"บิ๊กป้อม" ชิลๆ! "เกาะโต๊ะ" ทำอะไรไม่ได้  ส่งโฆษกกลาโหมแจงแทน อ้างสิ่งที่ "ทักษิณ" พูดคือสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น แต่ยืนยันจับตาความเคลื่อนไหวตลอดเวลา "ไพศาล พืชมงคล" เผยเหตุ "ประวิตร" ถูกเรียกพบเพราะ "แม้ว" กลัวรัฐประหาร เพื่อไทยแอบหลังประชาชน อวยนายใหญ่ไส้แตก!
    หลังนายทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคุก อดีตนายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความเชิงเหน็บแนมว่า "ท่าทีและน้ำเสียงขึงขังน่ากลัวจัง ไม่นุ่มนวลอ่อนหวานเหมือนตอนมาเกาะโต๊ะขอเป็น ผบ.ทบ.เลย" ล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้ม และโบกมือทักทายสื่อมวลชน พร้อมปฏิเสธให้สัมภาษณ์ ก่อนจะเดินทางไปมอบโฉนดที่ดิน จ.กาฬสินธุ์ 
    ด้าน พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตรเห็นข่าวแล้ว และไม่ได้รู้สึกโกรธและโมโหอะไร เพราะทราบว่าประชาชนรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น และต้นเหตุมาจากอะไร ดังนั้นอย่าไปพูดแค่เพียงปลายเหตุ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของแต่ละคน ยืนยันว่าบ้านเมืองของเราอยู่ด้วยกฎหมาย  หากดำเนินการอะไรไปแล้วก็ต้องยอมรับผลที่เกิดขึ้นทางกฎหมาย ไม่เช่นนั้นสังคมจะอยู่ด้วยกันไม่ได้
    "4 เคารพ 2 ความรับผิดชอบ ที่อยู่ในสัญญาประชาคม ถือเป็นหลักพื้นฐานของประชาธิปไตย ที่ทุกฝ่ายต่างเรียกร้อง และเป็นหน้าที่ของพลเมืองทั่วประเทศที่จะต้องดำเนินการตามประชาธิปไตย การเคารพกฎหมายถือเป็นเรื่องที่สำคัญ การอยู่ร่วมกันต้องเคารพและยอมรับผลของกติกา และทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ เพราะเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นร่วมกันเพื่อหาทางออกในความขัดแย้ง และเป็นพื้นฐานของประชาธิปไตย และการอยู่ร่วมกันโดยไม่มีความขัดแย้ง
    กรณีเพจเปรี้ยง ที่ออกมาตอบโต้แทน พล.อ.ประวิตร และนำภาพนายทักษิณกับ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และอดีตหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ รสช. บิดาของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ว่าที่ ผบ.ทบ.คนใหม่นั้น โฆษกกระทรวงกลาโหมเผยว่า ส่วนตัวยังไม่เห็นเพจดังกล่าว ซึ่งเราเคยรู้กันอยู่ว่าใครเคยทำอะไรไว้ ถามว่าจะเอาเรื่องในอดีตมาพูดกันทำไม การนำเรื่องแบบนี้มาพูดแล้วจะมีใครคบด้วย ก็เป็นเรื่องที่น่าคิด
    "สิ่งที่นายทักษิณพูดคือสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น ซึ่ง พล.อ.ประวิตรคงไม่ตอบโต้อะไร ใครทำอะไรไว้ต่างก็รู้กันอยู่ วันนี้สังคมฉลาดขึ้น อย่าไปพาดพิงใคร วันนี้ต้องทำให้บ้านเมืองมีความรักความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อก้าวเดินไปข้างหน้า เราไม่โทษใคร"
    เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวของนายทักษิณ จะส่ง ผลกระทบต่อบรรยากาศในการเลือกตั้งหรือไม่ พล.ท.คงชีพตอบว่า ไม่มีผล เพราะเชื่อว่าสังคมรู้ข้อมูลมากพอสมควร ใครจะมาชี้นำคงไม่ได้แล้ว วันนี้เราเห็นกันอยู่ว่าที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น และภายหลังที่รัฐบาล คสช.เข้ามาประเทศชาติมีความเข้มแข็งขึ้น ซึ่งเราก็ต้องร่วมกันเดินหน้าสร้างประเทศชาติให้มีความเข้มแข็งต่อไป
จับตา"ทักษิณ"เคลื่อนไหว
    อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของนายทักษิณ หน่วยงานความมั่นคงก็ติดตามอยู่ตลอดเวลา แต่จะเข้มงวดเรื่องการดูแลความปลอดภัยของประชาชน อาวุธสงคราม เพื่อสร้างบรรยากาศให้กับพรรคการเมืองที่จะลงพื้นที่ เพื่อรองรับการเลือกตั้งที่จะมาถึงอย่างเท่าเทียมและเสรี ปราศจากความรุนแรง
    "การเคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งภายในและภายนอกประเทศในห้วงนี้ เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นการช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง การหาเสียงซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องไม่ทำให้สังคมอยู่ประเทศชาติเสียหาย หากรักประเทศจริง ก็อย่าทำให้ประเทศเสียหาย ภาพลักษณ์ของประเทศ อย่าทำให้กลไกของรัฐอ่อนแอ เราต้องพยายามฝ่าแรงเสียดทานนี้ไปให้ได้" พล.ท.คงชีพ กล่าว
    นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Paisal Puechmongkol" ระบุว่า "ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญมากที่สุดตำแหน่งหนึ่งในราชการ ไม่ใช่ตำแหน่งที่จะไปเกาะโต๊ะขอกันได้ง่ายๆ และไม่มีใครไปเกาะโต๊ะขอตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกหรอก
    "กรณีเป็นเรื่องที่กลัวว่าผู้บัญชาการทหารบกคนก่อนๆ ในขณะนั้นจะปฏิวัติ จึงต้องไปเชิญนายทหารที่เห็นว่ามีบารมีมาเป็นผู้บัญชาการทหารบก เมื่อคนระดับนายกรัฐมนตรีเชิญพบ จะให้ไปยืนท่านักเลงได้อย่างไรล่ะครับ" นายไพศาลระบุ
    ด้านนายสุทิน คลังแสง อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตรกล่าวพาดพิงนายทักษิณ ทำให้เกิดความวุ่นวายในประเทศว่า ในฐานะ ส.ส.รุ่นแรกของพรรคไทยรักไทย ผ่านการรัฐประหารมา 2 ครั้ง ขอตอบคำถามแทนนายทักษิณ ต้นเหตุของความวุ่นวายเกิดจาก 1.พรรคการเมืองที่ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้จากการเลือกตั้ง 2.กลุ่มชนที่ทนเห็นการเบ่งบานของประชาธิปไตยและการเติบใหญ่ของภาคประชาชนไม่ได้ 3.กลุ่มผู้ได้รับความสูญเสียจากนโยบายของรัฐบาล ดร.ทักษิณ
พิงหลังประชาชน
          เขากล่าวว่า คนเหล่านี้สุมหัวกันวางแผนและสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นเพื่อล้มรัฐบาล แล้วคนอีกกลุ่มหนึ่งได้รับลูกเข้ามากระทำอันเป็นการซ้ำเติมประเทศให้ต่ำดิ่งลงสู่กันเหวของการพัฒนา ฉุดประเทศให้ล้าหลัง คนกลุ่มนั้นคือคณะทหารที่ทำการยึดอำนาจหรือกระทำรัฐประการ 
     "ไม่ใช่มูลเหตุอันใดที่จะมาอ้างได้ว่า ดร.ทักษิณเป็นผู้ทำให้เกิดความวุ่นวาย แต่ด้วยการเติบใหญ่ของพรรคไทยรักไทยคือสัญลักษณ์การเติบใหญ่ของอำนาจประชาชน และการที่พรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งทุกครั้งคือสัญญาณเตือนว่าอำนาจประชาชนจะแข็งขืนต่ออำนาจเก่าที่แฝงเร้นหรือเปล่า คือแรงบันดาลใจให้เกิดการสร้างสถานการณ์ก่อความวุ่นวายขึ้น ฝากให้ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองและผู้เป็นต้นเหตุก่อความวุ่นวายทั้งหลายได้คิดทบทวนด้วยใจที่เปิดกว้างว่า การที่พวกเราชนะเลือกตั้งมาตลอดนั้นคือ ประชาชนเขาประทับรับรองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ดร.ทักษิณและพรรคมิได้สร้างปัญหาให้กับประเทศ แต่เขามีความชอบธรรมที่จะได้อำนาจจากประชาชน ประกอบกับการที่ทั่วโลกเขาให้สถานะและให้เกียรติ ดร.ทักษิณและคุณยิ่งลักษณ์นั้น คือกระจกบานใหญ่ที่ พล.อ.ประวิตร พล.อ.ประยุทธ์ ควรส่องมอง แทนการชี้หน้าด่ากระจกและถ่มน้ำลายขึ้นฟ้า ซึ่งล้วนแล้วแต่กลับมาหาตัวเองทั้งสิ้น" นายสุทินกล่าว 
    นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถ้าหากไม่มีการปฏิวัติ เศรษฐกิจไทยในช่วง 12 ปีที่ผ่านมาควรจะต้องโตได้เฉลี่ยปีละ 5-6% ตามศักยภาพ และประชาชนจะต้องกินดีอยู่ดีกว่านี้มาก หากจำกันได้ 10 กว่าปีที่แล้ว เรามีผู้นำที่เป็นที่เกรงขามของประชาคมโลก มีทฤษฎีเศรษฐกิจ ที่ถูกขนานนามว่า ทักษิโณมิกส์ เป็นแบบแผนพัฒนาประเทศของตัวเองที่ประเทศที่กำลังพัฒนาอื่นๆ อยากขอนำไปใช้บ้าง ประเทศไทยรุ่งเรืองถึงขนาดกำลังจะเป็นเสือตัวที่ห้าของเอเชีย แต่หลังการปฏิวัติและความผันผวนทางการเมืองเรื่อยมา ทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนจากเสือตัวที่ห้า กลายเป็นเห็บสยาม ที่ต้องคอยกระโดดเกาะและดูดประเทศมหาอำนาจไปแล้ว 
"ธนาธร" โหน 19 กันยา
    "ความสามารถแข่งขันของประเทศต้องขึ้นกับความรู้ความสามารถของผู้นำเป็นหลัก ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับจำนวนเส้นผมบนศีรษะ เพราะหากหันมาดูอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ คนที่ถูกจัดให้เป็นคนที่ฉลาดที่สุดในโลก ก็มีเส้นผมไม่มากนัก หรือเจฟ เบซอส อภิมหาเศรษฐีที่ชาญฉลาดและเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในปัจจุบัน โดยมีทรัพย์สินรวมกันกว่าหนึ่งแสนหกหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ผู้ก่อตั้งบริษัทขายของออนไลน์ยักษ์ใหญ่อเมซอนก็ไม่มีเส้นผมเลย โดยหากผู้นำยังวัดคนจากปริมาณเส้นผมบนศีรษะมากกว่าจำนวนรอยหยักบนสมอง อนาคตของประเทศไทยก็คงจะพัฒนาไปได้ไม่มากนัก ดังนั้นอีกไม่นานนี้ ประชาชนไทยจะสามารถเลือกได้ว่าจะอยากได้ผู้นำเช่นไร ที่จะพาประเทศก้าวไปข้างหน้าได้" นายพิชัยกล่าว
    นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กยืนยันว่า อนาคตใหม่ไม่เอารัฐประหาร โดยมีรายละเอียดระบุว่า หลังการชุมนุมอย่างยืดเยื้อยาวนานของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หลังการบอยคอตการเลือกตั้งเมื่อ 2 เมษายน 2549 ของบางพรรคการเมือง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เปรียบเสมือนบัตรเชิญให้ทหารออกมาทำการยึดอำนาจ
     "เรายืนยันว่าจะทำให้การรัฐประหารจบลงในคนรุ่นนี้ ต้องไม่มีการส่งต่อวังวนหรืองวงจรอุบาทว์แบบนี้ไปยังคนรุ่นลูกรุ่นหลานของเราอีก ต้องทำให้ประชาธิปไตยเติบโตเบ่งบาน ประชาชนได้ใช้อำนาจของตัวเองอย่างแท้จริง" นายธนาธรระบุ
    ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์ประเด็น 12 ปี 19 กันยายน ว่าการที่จะแหวกวงล้อมไปได้ จะต้องเกิดขึ้นจากความร่วมมือของทุกฝ่าย และทุกฝ่ายจะต้องรู้ว่าไม่ได้มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะต้องได้อะไรกันไปทั้งหมด 
    "ที่ผมเสนอหนทางว่าทุกคนต้องวางเรื่องของตัวเองลงมา แล้วเอาเรื่องของชาติบ้านเมืองเป็นเรื่องหลัก เดินไปข้างหน้าให้กับชาติบ้านเมืองรอด เรื่องของตัวเองวางเอาไว้ข้างหลัง ถ้าเราได้คิดในมิติเหล่านี้ ผมเชื่อว่าสิ่งที่ประเทศไทยกำลังจะได้เริ่มนับหนึ่งกันต่อไปนั้น เราจะได้บังเกิด แต่ถ้ายังวางเรื่องตัวเองไม่ได้ ไปข้างหน้าก็พังอยู่ดี" นายจตุพรกล่าว.