24ก.ย.61- นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่ากากระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าการตั้งแต่อธิการบดีกลุ่มมหาวิทยาลัยของรัฐ ตามที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น โดยให้เพิกถอนมติสภามหาวิทยาลัยราชภัฎ (มรภ.) กาญจนบุรี ที่แต่งตั้งนายปัญญา การพานิช เป็นรักษาราชการแทนอธิการบดีมรภ.กาญจนบุรี  เพราะเป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย และนายปัญญา ก็อายุเกิน 60 ปี ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาฯ กกอ.) และนายวีรสิทธิ์ สิทธิไตรย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เข้าพบพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือแนวทางในการแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าว ซึ่งก็น่าจะได้ทางออก เพราะสุดท้ายก็ต้องว่ากันด้วยกฎหมาย สำหรับข้อเสนอที่นายสุภัทร เสนอมาก่อนหน้านี้ เป็นเพียงข้อเสนอทางกฎหมายเท่านั้น โดยรองนายกฯ ได้มอบให้นำกรอบกฎหมายดังกล่าวไปทำให้เกิดฉันทามติ ให้ทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกัน และหากต้องมีการปรับแก้กฎหมายในส่วนใดเพื่อให้ดำเนินการได้ก็ขอให้เสนอเข้ามา

สำหรับกรณีที่มหาวิทยาลัยเสนอรายชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งอธิการบดี เพื่อเสนอโปรดเกล้าฯ แต่อายุเกิน 60 ปี รมว.ศธ.กล่าวว่า ตนก็จะไม่เสนอ เนื่องจากช่วงนี้ยังมีข้อขัดแย้งอยู่จึงไม่สามารถเข้าโปรดเกล้าฯ ได้ แต่อีกข้อเรียกร้องหนึ่งคือ ต้องการให้ตนไปปลดอธิการบดีที่อายุเกิน 60 ปีก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน เพราะเขามาโดยถูกต้องตามข้อบังคับ ส่วนอำนาจตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 39/2559 นั้น ตนจะใช้ได้ในกรณีที่มีปัญหาเรื่องธรรมาภิบาลเท่านั้น ซึ่งหากดำเนินการอะไร เท่ากับว่าผิดกฎหมายอาญา มาตรา 157 ทันที 

"แต่หากจากฟ้องมาตรา 157 ผมก็เชิญฟ้องผมได้ แต่ตามขั้นตอนจะต้องร้องเรียนผ่านสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อย่างไรก็ตาม หากเป็นการฟ้องผิดและหมิ่นประมาทผม ผมก็จะแจ้งความกรณีแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาทเช่นกัน ดังนั้นทุกอย่างขอให้เป็นไปตามกฎหมาย อย่าใช้วิธีขู่ผม”รมว.ศธ.กล่าว"