25ก.ย.61-นายเอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) กล่าวภายหลังการประชุม กมว. ว่า ที่ประชุมได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการทั้งหมด 4 ชุด ได้แก่ 1.คณะอนุกรรมการกลั่นกรองการออกและต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา 2.คณะอนุกรรมการกลั่นกรองการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณทางวิชาชีพ 3.คณะอนุกรรมการพัฒนามาตรฐานวิชาชีพ และ 4.คณะอนุกรรมการพัฒนาแนวทางการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งในส่วนของการพัฒนามาตรฐานวิชาชีพนั้น คุรสภาได้มีการดำเนินการมาบ้างแล้ว ซึ่งทางคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าว คงต้องไปหาแนวทางตามที่ได้มีการยกร่างมาหรือจะดำเนินการปรับเปลี่ยนอย่างไรบ้าง ส่วนคณะอนุกรรมการพัฒนาแนวการทดสอบฯ จะดูแลเรื่องข้อสอบ ผู้มาทำหน้าที่ออกข้อสอบ การสร้างข้อสอบอย่างมีประสิทธิ์ภาพ เป็นต้น
นายเอกชัย กล่าวต่อว่า สำหรับการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษานั้น ที่ประชุมยังไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าว แต่ได้ตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ ขึ้นมาหนึ่งชุดเพื่อพิจารณา เนื่องจากคุรุสภาไม่มี กมว.มาตั้งแต่ปี 2558 ทำให้มีเรื่องตกค้างหลายเรื่องที่เป็นประเด็นทางสังคม เช่น กรณีผู้อำนวยโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา มีพฤติกรรมชู้กับเด็กนักเรียนหญิงวัย 14 ปี ชั้นม.2 โรงเรียนเดียวกัน ซึ่งตอนนี้มีการพิจารณาลงโทษทางวินัยแล้ว รวมทั้งกรณีของครูปรีชา ใคร่ครวญ กรณีหวย 30 ล้าน จ.กาญจนบุรี ที่ขณะนี้เรื่องยังไม่ยุติ แต่หากคณะอนุกรรมการฯหรือใครก็ตามพิจารณาเห็นว่าผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาประพฤติผิดจรรยาบรรณ ก็สามารถที่จะเสนอเรื่องมาที่ กมว.ได้ หาก กมว.พิจารณาเห็นว่าผิดจริงก็จะเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ถือเป็นหน้าที่ กมว. ที่จะต้องดูแล และหากผู้บริหาร หรือครูถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ก็จะไม่สามารถทำหน้าที่ผู้บริหารสถานศึกษา หรือครูได้ อีก ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนรัฐ หรือเอกชน เรียกได้ว่าหมดอนาคตอาชีพด้านนี้ทันที อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีเรื่องจรรยาบรรณวิชาชีพตกค้างอยู่ที่ กมว.กว่า 900 เรื่อง แต่ กมว.ไม่ได้มีหน้าที่ดูแลจรรยาบรรณเพียงอย่างเดียว แต่มีหน้าที่สำคัญอื่นๆ อีก ทั้งเรื่องของมาตรฐานวิชาชีพ การกำกับ ดูแล การพัฒนาส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพครู การต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ซึ่งถ้าถูกระงับไม่ให้ต่อใบอนุญาตก็ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
ประธานกมว.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กมว.ยังได้ดำเนินการในสิ่งที่เป็นอำนาจแต่ไม่เคยทำมาก่อน คือ การเพิกถอนรางวัลของคุรุสภาทุกรางวัล ในกรณีที่ครูหรือผู้บริหารที่ได้รับรางวัลของคุรุสภาไปแล้วประพฤติผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ ไม่ใช่ให้รางวัลไปแล้วก็แล้วกันไป โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ หากพบว่ามีการทำผิดจรรยาบรรณก็จะเพิกถอนรางวัลทันที ซึ่งในกรณีของครูปรีชาเท่าที่ทราบไม่เคยได้รับรางวัลของคุรุสภา นอกจากนี้ในปี 2562 การเสนอรายชื่อครูเพื่อพิจารณาให้รางวัล จะให้ครูที่มีคุณสมบัติสมัครมาโดยตรง และคุรุสภาจะเป็นผู้คัดเลือกส่งไปให้เขตพื้นที่การศึกษากลั่นกรองและส่งกลับมาให้คุรุสภาพิจารณา แทนที่จะให้เขตพื้นที่การศึกษาคัดครูส่งมาเอง เพราะที่ผ่านมามีการเสนอคนของตัวเองเข้ามา ส่วนครูที่มีผลงานดีแต่เขตพื้นที่ไม่ชอบก็ไม่ส่งชื่อมา
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |