พวก ไม่ต้องธำรงไว้ทุกคน
เลือกเอาเฉพาะที่ไม่เป็น "ตัวอับเฉา" น่าจะเป็นเดช-เป็นศรี เป็นผลดีกับราชการงานเมืองมากกว่า
ตรงนี้ ไม่ได้แอบจิตอ้างเป็นเหตุขึ้นเอง
เรื่องงาน ได้ยินพวกพรรคการเมือง ใช้สุนทรียพยาบาทสำรอกประจำ
กลับมาเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ สิ่งแรกที่ต้องทำ
-ล้มโครงการ โละยุทธศาสตร์ชาติ
-แก้รัฐธรรมนูญ และ
-แก้แค้น
ผมไม่อยากให้ล้มโครงการรถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ ไม่อยากให้ล้มอีอีซี
ไม่อยากให้ล้มยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ไม่อยากให้ล้มนโยบาย ๔.๐ และฯลฯ
จึงอยากได้ดอกหญ้าอย่างประยุทธ์ทัดหูประเทศไปอีกซักเทอม
จากนั้น จะดอกฟ้า ดอกทอง ดอกตะบองเพชรไหนเข้ามาเป็นนายกฯ มาเป็นรัฐบาล ยำแผ่นดินต่อ
ก็เป็นเรื่องของคน "รุ่นกลาง-รุ่นใหม่"
เห็นดี-เห็นงามดอกไหน ก็เลือกดอกนั้นกันไป เลือกแล้วรับผิดชอบกันด้วย
ส่วนคน "รุ่นใหญ่" เฉพาะผม
ถึงตอนนั้น "หมดหนี้แผ่นดิน" เป็น "อาหารหนอน" นอนตาโบ๋ไปแล้ว!
ส่วนเรื่องเพื่อนผองน้องพี่ คงไม่ต้องให้จาระไน
เพราะถ้าหูตึง ไม่ได้ยินเสียงนอก-เสียงใน และตาฟาง ไม่เห็นภาพใกล้-ภาพไกล
แบบนั้น จะไม่เป็นใหญ่ยาวนานได้ขนาดนี้หรอก! เนี่ย...ก็อย่างที่คุยกันมา
ในหนทางที่จะเป็น "ประวัติศาสตร์แรก" ของครึ่งศตวรรษหลัง
เมื่อมีสัญญาณ "ประชาชนเอาประยุทธ์" เพราะ "ประยุทธ์เอาประชาชน"
ตลาดเลือกตั้ง จึงอึงอลด้วยหลากเท้าระส่ำ!
นิด้าโพล ออกผลสำรวจในระยะไกลปั๊บ ค่าย-สำนักเครือข่ายด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำงานปุ๊บ
ดิจิทัล ช่อง ๓๑ "วัน" ตั้งหัวข้อ ทำโพลทางอากาศทันที
บิ๊กตู่ลงเล่นการเมือง "เลือก" หรือ "ไม่เลือก"?
ข่าวบอกว่า ไม่กี่นาที มีผู้เข้ามาโหวตตั้ง ๓๔๕,๐๐๐ คน
๑๒ % เลือก
๘๘ % ไม่เลือก!
ช่อง ๒๒ "Nation" ตั้งคำถาม "คุณจะสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อหรือไม่?"
มีคนเข้าไปโหวต ๓๕,๐๐๐ คน
๑๒% สนับสนุน
๘๘% ไม่สนับสนุน!
ช่อง ๓๖ PPTV ทำโพลโหวตในเพจเฟซบุ๊ก ตั้งคำถามว่า
"ถ้า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงสมัครเป็นนายกฯ คุณจะเลือกหรือไม่?"
มีผู้ร่วมโหวต ๒๐,๐๐๐ โหวต
๑๔% เลือก
๘๖% ไม่เลือก
ดูตามนี้ สรุป ๓:๑ นายกฯ ประยุทธ์ "สอบตก" จาก ๓ โพล สถาบันสื่อ สอบได้ ๑ โพล สถาบันศึกษา
ผมว่าสนุกดี เป็นสีสันสะท้อนความตื่นตัวและกระตุ้นความสนใจเลือกตั้งที่ดีอย่างหนึ่ง
เลือกตั้งเที่ยวนี้ ทั้งประเทศ มี ๓๕๐ เขต เขตละ ๑ ส.ส.และใช้บัตรใบเดียว
"กาเบอร์เดียว" แต่เท่ากับ "เลือก ๓ อย่าง"!
๑.เลือกตัว ส.ส.
๒.เลือกพรรค และ
๓.เลือกตัวนายกฯ
"ทรี อิน วัน" จำไว้นะครับ เมื่อเข้าคูหา X ลงไปตรงเบอร์ไหน (กาได้เพียงเบอร์เดียว)
เท่ากับเลือกคนเบอร์นั้นเป็น ส.ส.
เลือกคนพรรคนั้นเป็นนายกฯ
เลือกให้พรรคนั้นเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล!
จากผลโหวต ๓ โพลสำนักสื่อ จะสังเกตเห็นว่า มีความเป็นไปได้สูงว่า ความปรองดองเกิดขึ้นในแผ่นดิน
ช่อง ๓๑ วัน กับช่อง ๒๒ เนชั่น ต่างแค่จำนวนคน แต่ผลโหวต เปอร์เซ็นต์เดียวกันเป๊ะ!
นี่คือ อีกรูปแบบต่อสู้ยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ใครป้อนข้อมูลก่อน ใครปั้นข้อมูลเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายก่อน
คนนั้น ได้เปรียบ!
โดยเฉพาะสังคมคนบริโภคข่าวสารแบบทาสไอที ความไวของข่าวสารเท่ากับความเชื่อที่ไร้ฟิลเตอร์สมอง
นัยนี้ แต่มองในมุมกลับกัน........
ที่ "เศรษฐกิจและการเงิน" ประเทศไทยเรา "เสถียรยิ่ง" ในขณะที่เพื่อนประเทศร่วมภูมิภาคค่าเงินต่ำกว่าค่ากระดาษพิมพ์แบงก์
สถาบันหนึ่งและบุคคลหนึ่งที่ต้องให้เครดิต คือ
ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ "แบงก์ชาติ"
และผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ "นายวิรไท สันติประภพ"
จะสังเกตเห็นว่า ช่วงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ในความพะว้า-พะวัง ทั้งชาวเขา-ชาวเรา รวมถึงพ่อค้าส่งออก
แบงก์ชาติ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ป้อนข้อมูลด้านการเงินและความเคลื่อนไหวให้ได้ทราบกันทันเหตุ-ทันการณ์
๑๙๓ ประเทศ ในโลก........
ไทยมีความแข็งแกร่ง ด้วยทุนสำรองระหว่างประเทศ สูงถึง ๒๑๕,๑๖๕,๗๙๐ ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เป็นอันดับ ๑๒ ของโลก!
ในความผันผวนเงินตรา วันนี้ด้วยเงินบาทไทยเสถียรค่าเป็นที่ยอมรับทั้งโลก ทั้งวันนี้ เราแทบไม่มีหนี้เงินกู้จากนอกประเทศ
ไทยจึงกลายเป็น "หลุมหลบภัย" ที่เงินนอกไหลเข้ามาฝากค่าไว้กับเงินบาทเหมือนน้ำหลาก
ที่เราไม่ค่อยรู้ว่า บ้านอื่นเขาหัวสั่น-หัวคลอนอย่างไรกันตอนนี้ เพราะบ้านเราแข็งแกร่ง จึงไม่สนใจจะรู้ว่า นั่นเพราะอะไร?
ส่วนหนึ่ง ก็จากวิสัยทัศน์คนแบงก์ชาติ ที่บริหารสร้าง "ความเชื่อมั่น" ให้สังคมโลกได้สำเร็จ
และป้อนข้อมูล-ข่าวสารทางสาธารณะ ให้ประชาชนรู้ทัน-เข้าถึงสถานการณ์สงครามการค้าขณะนี้ ทำให้ไม่ตื่นตระหนกต่อข่าวลือ ข่าวลวงต่างๆ
เดือนตุลาเห็นว่านายกฯ จะต้องเดินสายต่างประเทศทั้งเดือน
ออกไปข้างนอก แล้วจะรู้ว่าชาวโลก วันนี้เขาอิจฉาไทยเราขนาดไหน
ฉะนั้น ไปให้สบาย ปล่อยให้พี่ๆ แต่ละพรรคเขาเอาให้กันให้สบาย
เพราะเรื่องใหญ่ "สำเร็จแล้ว".
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |