จับแล้ว "หนานหนัด" พี่ชายอำมหิต จ้าง 5 หมื่นให้เพื่อนบ้านฆ่าน้องเขยชาวอังกฤษวัย 64 ปีกับน้องสาวตัวเอง ด้วยการยิงและใช้ประแจทุบหัวก่อนนำศพไปฝังริมห้วยพื้นที่ของผู้ตาย อ้างแค้นที่ถูกฝ่ายชายด่าว่ามาตลอด และฆ่าน้องอีกคนเพราะไม่ช่วยแก้ตัวให้ พบฝังศพไว้ลึกถึง 3 เมตรจนครั้งแรกหาไม่เจอ ต้องขุดซ้ำ
    เมื่อวันที่ 25 กันยายนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดแพร่นำรถแบ็กโฮขนาดใหญ่ไปขุดพื้นที่บริเวณริมห้วยกว่างเน่า อันเป็นที่ดินของนายอลัน สก๊อตต์ ฮ็อก อายุ 64 ปี ชาวอังกฤษ ที่หายตัวไปพร้อมกับนางหน็อต สุดแดน อายุ 60 ปี ภรรยาชาวไทย จากบ้านพักหรูกลางป่า เลขที่ 207/4 หมู่ 6 ต.ป่าแดง อ.เมืองแพร่ ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา และมีข้อมูลว่าทั้งคู่ถูกฆาตกรรมถูกฝังในบริเวณดังกล่าว ซึ่งมีการขุดหามาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ไม่พบร่าง คาดว่าอาจจะขุดยังไม่ลึกพอ
    ภายหลังใช้รถแบ็กโฮขุดดินเป็นหลุมลึกประมาณ 3 เมตร เจ้าหน้าที่ก็พบร่างของทั้งสอง ฝ่ายพิสูจน์หลักฐานจึงชันสูตรศพในเบื้องต้น ก่อนนำศพทั้งสองส่งโรงพยาบาลเพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
    ลำดับเหตุการณ์ในคดีนี้ หลังนายอลันและนางหน็อต ภรรยา หายตัวไปได้ 1 วัน ญาติของนางหน็อตก็ได้เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.พระธาตุช่อแฮ จ.แพร่ ระบุว่าทั้งคู่เดินทางไปตรวจร่างกายที่ รพ.เชียงใหม่ตามที่หมอนัด แล้วหายตัวไปติดต่อไม่ได้ พร้อมเปิดเผยว่าทั้งคู่อยู่กินกันมานานกว่า 10 ปี มาซื้อที่ดินกว่า 100 ไร่ใน ต.ช่อแฮ ทำการเกษตร ญาติได้ไปดูดวงถึง 2 วัด พระบอกตรงกันว่าทั้งสองคนถูกฆ่าฝังดินริมห้วยในที่ของตัวเอง
    ตำรวจพบหลักฐานเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ เริ่มจากพบหยดเลือดบริเวณโรงรถ และรถกระบะฟอร์ด สีขาว ทะเบียน กต 3181 ของนายอลันกับนางหน็อตหายไป อีกทั้งพบรถแบ็กโฮจอดอยู่โดยมีร่องรอยขับไปบริเวณลำห้วย แต่จากการขุดดินบริเวณดังกล่าวไม่พบหลักฐานใด
    ต่อมาพ่อค้าวัวชาวลาวได้ติดต่อตำรวจจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่าได้ซื้อรถกระบะฟอร์ดจากชายคนหนึ่ง เมื่อทราบข่าวว่ารถเป็นของสามีภรรยาที่หายตัวไป จึงขอส่งมอบคืน ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีการนัดซื้อขายรถยนต์กันในพื้นที่ อ.ศรีสำโรง ก่อนจะนำส่งรถออกนอกประเทศผ่านทาง อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อส่งไปยังประเทศเมียนมา แต่เนื่องจากมีความจำเป็นบางอย่างต้องนำรถยนต์ไปที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนข้ามไปยังฝั่งเมียนมา และพ่อค้าวัวชาวลาวได้ระบุว่าผู้ที่ติดต่อขายรถคือนายวารุต วัฒนะสัจจะกิจ หรือหนานหนัด พี่ชายนางหน็อต ตำรวจจึงจับกุมในคดีอื่นข้อหาลักทรัพย์ นำตัวส่งฝากขัง แต่ได้ประกันตัวออกไป
    ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.แพร่ และทีมสืบสวนภาค 5 ยังได้คุมตัวชายต้องสงสัย 2 คนจาก อ.วังชิ้น จ.แพร่ มาสอบสวน กระทั่งรับสารภาพว่าร่วมกันฆ่านางหน็อตและสามีชาวอังกฤษ โดยมีนายวารุต หรือหนานหนัด พี่ชายนางหน็อต เป็นผู้ว่าจ้างในราคา 5 หมื่นบาท โดยใช้อาวุธปืนยิงนายอลันเสียชีวิตบริเวณหน้าเล้าเป็ด จากนั้นใช้ประแจทุบนางหน็อตเสียชีวิตหน้าโรงรถ ส่วนศพนำไปฝังในสวน
    ล่าสุดตำรวจจับกุมนายวารุต หรือหนานหนัด ได้แล้ว
    ทั้งนี้ บ่ายวันจันทร์ พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 แถลงข่าวการคลี่คลายคดีนี้ว่า ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหา 3 คนที่ร่วมกันก่อเหตุแล้วคือ 1.นายวารุต วัฒนะสัจจะกิจ หรือหนานหนัด อายุ 63 ปี พี่ชายนางหน็อต 2.นายเบี้ย คำใส อายุ 40 ปี และ 3.นายกิตติพงศ์ คำหวัน อายุ 27 ปี ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากการสอบสวนนายเบี้ยและนายกิตติพงศ์ ซึ่งเป็นญาติกัน ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายวารุตเป็นเงิน 5 หมื่นบาท โดยนายเบี้ยแบ่งให้นายกิตติพงศ์ 3 พันบาท วันก่อเหตุทั้ง 2 คนแอบซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณบ้านของผู้ตาย อาศัยจังหวะที่นายอลันเดินออกมาให้อาหารเป็ด นายเบี้ยได้ใช้อาวุธปืนยิงนายอลันจนเสียชีวิต ก่อนที่จะใช้ประแจที่หยิบได้ในบ้านตีนางหน็อตเสียชีวิตอีกคน จากนั้นนายวารุต นายเบี้ย และนายกิตติพงศ์ ช่วยกันนำศพไปฝัง
    พล.ต.ท.พูลศักดิ์กล่าวว่า จากการสอบสวนนายวารุตยอมรับว่า สาเหตุที่ทำไปเพราะปัญหาในครอบครัว เนื่องจากนายอลันชอบด่าว่ารุนแรงเป็นประจำ ทำให้เกิดความแค้นและสะสมมานาน ขณะที่น้องสาวก็ไม่ได้ช่วยพูดอะไรให้ดีขึ้น จึงได้วางแผนฆ่า ส่วนที่นำรถกระบะของสองสามีภรรยาไปขาย เพราะต้องการเงินมาจ่ายค่าจ้างและเป็นทุนในการหลบหนี        
    ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงว่า ได้รับรายงานจาก บก.ภ.จว.แพร่ ถึงความคืบหน้าในคดีนี้ ที่ตำรวจสามารถค้นพบศพสามีชาวอังกฤษและภรรยาชาวไทย พร้อมทั้งยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดแพร่ และศาลได้อนุมัติหมายจับนายวารุต วัฒนะสัจจะกิจ ในข้อหาเป็นผู้ใช้ จ้างวานให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน นายเบี้ย คำใส ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และนายกิตติพงศ์ คำหวัน ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอายุความ 20 ปี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ร่วมกันจับกุมตัวนายเบี้ย นายกิตติพงศ์ และนายมารุต ได้แล้วทั้งหมด พร้อมได้รายงานเหตุการเสียชีวิตของนายอลันไปยังสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทยต่อไป.