‘ปชป.’รับเลือดไหล มาร์คชี้รู้ตลอดใครดูดใคร/‘เพื่อแม้ว’โอ่กวาดชัย


เพิ่มเพื่อน    

  ปชป.เลือดไหล อดีต ส.ส.ภาคตะวันออกลาออกแล้ว 2 คน "สาธิต" รับจะเสียใจหนักหากมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง "มาร์ค" รู้ตลอดใครดอดกินข้าวกับใคร ไม่นานความจริงปรากฏ "เพื่อไทย" กางปฏิทิน 28 ต.ค. ประชุมเลือกร่างทรงคนใหม่ จับตายกโขยงหาสมาชิกทั่ว ปท. ดักคอ คสช.อย่ากังวล "ภูมิธรรม" โวไร้เงา "ทักษิณ" อ้างเป็นบุคคลระดับโลกไปแล้ว เปิดข้อบังคับพรรคปลุกสมาชิกร่วมต้านรัฐประหาร "ปองพล"  หิ้วบุตรชายเข้าพบ "สมคิด" กลางทำเนียบฯ ก่อนซบพลังประชารัฐ เปิดไทม์ไลน์ภารกิจต่างแเดน "ลุงตู่" อัดแน่นก่อนปลดล็อก 

    เมื่อวันศุกร์ มีความเคลื่อนไหวทางการเมือง ภายหลังอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ภาคตะวันออก 4 คน ประกอบด้วย นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ อดีต ส.ส.ชลบุรี, พล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา, นายบุญเลิศ ไพรินทร์ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา, นายวิชัย ล้ำสุทธิ อดีต ส.ส.ระยอง ไปร่วมรับประทานอาหารกับ แกนนำกลุ่มสามมิตร นำโดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ,  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายอนุชา นาคาศัย จนมีข่าวว่าอดีต ส.ส.ปชป.ดังกล่าวกำลังถูกดูดและจะย้ายไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ 
    โดยนายวิชัย ล้ำสุทธิ อดีต ส.ส.ปชป.ระยอง กล่าวชี้แจงว่า ตนไปกินข้าวร่วมกันหลายครั้งแล้ว ไม่ได้ไปคุยเรื่องการเมือง แต่ไปคุยเรื่องความต้องการของคนระยอง อยากให้โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินไปถึงสถานีที่ 10 จ.ระยองเหมือนเดิม เพราะนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นบอร์ดรถไฟความเร็วสูงด้วย นายอุตตม สาวนายน เป็น รมว.อุตสาหกรรม ซึ่งมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นมือเศรษฐกิจ 
    "ถ้าถามว่าจะดูด ส.ส.ปชป.ภาคตะวันออกเข้าร่วมนั้น ต้องดูดรวมทั้งภาคให้หมด ถามว่าสมัยหน้าถ้ามีนายกฯ มาจากทหาร ผมไม่ไปร่วม เพราะทหารไม่ใช่มือเศรษฐกิจ แต่ถ้านายสมคิดมือเศรษฐกิจเป็นนายกฯมาบริหารประเทศก็ไม่แน่ เพราะเวลานี้ประชาชนต้องการให้เศรษฐกิจประเทศเราดีขึ้นกว่านี้" นายวิชัยกล่าว
    นายบัญญัติ เจตนจันทร์ อดีต ส.ส.ปชป.จ.ระยอง กล่าวว่า การที่นายวิชัย ล้ำสุทธิ จะไปนั่งร่วมรับประทานอาหารกับใครก็ได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก ตนสอบถามคุณวิชัย แล้ว ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ตอบแทนเขาไม่ได้ว่าจะย้ายพรรคหรือไม่ ส่วนตนยังอยู่พรรค ปชป.เหมือนเดิมเช่นกัน
     ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต ส.ส.ระยอง รองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงอดีต ส.ส.ปชป.ภาคตะวันออกไปกินข้าวกับกลุ่มสามมิตรว่า ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ทั้ง 5 คนยังไม่ได้แจ้งว่าจะลาออกจากพรรคไปสังกัดพรรคอื่น โดยขณะนี้มีอดีต ส.ส.ภาคตะวันออกที่มาแจ้งลาออกกับตนอย่างเป็นทางการแล้ว 2 คน คือ นายประมวล เอมเปีย อดีต ส.ส.ชลบุรี และนายธวัชชัย อานามพงษ์ อดีต ส.ส.จันทบุรี ส่วนนายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา อดีต ส.ส.จันทบุรี ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ รู้สึกเสียใจที่มีสมาชิกออกไป ตนเคารพในการตัดสินใจของสมาชิก ซึ่ง ปชป.ก็มีคนที่พร้อมจะเข้ามาแทน และเป็นบุคคลรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถทันยุคสมัย
    “ถ้าการลาออกไปของอดีต ส.ส.ครั้งนี้มีเรื่องของจำนวนตัวเลขหรือเงินมาเกี่ยวข้อง ตามที่ผมได้ยินมา ผมจะยิ่งเสียใจหนักเข้าไปอีก เพราะว่าไม่น่าเชื่อว่าบุคคลของพรรคที่ควรอยู่ในยุคของการเมืองที่ควรจะมีการปฏิรูปแล้ว แต่กลับออกจากพรรคไปด้วยเหตุผลของตัวเลข ยิ่งสะท้อนว่าการเมืองไม่ได้มีการปฏิรูป จึงอยากให้ประชาชนช่วยกันตรวจสอบอดีต ส.ส.ที่ออกจากพรรคไปด้วยว่าภายหลังจากที่ออกจากพรรค ปชป.ไปแล้ว ทุกคนมีการทำงานเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อจะได้เป็นผลประโยชน์แก่ชาติและบ้านเมือง” นายสาธิตกล่าว
     รายงานข่าวแจ้งว่า นายประมวลตัดสินใจไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย โดยได้เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคเพื่ออำลาแล้ว ส่วนนายธวัชชัย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยประกาศว่าจะไปลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรครวมพลังประชาชาติไทยเพื่อช่วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นั้น เปลี่ยนใจไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐแล้ว
มาร์ครู้ตลอดใครโดนดูด
    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวกรณีที่ขณะนี้มีอดีต ส.ส.ปชป.จำนวนมากอาจจะย้ายไปอยู่พรรคการเมืองอื่น จำเป็นต้องมีการเช็กชื่อหรือไม่ว่า ไม่จำเป็นต้องมีการเช็กชื่อ เพราะในสัปดาห์หน้าพรรคจะมีการประชุมใหญ่อยู่แล้ว ซึ่งตนก็ได้ติดตามข่าวการดึง ส.ส.ของพรรคอยู่ตลอด ทราบดีว่าใครไปกินข้าวกับใคร บางคนที่ออกจากพรรคไปก็ได้แจ้งให้กับตนทราบ แต่บางคนก็ไม่ได้มาแจ้ง ส่วนที่มีข่าวว่า ส.ส.พรรคออกยกแผงนั้น อีกไม่นานข้อเท็จจริงก็จะปรากฏ สำหรับ ส.ส.หน้าใหม่ ไม่ว่าเป็นสนาม กทม.หรือสนามอื่น ก็ได้มีการชักชวนให้มาร่วมงานโดยตลอด หวังว่าจะมีคนรุ่นใหม่เข้ามาสู่การเมืองมากขึ้น 
          เมื่อถามถึงกระแสข่าวนายสุรบถ หลีกภัย ลูกชายนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค จะลงสมัคร ส.ส. นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เคยชักชวนได้ครั้งหนึ่งแต่ตอนนั้นนายสุรบถปฏิเสธ เพราะมีงานอย่างอื่นทำอยู่ แต่เวลานี้ไม่ทราบเช่นกันว่าจะแสดงเจตจำนงอย่างไร แต่ถือว่าเป็นบุคคลหนึ่งที่มีศักยภาพที่จะสามารถทำสิ่งใหม่ๆ ให้กับพรรคได้
     ขณะที่นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป. กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาของนักการเมืองที่พบปะสังสรรค์กัน ส่วนใครจะตกลงย้ายพรรค ไม่ว่าจะอ้างเหตุผลใดก็ตาม ก็เป็นเรื่องธรรมชาติของการเมืองไทย  การที่พรรคต่างๆ มาดูดอดีต ส.ส.ของ ปชป. แสดงว่าบุคลากรของพรรคมีคุณภาพจริง จึงเป็นที่หมายปองของกลุ่มต่างๆ รวมถึง คสช.ด้วย ใครๆ ก็อยากได้ เสมือนดอกไม้สีสวยสดงดงาม ก็ย่อมเป็นที่สนใจของมวลหมู่แมลงนานาชนิด ดอกไม้บางทีนั้นก็หลงเคลิบเคลิ้มว่าฝูงผึ้งจะมาผสมเกสรให้ แต่มองอีกทีกลับกลายเป็นแมลงวันหัวเขียวมาไข่ใส่หนอนเอาไว้ กว่าดอกไม้รู้ก็เหี่ยวเฉาเน่าไปแล้ว
    นายวัชระกล่าวว่า อย่าไปมองว่าอดีต ส.ส.ไปกินข้าวกับใครแล้วต้องถูกดูดทั้งหมด ทุกคนมีทิศทางของตนเอง ใครหลงเชื่อมนต์การเมืองก็ไป ใครจิตใจหนักแน่นไม่เห็นแก่อามิสสินจ้างโครงการของรัฐก็ยังอยู่  ปชป.ไม่แน่จริงไม่อยู่นานมากว่า 70 ปีแล้ว ส่วนที่นายภิรมย์ พลวิเศษ เลขาฯ กลุ่มสามมิตร โม้ว่าภาคอีสานได้ไม่ต่ำกว่า 50 คน ได้ไม่ต่ำกว่าเขตละ 30,000 เสียง ภาคเหนือเกิน 7 ล้านเสียง ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นนักการเมืองคนไหนโม้มากเท่านี้ ช่างคล้ายคลึงกับบริษัทโฆษณาขายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด GT200 ไม่มีผิด ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เชื่อก็น่าสงสาร ท่านควรพิจารณาเลือกแนวทางของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกฯ ที่เคยบอกว่า "ผมพอแล้ว" จะดีกว่า
    นายอัศวิน วิภูศิริ รองหัวหน้าพรรค ปชป. ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตรในพื้นที่ภาคเหนือว่า ตอนนี้ในพื้นที่มีการเคลื่อนไหวรุนแรงมาก โดยผู้สมัครของพรรคที่ได้วางตัวไว้แล้ว หลายคนมาบอกว่าถูกชักชวนไปเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้ตัดสินว่าจะไปหรือไม่ อาทิ พิจิตร นครสวรรค์ สุโขทัย เป็นต้น ซึ่งการตั้งรับกับเรื่องนี้คงต้องดูกันก่อนว่าจะทำอย่างไร เพราะยังไม่ถึงที่สุด แต่ยอมรับว่าทำให้เหนื่อยมาก 
พท.กางปฏิทินลุยเลือกตั้ง
    ที่ห้องประชุมชั้น 9 สำนักงานผู้บริหารพรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการ เพื่อเตรียมจัดประชุมเพื่อยกร่างแก้ไขข้อบังคับพรรค มีคณะกรรมการบริหารเดินทางมาอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งถือเป็นการประชุมอย่างเป็นทางการตามกฎหมายเป็นครั้งแรก ภายหลังการประชุม พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค, นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค, นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานที่ปรึกษากฎหมายพรรค, นางสาวอนุตตมา อมรวิวัฒน์ รักษาการรองเลขาธิการพรรค ร่วมแถลงข่าว
    โดยนายภูมิธรรมกล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นการยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยยังมีชีวิตต่อ พร้อมเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมืองให้ประชาชนในวันที่ 28 ก.ย. พรรคจะส่งตัวแทนไปร่วมหารือกับ กกต. และพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญกฎหมายลูก, วันที่ 25 ก.ย. จะเปิดรับสมัครสมาชิก, วันที่ 26 ก.ย.จะเชิญอดีตรัฐมนตรี อดีต ส.ส. สมาชิกพรรคมาหารือฟังข้อบังคับพรรค, วันพุธที่ 3 ต.ค. จะมีการประชุมใหญ่พรรคเพื่อรับรองข้อบังคับพรรค โดยจะมีรักษาการกรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรรค 250 คน ประกอบด้วย อดีตรัฐมนตรี อดีต ส.ส.และตัวแทนแต่ละภาคมาร่วมประชุม จากนั้นจะมีการตั้งสาขาพรรค 4 สาขา ตามที่กฎหมายกำหนด ในภาคเหนือ ตั้งที่ จ.เชียงใหม่, อีสานที่ จ.อุดรธานี, ภาคกลางที่ จ.สมุทรปราการ, ภาคใต้ที่ จ.นครศรีธรรมราช  
    "จะมีการเปิดรับผู้สมัครแต่ละภูมิภาค โดยมีแกนนำพรรคพร้อมเดินทางไปรับสมัครสมาชิกพรรคด้วย เพราะถ้าเราไม่ไปรับสมัคร คงไม่มีใครเดินมาสมัครสมาชิกพรรค คสช.อย่ากังวล ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่เราทำไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายลูกกำหนดไว้ คสช.จะกลัวอะไร อย่ากลัวแม้แต่เงาตัวเอง"
    นายภูมิธรรมกล่าวต่อว่า จะมีการประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในวันอาทิตย์ที่ 28 ต.ค. โดยคณะกรรมการชุดใหม่จะมีกรรมการบริหารพรรค 21 คน สำหรับคุณสมบัติผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรค ยืนยันว่าทุกคนที่เป็นสมาชิกพรรค สามารถถูกเสนอชื่อได้ แม้มีแคนดิเดตหลายคน จะไม่ทำให้พรรคขาดเอกภาพ ไม่ทำให้เกิดปัญหาในพรรค 
    นายภูมิธรรมกล่าวว่า พรรคมั่นใจจะได้คะแนนเสียงอันดับหนึ่ง และร่วมมือกับพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย สามารถนำพาสังคมไทยพ้นจากสภาพที่เป็นอยู่ได้ ส่วนกลุ่มสามมิตรจะดึงอดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ไปร่วมงานการเมืองด้วยนั้น ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ตอนนี้เป็นเหมือนการเกทับบลัฟแหลก บางคนที่ไป ไปด้วยเหตุอะไร ต้องไปดูกัน แต่ปัจจุบันยังไม่เห็นพรรคเพื่อไทยใครจะไป
    "นายทักษิณเป็นบุคลากรของโลกไปแล้ว หลายประเทศเชิญเป็นที่ปรึกษา ในส่วนพรรคเพื่อไทยยึดมั่นในข้อกฎหมาย ไม่ได้กังวลใจ เป็นปัญหาเก่า ที่มักถูกถามขึ้น แต่เราก็ยืนยันในจุดยืน ยึดมั่นตามกรอบรัฐธรรมนูญในปัจจุบัน" นายภูมิธรรมกล่าวถึงบทบาทนายทักษิณ  น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากนี้ เนื่องจากเงื่อนไขรัฐธรรมนูญกำหนดห้ามเข้ามาบงการสั่งการ
    นายชูศักดิ์กล่าวถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ว่า  หลายเขตลดลง เนื่องจากจำนวน ส.ส.ลดลง จาก 375เหลือ 350 คน คงจะส่งผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทย พรรคจะดำเนินการเลือกตั้งต่อไปในบริบทดังกล่าว ส่วนการแบ่งเขตใหม่ ขอให้ผู้สมัครติดตามจาก กกต.ด้วย หากไม่เป็นไปตามเกณฑ์ จะต้องดำเนินการคัดค้าน 
ข้อบังคับต้านรัฐประหาร
     ช่วงเย็นวันเดียวกัน เว็บไซต์ของพรรคเพื่อไทยเผยแพร่ร่างข้อบังคับของพรรคที่ผ่านการพิจารณาของรักษาการกรรมการบริหาร โดยมีเนื้อหาสรุปว่า คำประกาศเจตนารมณ์ของพรรค มีความมุ่งมั่นฟื้นฟูประเทศในทุกด้าน ให้ประชาชนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคอย่างแท้จริง นำประเทศไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย แก้ปัญหาความยากจน กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐานสากล ประเทศมีความรักความสามัคคี  ร่วมกันป้องกันและต่อต้านการรัฐประหาร ขอให้สมาชิกทุกคนร่วมแรงร่วมใจให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามเจตนารมณ์ของพรรค
      ส่วนคำประกาศอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรค มี 9 ข้อ อาทิ ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ยึดถือว่าประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย มุ่งมั่นในการสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ  ขจัดความยากจน สร้างความสามัคคีปรองดอง เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคของบุคคล สร้างประเทศไทยให้มีบทบาทโดดเด่นและสร้างสรรค์ในเวทีโลก
    ขณะที่คำประกาศนโยบายพรรค มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ลดความเหลื่อมล้ำและกระจายทรัพยากรและอำนาจอย่างเหมาะสม ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเองและท้องถิ่นของตนมากขึ้น มุ่งสร้างประเทศให้พร้อมรองรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ในทุกมิติ ปรารถนาที่จะเห็นประเทศไทยมีการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง ประเทศยึดมั่นในหลักนิติรัฐ นิติธรรม และสิทธิมนุษยชนฯ
    นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการประชุมพรรคที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 ก.ย.และ 2 ต.ค.นี้ว่า เป็นการประชุมเพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรค และตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งพรรคยังเสนอชื่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรค รวมไปถึงการเสนอชื่อนายอนุทิน สู่บัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรค แนวโน้มเพียงชื่อเดียวจาก 3 รายชื่อเพื่อเป็นนายกฯ ด้วย ซึ่งสมาชิกพรรคล้วนให้ความเชื่อมั่นว่านายอนุทินจะนำพรรคไปสู่ความสำเร็จได้ 
    ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปองพล อดิเรกสาร อดีตรองนายกฯ เเละ ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร อดีต ส.ส.สระบุรี เดินทางเข้าพบนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ โดยได้หารือถึงการพัฒนาโครงการต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี และได้มีการพูดคุยถึงการจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ โดยนายสมคิดระบุว่า ให้รอดูหลังประชุมใหญ่วันที่ 29 ก.ย.นี้ จะได้เห็นภาพชัดเจนขึ้น
    ด้าน ร.ต.ปรพลเปิดเผยว่า ส่วนตัวจะไปร่วมในการประชุมใหญ่วันที่ 29 ก.ย. และจะไปสมัครเป็นสมาชิกในเร็วๆ นี้ 
ไทม์ไลน์ลุงตู่ก่อนปลดล็อก
    นายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงอนาคตทางการเมืองว่า ตนมีจุดยืนทำงานวันนี้เพื่อพัฒนาเกษตรกรให้ดีที่สุด ท่านนายกรัฐมนตรีชวนตนมาช่วยทำงาน สร้างบ้านแปงเมือง และเมื่อหมดหน้าที่อยากจะไปพักผ่อน ตนพอแล้ว ถึงแม้ว่ามีคนมาทาบทามหลายพรรค ล้วนพรรคการเมืองใหญ่ๆ ทางภาคใต้ เหนือ อีสาน กลาง มาชวนหมด ขณะนี้ตนยังไม่มีแนวทางใดๆ และไม่มีความคิดลงการเมือง
    ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเกส ปีเตอร์ ราเดอ เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักฯ เปิดเผยว่า นายกฯ ยืนยันถึงกระบวนการปฏิรูปประชาธิปไตยของไทยว่า ได้บริหารประเทศโดยยึดตามโรดแมป และพร้อมที่จะจัดการเลือกตั้งทั่วไปในช่วงต้นปี 2562 ด้วย
    ขณะที่เพจเฟชบุกไทยคู่ฟ้า ได้เผยแพร่ภารกิจการเยือนต่างประเทศและการประชุมในเวทีนานาชาติที่สำคัญ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงสุดท้ายก่อนที่จะเข้าสู่การเลือกตั้ง โดยตลอดทั้งเดือน ต.ค. นายกฯ มีกำหนดการติดต่อกันทุกสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 8-9 ต.ค. มีกำหนดการเข้าร่วมประชุมกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 10 ที่ประเทศญี่ปุ่น จากนั้นวันที่ 11 ต.ค.เข้าร่วมประชุมระดับผู้นำอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการกับผู้นำองค์การระหว่างประเทศที่สำคัญ ณ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย, วันที่ 18-20 ต.ค. เข้าร่วมประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป หรืออาเซียนซัมมิต ครั้งที่ 12 ณ ราชอาณาจักรเบลเยียม และสัปดาห์สุดท้ายของเดือนวันที่ 30-31 ต.ค. มีกำหนดการเยือนสหพันธรัฐเยอรมนี 
     นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. ได้โพสต์เอกสารในเฟซบุ๊กส่วนตัว เผยแพร่รายละเอียดของเอกสารบางส่วนที่จะใช้ประกอบการชี้แจง แนวทางการดำเนินกิจการของพรรคการเมือง ตามคำสั่งของหัวหน้า คสช. และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ต่อผู้แทนพรรคการเมืองในการประชุมวันที่ 28 ก.ย.2561 โดยเป็นรายละเอียดการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งและหลักกฎหมายพรรคการเมืองในประเด็นที่สำคัญ 
    ที่สำนักงาน กกต. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย มายื่นหนังสือถึงประธาน กกต. เพื่อขอให้ กกต.สืบสวนและไต่สวนกรณีที่พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุม ครม.เมื่อ 18 ก.ย.ที่ผ่านมาว่าพล.อ.ประยุทธ์กล่าวมีข่าวในลักษณะทำนองเชิญชวนประชาชนไปเลือกตั้งในรูปแบบแปลกๆ เช่น ไปทำให้บัตรเสียโดยวิธีที่แนบเนียนให้มากที่สุด หรือแม้แต่การกาบัตรในสิ่งที่ไม่เลือกใครเลย ซึ่งเป็นการสร้างความสับสนให้เกิดบรรยากาศที่ไม่ดีต่อกระบวนการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย กกต.จะต้องเชิญ พล.อ.ประยุทธ์และ พล.ต.สรรเสริญมาชี้แจง หากการสืบสวนไม่ปรากฏข้อมูลหรือหลักฐานอันเชื่อได้ว่ามีพฤติการณ์ดังกล่าวจริง นายกฯ และโฆษกประจำสำนักนายกฯ จะต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง เพราะถือได้ว่าเป็นการเต้าข่าวเพื่อสร้างความเสียหายต่อกลไกการเลือกตั้ง กกต.จะต้องเอาผิดทั้งสองคน แต่หาก กกต.ไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้องนี้ กกต.ก็จะเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม ป.อ.มาตรา 157 ประกอบมาตรา 69 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. 2560 ทันที
    นายศรีสุวรรณยังขอให้ กกต.ตรวจสอบกรณีที่มีขบวนรถแห่ประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนให้มาร่วมการจัดทำนโยบายพรรค โดยมีชื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในแผ่นป้ายดังกล่าวอยู่ด้วยที่จังหวัดพิษณุโลก เข้าข่ายการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 และคำสั่งที่ 13/2561 หรือไม่ด้วย 
    ส่วนนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า กกต.อาจจะทำหนังสือไปถามก็ได้ว่า ที่มาที่ไปของข้อมูลนั้นเป็นอย่างไร ในเมื่อเป็นข้อสงสัย ก็สามารถยื่นได้ และ กกต.มีหน้าที่จะต้องสอบถามได้ ทั้งนี้เชื่อว่าคงเป็นข้อมูลทางการข่าวที่นายกรัฐมนตรีได้มา แต่ข้อมูลดังกล่าวไม่มีผลอะไรต่อใครเพราะไม่มีแรงจูงใจอะไรต่อใครเลย ผู้สมัครรับเลือกตั้งก็ไม่ได้ แล้วจะไปรณรงค์ทำไม 
    ด้าน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้นายกฯ ได้เล่าให้ฟังจากข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งข่าวต่างๆ จึงมีข้อห่วงใยอยากให้ช่วยกันใช้วิจารณญาณ. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"