"ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี มีถิ่นฐานพำนักที่ดูไบ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ผลจากคดีจำนำข้าวทำให้ต้องแอบหนีออกนอกประเทศ และทำท่าจะลงหลักปักฐานในสหราชอาณาจักร

    สองผู้ยิ่งใหญ่แห่งชินวัตรผู้เคยเป็นเบอร์ 1 ด้านบริหาร กระเด็นหลุดจากวงโคจรอำนาจ พลัดพรากแผ่นดินแม่ไปอยู่ต่างประเทศ หนทางโอกาสหวนคืนยังไม่รู้ชาตินี้จะมีโอกาสกลับมาเหยียบผืนดินถิ่นเกิดหรือไม่
    ลูกโอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายทักษิณ หลานชาย อาปู-ยิ่งลักษณ์ เมื่อส่องชะตากรรมทางคดี ในวันนี้ตกอยู่ในอาการน่าเป็นห่วงเช่นกัน หลังกลายเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ธนาคารกรุงไทยให้กลุ่มกฤษดามหานคร  
    พานทองแท้ ใช้ทุกช่องทางกฎหมายต่อสู้เช่นกัน ไม่กี่วันก่อน ชุมสาย ศรียาภัย ทนายความผู้รับมอบอำนาจ ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด (อสส.) ขอให้ตรวจสอบและพักการปฏิบัติหน้าที่ นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน เพราะเห็นว่าปฏิบัติหน้าที่ด้วยอคติ ไม่เป็นธรรมต่อผู้ต้องหา น่าเชื่อว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่เกินอำนาจ ให้สัมภาษณ์ในเชิงวิจารณ์ผู้ต้องหาลักษณะไม่เป็นกลาง
    ไม่เท่านั้นยังร้องขอความเป็นธรรม พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กรณีพนักงานสอบสวนคดีพิเศษตัดพยานของฝ่ายผู้ต้องหาจาก 18 ปาก เหลือ 3 ปาก ซึ่งถือว่าเป็นพยานปากสำคัญ และขอให้อธิบดีดีเอสไอสั่งการหรือควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในสำนวนคดีนี้ในเรื่องความยุติธรรม ให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายและเป็นธรรมต่อผู้ต้องหา
      คดีสมคบฟอกเงินเป็นคดีร้ายแรง ผลคดีออกมามีชะตากรรมเป็นเดิมพัน
    นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 ในฐานะพนักงานสอบสวนคดีฟอกเงินจากการอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทยให้กลุ่มกฤษดามหานคร ระบุชัดสามารถสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ โดยคดีดังกล่าวจะหมดอายุความในเดือน ธ.ค.61 "ผมเองเป็นข้าราชการต้องทำตามหน้าที่ ไม่ได้มีอคติกลั่นแกล้งคน"
      สำทับด้วย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ย้อนเกล็ดทนายที่หาว่าถูกตัดพยานปากสำคัญ  "พนักงานสอบสวนทำหนังสือแจ้งไปยังพยานโดยกำหนดวันเวลาล่วงหน้า ตั้งแต่วันที่ 16-17 ม.ค แต่เมื่อถึงกำหนดนัดพยานไม่มาให้ปากคำ อ้างติดภารกิจอื่นแล้วขอเลื่อนนัด หากอยากให้สอบปากคำถึงเวลานัดต้องมา ไม่ใช่เลื่อนทั้งหมดจนเป็นเหตุให้การทำสำนวนล่าช้า"
      ผลคดีคืบหน้าเดินไปอย่างเข้มข้น
      คนในพรรคเพื่อไทยบางคนมองว่า จุดอ่อนทักษิณ มีอยู่ไม่กี่เรื่อง หนึ่งในนั้นคือเรื่องคนในครอบครัว ก่อนหน้าตัวเองโดนไปแล้ว นั่นอาจไม่เท่าไหร่เพราะเป็นตัวเอง ต่อมาน้องสาว-ยิ่งลักษณ์ก็โดนอีก  ตอนนี้ถึงคราว ไข่ในหิน ลูกโอ๊คที่ไม่รู้ชะตากรรมจะเป็นอย่างไร เรื่องนี้มองได้ทั้งหวังบีบให้เพื่อไทยและทักษิณอย่าซ่ามาก หรือหวังจะเอาเรื่องล้างชินวัตรให้สิ้นซากไปเลย
      ก่อนคดีจะถูกส่งมายังดีเอสไอตอนอยู่ในชั้น ป.ป.ช. ก็ถูกคนใน เครือข่ายบ้านชินวัตร ตั้งข้อสังเกตตั้งแต่ชั้นพยาน ที่เสมือนจะแยกกันไม่ออกในความเกี่ยวข้อง ก็ให้การกลับไปกลับมาจนสุดท้ายถูกกันออกไปให้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แถมยังได้ดิบได้ดีมีตำแหน่งใหญ่โตในรัฐบาลนี้อีก โดยที่ตัวใหญ่สุดในนามบอร์ดก็เช่นกัน นอกจากไม่มีความผิดยังพลิกมุมทางกฎหมาย กลายเป็นฝ่ายถูกได้เสวยสุขในอำนาจในปัจจุบันอีก
      เป็นทฤษฎีสมคบคิด สะท้อนความผิดปกติที่มุมมองคนเพื่อไทยพ่นออกมา
    ในมุมคนนอกก็ทำให้คิดได้อีกเช่นกัน โอ๊คปล่อยวอยซ์ทีวีที่ร่วมก่อตั้งฟันฝ่ามา คงไม่ใช่เพียงเหตุผลทางธุรกิจที่แบกรับตัวเลขไม่ไหวเพียงอย่างเดียว ประกอบกับพักหลังเจ้าตัวไม่ค่อยแสดงความเห็นดุเดือดต่อผู้มีอำนาจใน คสช. คงพอเห็นสัญญาณบางอย่างเลยไม่อยากโหมเชื้อเป็นชนวนให้ถูกพิพากษาเร็วขึ้น
     ชะตากรรมบรรทัดสุดท้ายลูกโอ๊คจะเป็นเช่นไร เป็นเรื่องที่ต้องตามติดกันอย่างใกล้ชิด  ชนิดห้ามกะพริบตาเลยทีเดียว.