‘ศรราม’เปิดใจครั้งแรกหลังวิวาห์ฟ้าแล่บ


เพิ่มเพื่อน    

 

          จู่ๆ หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์ และแฟนสาว ติ๊ก  บิ๊กบราเธอร์  หรือ  กนิษฐ์รินทร์ พัชรภักดีโชติ ก็จัดงานวิวาห์แบบสายฟ้าแล่บ พร้อมทั้งประกาศข่าวดีว่ากำลังจะมีศรรามจูเนียร์แล้ว งานนี้นอกจากแฟนๆ จะเซอร์ไพรส์ แม้แต่เพื่อนๆ ในวงการบันเทิงยังถึงกับอึ้งเพราะไม่มีข่าวระแคะระคายมาก่อน

          โดยล่าสุดทางด้านของ หนุ่ม ศรราม ได้เปิดใจถึงเรื่องข่าวดีทั้งการแต่งงานและกำลังจะเป็นคุณพ่อ ในขณะที่เจ้าตัวเดินทางไปร่วมแสดงความยินดีกับ ดร.ลิเดีย-ปริยันก้า ตั้งภาวนาสกุล ในงานเปิดตัวบริษัท GF GROUP GRAND OPENING ณ อิมแพค เมืองทองธานี โดยหนุ่มเผยว่า

            “คงต้องขอเรียนพี่ๆ ดังนี้นะครับ จากที่เริ่มต้นพูดคุยเริ่มต้นคบหากัน ในส่วนผมรู้สึกว่าในเวลาที่ผมไม่สบายใจ หรือผมมีความทุกข์ใจ  หรือในช่วงของชีวิตที่มันอาจจะมีอะไรที่มันยากๆ ผมรู้สึกว่าน้องเขาไม่ทอดทิ้งผมแล้วก็อยู่เคียงข้างผมเสมอ และผมก็ทราบซึ้งในน้ำใจของเขา ผมคอยสังเกตในเรื่องที่เขาคอยเอาใจใส่คุณแม่ผม ผมรู้สึกว่าผมอยากวางแผนชีวิตแล้วก็อยากให้เขาเป็นแม่ของลูกผม  เราก็เลยวางแผนที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน แล้วก็เริ่มเตรียมงานเตรียมอะไร ขอฤกษ์ต่างๆ จากท่านมุ้ย หรือว่าเตรียมเรื่องหาโรงแรม ซึ่งตรงนี้อยู่ระหว่างการเตรียมงาน ไม่ได้ตั้งใจว่าจะปิดบังหรืออะไร ตั้งใจว่าเราก็ทำตามกำลังของเรา ไม่ได้ดีล้นฟ้าหรือไม่ได้ดูแย่จนเกินไป ก็ทำตามกำลังพอกินพอใช้ของครอบครัวเรา

          แล้วพอดีมันมีอยู่วันหนึ่งก่อนหน้าที่จะทราบว่าน้องมานะครับ ผมนอนตอนกลางวัน แล้วป๋ามาเข้าฝัน ซึ่งตั้งแต่ป๋าเสียไป ป๋าไม่เคยมาเลย แล้วก็ไม่เคยฝันถึงป๋าด้วย ป๋ามาอยู่ตรงปลายเตียงแล้วบอกว่า”ไอ้หมาดูแลลูกกับดูแลเมียให้ดีนะ” ผมก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา ก็เล่าให้คุณแม่ผมฟัง แล้วเล่าให้ติ๊กฟัง ติ๊กก็บอกว่าเขาก็ฝันเหมือนกัน ฝันว่าคุณแม่ผมให้แหวนเขา  ก็ปรึกษากันว่างั้นเราไปโรงพยาบาลกันดีกว่า เพราะเราสองคนเองก็ไม่ได้คุมกำเนิด เราตั้งใจจะมีอยู่แล้ว ก็ไปหาหมอ คุณหมอก็บอกให้เราฝากครรภ์เลย ก็อย่างที่เห็นเจ้าตัวเล็กที่ผมโพสต์ในอินสตาแกรมนะครับ ซึ่งก่อนหน้านั้นตัวติ๊กเองก็ไม่มีอาการอะไรเลย แต่ตัวผมเองนอนไม่เคยฝัน ผมก็เลยตกใจว่าพ่อผมมาบอกอะไรแบบนี้ ถ้าป๋ายังไม่ทักคำว่าลูกคำแรกก็คงยังไม่รู้สึกอะไร

 

 

          ไปทำอัลตราซาวด์มาคุณหมอบอกว่าถ้านับจากที่ประจำเดือนไม่มาก็ประมาณ 6 สัปดาห์ 2 วัน ที่มีเสียงชีพจรให้ได้ยินนะครับ แต่งานแต่งงานที่เห็นไปเราเตรียมการไว้อยู่แล้ว เมื่อวานท่านมุ้ยก็ประทานน้ำสังข์ แล้วก็ประทานเลี้ยงอาหารกลางวัน แต่ในส่วนที่ต้องไปกราบผู้ใหญ่ที่เราเคารพไม่ว่าจะเป็น ลุงหรั่ง จะเป็นเฮียฮ้อ จะเป็นคุณประวิทย์ จะเป็นพี่บอย ถกลเกียรติ พี่หน่อง หรืออีกหลายๆ ท่าน รวมถึงเพื่อนๆ นักแสดง เพื่อนๆ สมัยเรียน รวมถึงพี่ๆ สื่อมวลชนด้วย เดี๋ยวถ้าเสร็จอะไรเมื่อไหร่ การ์ดเสร็จก็จะไปกราบเรียนเชิญด้วยตัวเอง เดี๋ยวจะมีงานอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าน่าจะเป็นในเดือนธันวาคม เท่าที่ดูคิวของโรงแรม

          ที่ถามว่าผมรู้จักกับติ๊กได้ยังไง ผมรู้จักกับตั๊กตอนไปออกกำลังกาย เพราะติ๊กเขาเป็นคนที่ดูแลสุขภาพ เหมือนต่างคนก็ต่างออกกำลังกาย เราใช้เวลาคบหากันไม่มาก แต่ผมก็สามารถรู้ได้ว่ามันมีบางอย่าง เวลาที่เราไม่สบายใจหรือผมเป็นทุกข์ น้องเขาปรับตัวและปรับอารมณ์ให้เราสามารถอยู่ด้วยกันได้ดี สิ่งที่เขามัดใจเราได้มันมีหลายสิ่งหลายอย่างครับ หลังจากนี้ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ วินาทีแรกที่ได้ยิน ได้เห็นชีพจรเต้นของลูก แว๊บแรกนี่คิดถึงป๋าก่อน คิดว่าถ้าป๋าอยู่ต่ออีกสักปีหนึ่ง ป๋าคงจะเห่อหลานน่าดู คงจะตามใจมากกว่าผมเยอะ แต่พอมาคิดอีกทีก็อยากจะบอกให้ป๋าที่อยู่บนสวรรค์ทราบว่า เทพพิทักษ์มีผู้สืบสกุลแล้ว ส่วนคุณย่าตอนนี้อยู่กับติ๊ก ไปไหนมาไหนด้วยกัน ผมเองก็ทำงานได้อย่างเต็มที่มากขึ้น มีคนมาช่วยดูแลคุณแม่ คุณแม่ก็ช่วยดูแลแฟนผมด้วย

 

 

          ตอนนี้กับติ๊กเราจดทะเบียน เราทำถูกต้องตามพิธีและกฎหมายทุกอย่าง ส่วนลูกเพศไหนก็ได้ครับ ผู้หญิงผู้ชายก็รักหมดครับ ยังไงผมก็รักและจะเลี้ยงดูเขาอย่างดีที่สุดครับ เรื่องเรือนหอที่บอกว่าราคา 10 ล้าน อันนี้ก็ต้องถามคุณย่าดีกว่าครับ ผมไม่รู้เรื่องเลย ผมเองก็ทำงานหนักมาตั้งแต่เด็ก ทำงานมาทั้งชีวิต ต้องขอบพระคุณคุณแม่นะครับที่ท่านเก็บหอมรอมริบไว้ให้ผม สิ่งที่คุณแม่เก็บมาให้ผมทั้งชีวิตก็คงจะให้หลานล่ะครับ  

          พอแต่งงานรู้ว่ากำลังจะมีลูก มีความสุขมากขึ้นครับ ผมทราบว่าการมีความสุขที่มีครอบครัวมันไม่ได้อยู่ที่เรือนหอราคา 10 ล้าน หรืออยู่ที่มีเงินทองมากมาย มันอยู่ที่ความรักความอบอุ่น ความเอาใจใส่ ความเมตตาที่ดีซึ่งกันและกันมากกว่า มันก็เลยทำให้ทั้งตัวผมเอง ตัวคุณย่า หรือว่าจะเป็นคุณตา คุณพ่อของติ๊ก ทุกคนเหมือนกันมีชีวิตที่เริ่มต้นใหม่ คุณย่าก็ดูแลสุขภาพมากขึ้น อยากเลี้ยงหลาน ติ๊กเองก็ดูแลสุขภาพ ผมเองก็ต้องดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ เพื่อที่ว่าวันหนึ่งเมื่อตัวเล็กเขามาถึงเขาจะได้มีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีครับ

          ทางครอบครัว ทางคุณพ่อติ๊กก็น่ารักมาก ผมก็ทำตามวิธีที่ถูกต้อง มีไปสู่ขอกับคุณพ่อติ๊กที่โคราช คุณพ่อก็สอนเราทั้งคู่ ให้เราฟังกันเยอะๆ เวลาคนหนึ่งร้อนอีกคนก็ต้องเย็น อีกคนพูดอีกคนก็ต้องฟัง แล้วก็ได้คำอวยพร คำสั่งสอนจากผู้หลักผู้ใหญ่มากมาย ต้องขอกราบขอบพระคุณผู้ใหญ่ทุกๆ ท่าน พี่ๆ ทุกๆ ท่าน พี่ๆ สื่อมวลชนทุกๆ ท่านด้วย ต้องบอกว่าทุกวงการ ทุกอาชีพ ทุกแขนง สำหรับคำอวยพร สำหรับการแสดงความยินดี ให้กับผม ภรรยา และครอบครัว และเจ้าตัวเล็กของผมด้วย”

 

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"