21 ก.ย.61 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 และเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์อันดับหนึ่งของเมืองไทย ประกอบไปด้วย น.ส.จินตนา หรือบุ๋ม(อ้วน) พรมน้อย อายุ 32 ปี ,นายคนองหรือบี อิ่มขุนทอง อายุ 44 ปี ,นายสุรพลหรือโอ ทรัพย์เจริญ อายุ 46 ปี , นายณัฐวัตรหรือวัตร สิมบิดา หรือเก่ง ลิ้นทอง อายุ 41 ปี และ 5.นางเบญจวรรณหรือป้าอ้วน ปลายสวน อายุ 52 ปี
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า จากปฏิบัติการจับกุม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศเวียดนามเมื่อวันที่ 24ส.ค.61 และได้รับตัวผู้ต้องหาทั้งหมด จำนวน 17กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 61 พร้อมรับมอบหลักฐานที่ตรวจยึดได้ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ศปอส.ตร. ได้สืบสวนขยายผลเชิงลึกจนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับกลุ่มคนร้ายที่เป็นสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในตำนาน ซึ่งเป็นคนไทยกลุ่มแรก ๆ ที่เดินทางออกไปร่วมขบวนการตั้งศูนย์ปฏิบัติการคอลเซ็นเตอร์ในต่างประเทศหลายแห่งตั้งแต่ปี 2556 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยไม่เคยมีใครจับกุมได้มาก่อน สร้างความเสียหายให้กับเหยื่อคนไทยหลายร้อยล้านบาท จนมีชื่อเสียงในกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่าเป็นทีมงานที่มีความชำนาญในการหลอกลวงประชาชนมากที่สุดจนเป็นตำนานและได้ฉายาว่า "เก่ง ลิ้นทอง"
ผู้ต้องหากลุ่มนี้เคยเดินทางไปตั้งศูนย์ปฏิบัติการคอลเซ็นเตอร์ในต่างประเทศดังนี้ 1. ปี 2556- 2559 ตั้งคอลในประเทศจีน ยาวนานประมาณ 4 ปี เดินทางออกจากประเทศไทยครั้งละประมาณ 10เดือนโดยไม่กลับประเทศเลย 2. ปี2559 ต่อเนื่อง 2561 ตั้งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศมาเลเซีย เมืองกัวลาลัมเปอร์ 3. ปี 2561 ตั้งคอลในประเทศฟิลิปปินส์ เมืองเซบู แต่อยู่ไม่นานเนื่องจากเป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กรุงมะนิลา พอดี จึงแยกย้ายกันหลบหนี และ 4.ปี 2561 เดือน ก.ค. ต่อเนื่อง ส.ค. 61 ตั้งคอลในประเทศเวียดนาม เมืองโฮจิมินส์ เป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ถูกจับกุม เดินทางออกมาก่อน เพราะอยู่ครบ 1เดือน โดยใช้คนคุมชาวใต้หวัน และล่าม คนเดียวกันกับชุดที่ถูกจับกุม
รอง ผบช.ทท.เปิดเผยต่อว่า กระทั่งสืบสวนทราบว่านายณัฐวัตร หรือเก่ง ลิ้นทอง ได้หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่มาอยู่ที่บ้าน อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับและเข้าจับกุมไว้ได้ที่ อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ โดยสมาชิกเครือข่ายนี้ยังเหลืออีก 2คน คือ น.ส.สมบัติหรือสม ฟอมไธสง อายุ 44 ปี และ.นายอุดม หรืออ๋อย คุณหงษ์ อายุ 42 ปี ได้ออกหมายจับไว้แล้วเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติกตามจับกุมตัวคนร้าย การจับกุมนายเก่ง ลิ้นทอง ถือเป็นการปิดตำนานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพราะนายเก่ง เป็นคนแรกๆที่นำคนไทยออกไปตั้งศูนย์คอล์เซ็นเตอร์เพื่อหลอกลวงคนไทยด้วยกันที่ต่างประเทศ และถือเป็นการปิดเครือข่ายคอเซ็นเตอร์ได้เลย เมื่อไม่มีคนไทยร่วมขบวนการกับชาวต่างชาติ ก็ไม่สามารถหลอกลวงคนไทยได้อีกต่อไป เพราะการไปทำคอเซ้นเตอร์ไม่ใช่วันสองวันจะเป็น ต้องเรียนรู้นานนับเดือนกว่าจะทำงานได้ หลังจากนี้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม สำนวนทั้งหมดของคดีคอลเซ็นเตอร์เข้าสู่ศาลแล้ว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |