'ทรัมป์' ร่วมเวทีเวิลด์อีโคโนมิกฟอรัม


เพิ่มเพื่อน    

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2561 ภาพ AFP

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีโอกาสได้ใช้ทักษะการเป็นพ่อค้าของเขาต่อหน้าบรรดาผู้นำทางธุรกิจชั้นนำจากทั่วโลกที่มาร่วมการประชุมเวิลด์อีโคโนมิกฟอรัมที่เมืองดาวอส แต่เรื่องอื้อฉาวทางการเมืองในประเทศยังตามมาหลอกหลอนถึงสวิตเซอร์แลนด์
    รายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวันศุกร์ที่ 26 มกราคม 2561 ว่าประธานาธิบดีสหรัฐเดินทางมาร่วมการประชุมที่เมืองดาวอสของสวิตเซอร์แลนด์ และได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์แสดงวิสัยทัศน์ของเขาต่อบรรดานักธุรกิจชั้นนำว่า นโยบายของรัฐบาลเขา ที่กล่าวถึง "อเมริกาต้องมาก่อน" ไม่ได้หมายความว่ามีแต่อเมริกาเท่านั้น
    ก่อนหน้านั้น เจ้าหน้าที่อาวุโสในรัฐบาลของเขาเกริ่นไว้กับผู้สื่อข่าวว่า อเมริกาเปิดกว้างรับการทำธุรกิจอีกครั้ง ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่มีช่วงเวลาใดเหมาะไปกว่าเวลานี้อีกแล้วที่จะมาลงทุน มาจ้างงานในสหรัฐ
    ขณะเดียวกัน มีการคาดเดากันล่วงหน้าว่า ทรัมป์จะใช้เวทีนี้กล่าวเตือนประเทศคู่ค้าของสหรัฐว่า พวกเขาต้องทำการค้าอย่างยุติธรรม มิเช่นนั้นก็จะเผชิญความเสี่ยงจากการตอบโต้ของสหรัฐ
    ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลของทรัมป์ได้แสดงให้เห็นถึงการพุ่งเป้าเล่นงานสินค้าหลายชนิดของจีนและเกาหลีใต้ด้วยการขึ้นภาษีศุลกากรนำเข้าแผงเซลล์สุริยะและเครื่องซักผ้า และรัฐมนตรีคลังของเขายังสร้างความปั่นป่วนแก่ตลาดเงินด้วยการกล่าวเป็นนัยว่าพร้อมจะให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนลง
    ทรัมป์เดินทางมาเวทีนี้ด้วยความมุ่งหมายจะแสดงท่าทีที่ประนีประนอมมากขึ้น หวังจะนำเสนออเมริกาต่อสายตาชาวโลก และหวังจะหลบหลีกปัญหาวุ่นวายจากข่าวอื้อฉาวภายในประเทศ แต่ทว่าเช้าวันพฤหัสบดี ทรัมป์กลับต้องมารับมือกับรายงานข่าวของนิวยอร์กไทมส์ที่เปิดโปงว่า เมื่อปีที่แล้ว เขาเคยสั่งการให้ไล่โรเบิร์ต มุลเลอร์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง พ้นจากหน้าที่อัยการพิเศษที่สอบสวนคำกล่าวหารัสเซียแทรกแซงเลือกตั้งและสมคบกับทีมงานหาเสียงของเขาเพื่อช่วยให้นักธุรกิจมหาเศรษฐีรายนี้ชนะการเลือกตั้ง
    คำสั่งปลดมุลเลอร์ถูกยกเลิกภายหลังคณะที่ปรึกษาของทำเนียบขาวขู่จะลาออก
    "ข่าวปลอม ตามแบบฉบับของนิวยอร์กไทมส์ เรื่องราวปลอมๆ" ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อมาถึงที่ประชุม
    ในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของอังกฤษที่เมืองดาวอส ทรัมป์ยังกล่าวพาดพิงถึงเรื่องอื้อฉาวอีกเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วด้วย
    เหตุการณ์ครั้งนั้น ทรัมป์ได้รีทวีตเนื้อหาที่เป็นวิดีโอของกลุ่มขวาจัดในอังกฤษ ที่แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของพวกอิสลามิสต์ ในคำให้สัมภาษณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ ทรัมป์กล่าวว่า "ถ้าคุณบอกกับผมว่าพวกเขาเป็นพวกเหยียดผิวที่น่าเกลียด ผมจะต้องขอโทษอย่างแน่นอนหากคุณอยากให้ผมทำแบบนั้น"
    ผู้นำสหรัฐปากไวรายนี้เพิ่งโดนประณามว่าเป็นคนเหยียดผิว หลังจากมีรายงานในเดือนนี้ว่าเขากล่าวดูถูกเหยียดหยามประเทศในทวีปแอฟริกาว่าเป็นแหล่งรวมความโสโครก
    ก่อนหน้าขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่ดาวอส ทรัมป์ได้นั่งสนทนากับประธานาธิบดีพอล คากาเม แห่งรวันดา ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานสหภาพแอฟริกา (เอยู) วาระปัจจุบันด้วย โดยทรัมป์ได้ขอร้องคากาเมถ่ายทอดความเคารพนับถืออย่างอบอุ่นที่สุดของเขาที่มีต่อผู้นำแอฟริกาท่านอื่นๆ เมื่อคากาเมไปประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มเอยูช่วงสุดสัปดาห์นี้
    อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าผู้นำธุรกิจชาวแอฟริกาบางคนประกาศไว้ล่วงหน้าว่า พวกเขาเตรียมจะบอยคอตสุนทรพจน์ปิดการประชุมของทรัมป์ วินนี ไบอันนิมา ผู้อำนวยการบริหารของออกซ์แฟมบอกด้วยว่า ชาวแอฟริกาบางคนกล่าวกันว่าพวกเขาเตรียมเดินออกจากห้องประชุมเพื่อประท้วง.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"