ต้องชัดเจน! ชาวบ้านขอคำตอบ'ไพรินทร์' สั่งเดินหน้าหรือหยุดโครงการแลนด์บริดจ์ สงขลา-สตูล

24ก.ย.61-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสองฝั่งทะเล สงขลา – สตูล  ได้ส่งจดหมายเปิดผนึก ถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อขอทราบสถานภาพปัจจุบันของโครงการแลนด์บริดจ์สงขลา – สตูล  หรือ โครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา และโครงการท่าเรือน้ำลึกสงขลา 2 (บ้านสวนกง)

โดยระบุใจความว่า ตามที่นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ออกมาให้ข่าวกับสื่อสาธารณะ  เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2561 เกี่ยวกับกรณีโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา และท่าเรือน้ำลึกสงขลา 2 ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของยุทธศาสตร์เชื่อมทะเลระหว่างฝั่งอันดามัน และอ่าวไทย หรือที่เรียกว่า “แลนด์บริดจ์ สงขลา – สตูล”  ว่า กระทรวงคมนาคมได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว เพื่อประเมินสถานการณ์ที่ผ่านมา รวมถึงการวิเคราะห์ถึงปัญหาอุปสรรคที่ไม่สามารถทำให้การศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือการทำ EHIA. ดำเนินไปตามแผนงาน และตามระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ได้  ซึ่งทำให้พบเหตุปัจจัยหลายประการที่ทำให้ประชาชนในพื้นที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการจนนำไปสู่การคัดค้านอย่างหนัก ประกอบกับสถานการณ์อื่นๆที่เข้ามาในพื้นที่ ดังนั้นกระทรวงคมนาคมจึงมีความเห็นให้ชะลอโครงการทั้งสองออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด
 

ในขณะที่ข้อเท็จจริงต่อเรื่องนี้ เครือข่ายฯได้ค้นพบข้อบกพร่อง และเหตุปัจจัยต่างๆที่นำไปสู่การตัดสินใจดังกล่าวนี้ ที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ไม่ได้เปิดเผยให้กระจ่างจัด  อย่างเช่นชุดโครงการเหล่านี้แยกการศึกษาออกเป็นส่วนๆ จึงทำให้ประชาชนไม่เห็นภาพรวมของโครงการ  อีกทั้งยังไม่มีการศึกษาในเชิงยุทธศาสตร์ของพื้นที่หรือที่เรียกว่า SEA.  เพราะแนวคิดการเชื่อมเส้นทางคมนาคมสองฝั่งทะเลถือเป็นเรื่องใหญ่ ที่จะต้องมีการศึกษาอย่างละเอียดรอบคอบก่อนการตัดสินใจสร้าง

การดำเนินงานของบริษัทที่ปรึกษาโครงการไม่เป็นไปตามมาตรฐานของการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือ EHIA. จึงทำให้การศึกษาดังกล่าวไม่เป็นกลาง ที่สำคัญคือมีความพยายามที่จะปิดกั้นการแสดงออกของประชาชนที่มีความเห็นต่าง รวมทั้งการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษา ไม่ได้สนใจข้อมูลด้านศักยภาพที่มีอยู่จริงของพื้นที่ ทั้งในมิติด้านทรัพยากร การท่องเที่ยว วิถีวัฒนธรรม เพื่อนำไปใช้ในการวิเคราะห์โครงการ หากแต่ให้ความสำคัญข้อมูลทางด้านตัวเลขทางเศรษฐกิจที่อ้างว่าจะสร้างความเจริญเพียงเท่านั้น  ขณะเดียวกัน ยังรวมถึงการประกาศขององค์การยูเนสโก้ ที่ได้รับรองให้จังหวัดสตูลเป็นพื้นที่แหล่งธรณีวิทยาระดับโลก

จากคำแถลงดังกล่าวนั้น ทำให้ประชาชนในพื้นที่เข้าใจร่วมกันว่า รัฐบาลได้มีการสั่งให้ยกเลิกโครงการทั้งสองนี้ไปแล้ว  หากแต่เมื่อวันที่ 8 -9 กันยายน ที่ผ่านมาได้มีการนำเรือขุดเจาะสำรวจชั้นดิน ที่อ้างว่ากรมเจ้าท่า และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาสั่งให้มาดำเนินการในพื้นที่ทะเลหน้าบ้านสวนกง ซึ่งเป็นที่ตั้งของจุดก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกสงขลาแห่งที่ 2 จึงยังความสับสนให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างมาก จนนำไปสู่เหตุการณ์คัดค้านการเข้ามาของเรือสำรวจดังกล่าว โดยชาวบ้านในพื้นที่ เครือข่ายปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสองฝั่งทะเล สงขลา – สตูล และภาคีเครือข่าย จึงมีข้อเสนอให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการเพื่อสร้างความกระจ่างในเรื่องนี้กับสังคมต่อไป โอกาสนี้เราจึงเสนอแนวทางเพื่อให้ท่านได้ดำเนินการดังต่อไปนี้

1.กระทรวงคมนาคมต้องออกประกาศความชัดเจนต่อเรื่องนี้อีกครั้ง พร้อมนำเสนอมาตรการเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนมากไปกว่านี้ และเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่โครงการ 2.    ต้องสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหยุดการดำเนินการใดๆในทุกรูปแบบ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนกับประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะการดำเนินโครงการตามแผนการศึกษาโลจิสติกส์ทางน้ำขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ที่ได้มีการเข้าไปสำรวจเส้นทาง และเข้าไปขุดเจาะสำรวจชั้นดินในพื้นที่บ้านสวนกงอย่างที่ผ่านมาไว้ด้วย และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงถึงที่มาที่ไปของการสำรวจในส่วนที่เป็นโครงการตามแผนงานของ อบจ.สงขลา ให้ประชาชนเข้าใจและรับทราบในประเด็นนี้โดยทั่วกันด้วย

จดหมายดังกล่าวกระบุด้วยว่า ระหว่างนี้เครือข่ายฯ และประชาชนในพื้นที่จะยังเฝ้าระวัง เพื่อไม่ให้มีการดำเนินการใดๆจนกว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาม และหากเราไม่ได้รับคำตอบต่อเรื่องนี้ในเวลาที่เหมาะสมแล้ว ทางเครือข่ายและภาคีที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันหาทางนำเรื่องนี้ไปสอบถามกับรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีต่อไป.