ฮื่อมม์ม์ม์...ท่าทาง พรรครัฐบาล หรือ พรรคทหาร น่าจะได้เริ่มขยับเนื้อ ขยับตัว กันมั่งแล้ว หลังจากที่ แอบจิต กันมาซะนาน เพราะการที่ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านได้ประกาศถึง ความสนใจการเมือง ออกมาแบบไม่ต้องเสียเวลาแปลไทยเป็นไทยมากมายซักเท่าไหร่ แนวโน้มที่จะนำไปสู่รายการ เปิดผอบพบนางโมรา นับแต่นี้เป็นต้นไป คงได้เริ่มเห็นหัว เห็นหาง กันอย่างเป็นขั้น เป็นตอน...
--------------------------------------------------------
เช่น อาจต้องมีคนหนุ่ม หรือรัฐมนตรีที่ยังไม่แก่มาก ทยอยออกมาแสดงตัวเป็นหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค โฆษกพรรค ฯลฯ กันไปตามลำดับขั้น ส่วนรองนายกฯ ที่แก่แล้ว อย่าง ป๋าดัน คงไม่ถึงกับต้องรีบ สว่างจิต อะไรมากมาย ยังพอช่วยดันอยู่เบื้องหลัง อันจะทำให้มีโอกาสดันทั้งตัวเลขจีดีพี และดัน พรรคเอาบิ๊กตู่ ไปพร้อมๆ กัน โดยไม่ถึงกับขัดแย้ง แปลกแยก หรือทำให้เกิดภาพพจน์ ภาพลักษณ์ ประเภท กรรมการลงมาเล่นเอง อะไรทำนองนั้น...
----------------------------------------------------------
แต่ส่วนท่านนายกฯ บิ๊กตู่ นั้น...ถ้าว่ากันตาม ปาฏิหาริย์ทางกฎหมาย การที่ท่านจะ ไม่ออก แม้ว่าความสนใจการเมืองผลักดันให้ต้องเข้ามาสังกัดพรรคการเมือง พรรคใด พรรคหนึ่ง อย่างเป็นหลัก เป็นฐาน ไปแล้วก็ตามที ก็เป็นเรื่องที่พอจะ เข้าใจ ได้ แต่ส่วนจะ ทำใจ ได้หรือไม่ได้นั้น คงถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งต้องว่าไปตามรสนิยมของใคร-ของมันก็แล้วกัน แต่ก็นั่นแหละ...การที่ท่านตัดสินใจเปิดผ้าม่านกั้ง เปิดเนื้อ เปิดตัว ว่าคิดจะไปร่วมหัว-จมท้ายกับใครผู้หนึ่ง ผู้ใด หรือพรรคการเมืองหนึ่ง พรรคการเมืองใดกันแน่ อันนี้...อาจต้องว่าไปตาม ปาฏิหาริย์ทางกฎแห่งกรรม ที่ไม่เกี่ยวอะไรกับกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น...
-----------------------------------------------------------
คือถ้าหากท่านทำ กรรมดี ไม่ว่าชาตินี้ หรือชาติปางก่อน เอาไว้อย่างเป็นกอบ เป็นกำ เช่น เอายาเสน่ห์ใส่บาตรพระไว้อย่างสม่ำเสมอ ผลของกรรมดี ย่อมส่งผลให้พรรคนั้นๆ กลายเป็นที่รวมของ คนดี คนที่น่ารัก ที่มีเสน่ห์ อันจะกลายเป็นฐานรองรับบุญญาบารมี กฤษดาภินิหาร ของท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าหากท่านทำบุญด้วยการเอา ยาถ่าย ไปใส่บาตรพระซะแทนที่ โอกาสที่พรรคนั้นๆ จะกลายเป็นที่รวมของ คนยี้ คนที่เพิ่งหลุดผลัวะๆ ออกมาจากบ่อเกรอะ อันเนื่องมาจากแรงดูด แรงกระชาก ของ ท่อสามมิตร ก็อาจส่งผลให้ท่านต้องตกอยู่ในสภาพบุญมีแต่กรรมบัง กฤษดาภินิหาร อาจกลายสภาพเป็นกฤษดามหานครกันแทนที่ คืออาจต้องโดนตามล้าง ตามเช็ด ในบั้นปลาย หาความสุข ความสงบ ได้ลำบาก ประมาณนั้น...
--------------------------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้...ท่านเลยอาจต้อง กั๊กๆ เอาไว้มั่ง ไม่ถึงกับรีบร้อนป่าวประกาศว่าคิดจะไปร่วมหัว-จมท้ายกับใครต่อใคร กับพรรคไหนต่อพรรคไหน แม้ว่า ความสนใจการเมือง อาจเริ่มกำเริบขึ้นมาตามลำดับ แต่โดยสรุปรวมความแล้ว...ไม่ว่าท่านจะอยู่พรรคไหน ก็คงไม่ได้ทำให้ พรรคเอาบิ๊กตู่ ลดขนาด ลดจำนวน ลงไปแต่อย่างใด เพราะกระบวนการ เอาบิ๊กตู่ หรือกระบวนการเปลี่ยน โรดแมป ให้กลายเป็น โรดหมับ นั้น ก็น่าจะดำเนินไปตามแบบฉบับ แตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย อย่างที่คุณลุงกำนัน เทพเทือก ท่านได้เอ่ยอ้างเป็นสำนวนเอาไว้นั่นแหละ คือเป็นไปแบบแม่น้ำห้าสาย สิบสาย ร้อยสาย แต่สุดท้าย...ย่อมไหลมารวมกันที่เจ้าพระยากันจนได้...
--------------------------------------------------------
ย่างไรก็ตาม...การ แตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย ของ ก๊กเอาบิ๊กตู่ ก็คงหนีไม่พ้นต้องเจอกับกระบวนท่า ยืมหอกสนองคืน ของ ก๊กไม่เอาบิ๊กตู่ อย่างมิอาจปฏิเสธได้ ที่น่าจะอาศัยกรรมวิธีเช่นเดียวกันนี้ ในการรวบรวมสายฝนหลายๆ สาย ให้ไหลมารวมกันบริเวณเล้าหมู หรือเล้าไก่ก็ตามแต่ หรือนำไปสู่ลักษณะอาการในแบบ แยกกันเดิน-รวมกันตี ซึ่งถ้าหากสายฝนเหล่านั้นยังไหลวนไป-วนมาอยู่ใน รัฐสภา ก็คงไม่ถึงกับน่าหนักใจซักเท่าไหร่ เพราะมันคงอาศัยเครื่องคิดเลข คำนวณจำนวนเสียง จำนวนเก้าอี้ ออกมาตาม คณิตศาสตร์ทางการเมือง ได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์ แต่ถ้าหากมันไหลเลอะ ไหลนอง ออกไปนอกสภาฯ นี่สิ ออกไปตามวัด วา อาราม ตามชุมชนในแต่ละเขต แต่ละภาค จนก่อให้เกิด เงื่อนไข-เหตุปัจจัย ที่อาจนำไปสู่การ พลิกฟ้า-คว่ำดิน ขึ้นมาในจังหวะหนึ่ง จังหวะใด อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้ ความสนใจการเมือง กับ ความรักประเทศชาติ มันอาจไม่ใช่เป็นเรื่องเดียวกันไปซะทั้งหมด อาจต้องให้น้ำหนักเรื่องใด เรื่องหนึ่ง ให้มากๆ เข้าไว้ก่อน...
--------------------------------------------------------
พูดง่ายๆ ว่า...ถ้าหากมันถึงจุดใด จุดหนึ่ง ที่ไปไม่ได้ หรือไม่ควรจะไปอีกต่อไป จังหวะนั้นนั่นแหละที่มันจะทำให้ ความรักประเทศชาติ กับ ความสนใจการเมือง อาจต้องแยกออกจากกันโดยเด็ดขาด หรือเพื่อไม่ให้ประเทศชาติต้องตกอยู่ภายใต้เงื่อนไข-เหตุปัจจัย อันจะนำไปสู่ความยุ่งเหยิง ความน่าจุกจิก รำคาญใจ บรรดาผู้ที่มีความสนใจการเมือง โดยเฉพาะ อดีตทหาร ทั้งหลาย พึงต้องระลึกไว้เสมอๆ ถึงถ้อยคำสั้นๆ ง่ายๆ ที่ต้นฉบับอย่าง ป๋าเปรม ท่านได้ทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์ เป็นอุทาหรณ์สอนใจ สำหรับใครก็ตามที่ย่างเข้ามาสู่แวดวงการเมือง ไม่ว่าด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ นั่นก็คือคำว่า...ผมพอแล้ว อยู่ในทุกๆ เวลา นาที นับแต่เบื้องต้น เบื้องกลาง ไปจนถึงเบื้องปลายนั่นแล...
-----------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Bible...“Conquer thy desires, or they will conquer thee.- จงเอาชนะความอยาก มิฉะนั้นความอยากจะเอาชนะท่าน...”
-------------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |