‘ปลื้ม’เข้าปชป. คุยกับ‘พ่อ’แล้ว ลั่นเลิกแบ่งฝ่าย


เพิ่มเพื่อน    

 "ปลื้ม-สุรบถ" เตรียมสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เผยไปเป็นทีม มีลูกหลานนักการเมืองหลายพรรคร่วมทัพ ถนัดงานด้านการสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ ระบุคุยกับพ่อแล้วแต่ยังไม่ได้บอก "พี่มาร์ค" ลั่นหมดยุคความขัดแย้ง การเมืองในอนาคตจะเหมือนการทำธุรกิจในยุคนี้ คือสามารถร่วมงานกันได้  ไม่แบ่งฝ่าย

    เมื่อวันเสาร์ นายสุรบถ หลีกภัย บุตรชายนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนจะไปสมัครสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทันทีที่พรรคเปิดรับสมัครสมาชิก โดยงานที่จะเข้าไปช่วยขึ้นอยู่กับพรรคเล็งเห็นถึงความสามารถของตนในส่วนไหน ส่วนจะลงสมัคร ส.ส.ในระบบแบ่งเขตหรือระบบปาร์ตี้ลิสต์นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ คงต้องรอคุยกับพรรคก่อนว่าจะให้ลงสมัคร ส.ส.แบบใด 
    "ผมคิดว่าอยู่จุดไหนก็ได้ ที่พรรคเห็นว่าผมมีประสิทธิภาพให้ช่วยในจุดนั้น ทั้งนี้ เมื่อเข้ามาจะมีทีมที่ถนัดแต่ละด้านเข้ามาทำงานด้วย โดยทีมของผมเป็นลูกหลานของนักการเมืองจากหลายพรรคมาร่วมกัน และรู้ว่าจะเสนออะไร สื่อสารอะไรให้คนรุ่นใหม่เข้าใจ โดยการสื่อสารด้วยภาษาที่ง่าย อย่างไรก็ตาม ความถนัดของผมที่จะเข้าไปช่วยพรรคทำงานเป็นเรื่องการสื่อสารกับคนยุคใหม่ๆ วัยรุ่น เพราะเราทำงานด้านนี้มานาน จึงมีความเข้าใจในการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย"
    นายสุรบถกล่าวว่า เรื่องสมัครเป็นสมาชิกได้คุยกับพ่อแล้ว ซึ่งท่านสนับสนุนดี แต่ได้คุยกันในส่วนว่าจะช่วยทางพรรคและอยากเข้าไปทำอะไรหลายๆ อย่าง เพราะรู้สึกว่าน่าจะมาสื่อสารกับคนยุคใหม่ได้ อีกทั้งคิดว่าเป็นยุคที่ต้องคุยกันเยอะๆ อย่างไรก็ตาม การพูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ยังไม่ได้คุยอย่างเป็นทางการ เพราะอยากเข้าไปสมัครสมาชิกแบบปกติตามที่เขาประกาศ
    "มองว่าหมดยุคที่เราเอาเรื่องเก่า ความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจมาทะเลาะกัน รู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้ควรหมดไปได้แล้ว และคนรุ่นผมไม่มีรูปแบบความขัดแย้งเก่าๆในรูปแบบนั้น เพราะคุยกันได้มาก อย่างผมมีเพื่อนที่อยู่ต่างฝ่ายต่างพรรคกันมากๆ แต่ไม่ใช่นำเรื่องผู้ใหญ่หรือเรื่องยุคพ่อยุคแม่มาทะเลาะกัน คิดว่าควรหยุดได้แล้ว เพราะคือเรื่องพื้นฐานที่สุด กว่าเราจะก้าวไปสู่อนาคตได้ อย่างน้อยที่สุดต้องหยุดการบาดหมาง"
    นายสุรบถเชื่อว่าสังคมมีความแตกต่างทางความคิด ไม่มีใครชอบสีเหมือนกับเรา แต่ต้องไม่แตกแยกทะเลาะกัน ตนรู้สึกว่ายุคพวกตนเราเลือกเข้ามาคุยกันด้วยเหตุผลได้ เชื่อว่าการเมืองในอนาคตจะเหมือนการทำธุรกิจในยุคนี้ คือสามารถร่วมงานกันได้ ที่จะไม่ใช่เรื่องต้องแบ่งฝ่ายชัดเจน เชื่อว่าเรามีเป้าหมายเดียวกัน คือให้ประเทศชาติและประชาชนดีขึ้น 
    "สำหรับผม การเมืองจะไม่ใช่การแบ่งแยกเหมือนในอดีต รู้สึกว่าเป็นยุคเก่าและน้ำเน่ามาก ซึ่งไม่มีประโยชน์กับใครเลย เป็นแค่การทะเลาะของคนกลุ่มหนึ่งเล็กๆ ที่บาดหมางเรื่องอะไรไม่ทราบ แต่สุดท้ายทำให้คนกลุ่มมากเกิดความแตกแยก ดังนั้น การเมืองในอนาคตควรจะร่วมมือกันได้ ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน คือมีจุดร่วมกัน หาคนเก่งที่สุดในทุกๆ ด้าน  แล้วไปทำสิ่งนั้นๆ ให้เหมาะสมที่สุด จึงเชื่ออนาคตการเมืองจะเป็นแบบนั้น" นายสุรบถกล่าว
    เมื่อถามถึงมุมมองบุคคลที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งขณะนี้มีการแข่งขันกันอยู่นั้น นายสุรบถกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ บอกได้เพียงว่าคนรุ่นตนจะทำอะไรได้บ้าง แต่ไม่ได้แปลว่าคนยุคก่อนทำอะไรไม่ดี ไม่ใช่ แต่เป็นยุคที่บุกเบิกให้สิ่งต่างๆ ไว้ให้คนรุ่นหลัง เขาอาจทำสิ่งที่ดีและผิดพลาด แต่คือบทเรียนของเรา ต่อให้คนทั่วไปอาจมองคนนั้นดี-ไม่ดีอย่างไร เชื่อว่าทุกคนทุกรัฐบาล ผู้ใหญ่ที่ทำงานเพื่อประเทศมีจุดยืนเดียวกัน คืออยากให้ประเทศดีขึ้น จึงอยากให้การเมืองยุคหลังมองอนาคต ไม่เหลียวมองเรื่องเก่าๆ มองไปข้างหน้าด้วยกัน ลดความแตกแยกที่เป็นเบสิกที่สุด เหมือนเรือกลางทะเล ถ้าลูกเรือเอาแต่ทะเลาะกัน เรือก็ไม่เดินไปไหน 
    เมื่อถามย้ำว่า สนับสนุนนายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคต่อหรือไม่ นายสุรบถกล่าวว่า ท่านเป็นคนดีมีความสามารถ และเคารพท่านจากใจจริง
    นายสุรบถกล่าวต่อว่า นักการเมืองในอนาคตจะอยู่ในตำแหน่งคล้ายโปรดิวเซอร์ คือเลือกของดีที่สุดในแต่ละแขนงมาร่วมกัน ไม่ใช่เอาพวกพ้องที่สนิทกัน
    ถามว่ากลัวถูกเปรียบเทียบกับพ่อหรือไม่ เพราะนายชวนประสบความสำเร็จทางการเมือง นายสุรบถชี้แจงว่า ไม่กลัวถูกเปรียบเทียบ พ่อก็คือพ่อ ตนก็คือตน นับถือที่พ่อเป็นคนดี ซึ่งพ่อได้ปลูกฝังสิ่งต่างๆ ในใจ ทำให้ตนมีวันนี้ได้ แต่หากถามว่าต้องทำงานการเมืองหรือจุดยืนแบบพ่อหรือไม่ ก็ต้องตอบว่าไม่ เพราะตนมีสไตล์ของตัวเอง มีสิ่งที่อยากทำและทำในสิ่งที่ถนัด เพราะฉะนั้นจึงต้องเรียกพ่อว่าเป็นคนดีที่ยิ่งใหญ่สำหรับตน และจะอยู่ในทุกๆ จุดของการตัดสินใจที่ดีงาม เชื่อว่าการตัดสินใจของพ่อยืนอยู่บนความดีและความถูกต้อง.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"