สังคม 4.0 กับการเมือง 0.4


เพิ่มเพื่อน    

      แค่เรื่อง เกาะโต๊ะ-ไม่เกาะโต๊ะ เท่านั้น...ก็เล่นเอากระหึ่มไปทั่วทั้งโซเชียลมีเดีย กลายเป็นเรื่อง เป็นราว เป็นคลิปโน่น คลิปนี่ ดึงดูดเอาใครต่อใครต้องตามไปกดไลค์-ไม่ไลค์ กันเป็นแสนๆ ล้านๆ เฮ้ออ์อ์อ์...โลกในยุคข้อมูล ข่าวสารนี่ อะไรต่อมิอะไรมันสามารถนำมาใช้เป็นอาวุธ นำมาออกอาวุธ กันได้สบายๆ ชนิดไม่เพียงไม่มีพรมแดน ไม่มีเส้นแบ่ง เส้นกั้นใดๆ แล้ว ยังไม่มีขีดจำกัดไม่ว่าในเรื่องปริมาณ หรือคุณภาพ ซะอีกด้วยต่างหาก...

                                                                      ----------------------------------------------------

      ต่อให้ไปงัดเอา มาตราฉี่ฉิบฉี่ มาสั่งห้าม หาเสียง ในโซเชียลมีเดียกันยังไงก็เถอะ...แต่โอกาสจะ มัดมือ-มัดตีน ให้ทุกสิ่งทุกอย่าง สงบ-เรียบ-นิ่ง ยังไงๆ ย่อมเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วแน่ๆ เฉพาะแค่เรื่อง เกาะโต๊ะ-ไม่เกาะโต๊ะ เท่านั้น ก็เล่นเอา พรรคทหาร เซแซ่ดๆ หามุก หามุม แทบไม่เจอ แม้จะไม่ส่งผลให้ พรรคไม่เอาทหาร ดูดีขึ้นมามากมายซักเท่าไหร่ แต่ก็นั่นแหละ...มันย่อมมีส่วนเกี่ยวข้องต่อการได้มา หรือเสียไป ของสิ่งที่เรียกว่า คะแนนนิยม หรือ คะแนนเสียง อย่างมิพึงต้องสงสัย ด้วยเหตุนี้ถึงยังไม่คิดจะ ปลดล็อก อนุญาตให้แค่ เยี่ยวได้ แต่ ห้ามขี้ หรือแค่ คลายล็อก เท่านั้นเอง แต่โดยข้อเท็จจริงแล้ว...ทุกสิ่งทุกอย่าง มันไหลทะลักออกหน้า ออกหลัง กันชนิดเป็นดุ้นๆ เป็นสายๆ...

                                                                       ---------------------------------------------------

      และไอ้ที่ไหลๆ ออกมา...ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามันออกไปในแนวแบบเดิมๆ นั่นแหละ คิดกันแบบเดิมๆ สู้กันแบบเดิมๆ เอาชนะคะคานกันแบบเดิมๆ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจาก เนื้อหา เดิมๆ มากมายซักเท่าไหร่ เพียงแต่ด้วยการอาศัย รูปแบบ ใหม่ๆ อาศัยเครื่องมือ เครื่องไม้แบบใหม่ ที่มันมีประสิทธิภาพ ศักยภาพ เพิ่มขึ้นกว่าเดิมๆ ไม่รู้กี่ร้อย กี่พันเท่า บรรดาผู้ที่พยายามควบคุม ให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปในแบบ สงบ-เรียบ-นิ่ง เข้าไว้ เลยคงต้องเหนื่อยหน่อย โดยเฉพาะถ้าหาก ตามไม่ทัน หรือ ไม่รู้เท่าทัน ว่าโลกมันไปไกล ไปเร็ว ไปแรง ไปแล้ว ถึงขั้นไหน...

                                                                        ----------------------------------------------------

      พูดง่ายๆ ว่า...ในเมื่ออะไรต่อมิอะไรมันไปสู่ สังคม 4.0 กันไปหมดแล้ว แถมผู้บริหารบ้านเมืองก็ยังพยายามออกแรง เคี่ยวเข็ญให้มันไปถึงจุดจุดนั้นให้จงได้ แต่สำหรับการเมืองแล้ว ถ้าหากคิดจะหันกลับไปใช้ การเมืองแบบ 0.4 กันอีก มันคงไม่น่าจะเข้าท่า เข้าทาง ซักเท่าไหร่ หรือกลับยิ่งก่อให้เกิดแรงเสียดสี เสียดทาน หนักหน่วง รุนแรง ยิ่งขึ้นเท่านั้น นี่...ขนาดยังไม่ทันได้ ปลดล็อก แค่ คลายล็อก เท่านั้นเอง อะไรต่อมิอะไรมันก็ไปไกล ไปเร็ว ไปแรง เกินกว่าที่จะควบคุม บังคับ ให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐาน มาตรการ แบบให้ต้องนั่งพับเพียบเรียบร้อยไปโดยตลอด...

                                                                          ------------------------------------------------------

      ยิ่งถ้าหากจินตนาการไปถึงช่วงที่หมดล็อก หรือไม่เหลืออะไรให้ล็อกต่อไปอีกแล้ว...ช่วงที่ต้องเริ่มจัดตั้งรัฐบาล เริ่มนับคะแนนเสียง เริ่มหาสูตร หาสมการ ว่าจะเอาใครมารวมกับใคร ใครมาผสมกับใคร อันนั้น...น่าจะยิ่งปวดเศียร เวียนเกล้า หนักขึ้นไปใหญ่ เพราะด้วยแนวทางการเมืองแบบเดิมๆ ที่ย่อมนำไปสู่ สูตรแบบเดิมๆ หรือ คณิตศาสตร์ทางการเมืองแบบเดิมๆ ไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงอะไรใหม่ๆ เอาเลยแม้แต่น้อย ยังดูดไป-ดูดมากันแบบเดิมๆ ยังใช้ผลประโยชน์ ใช้จำนวนเสียง จำนวนเก้าอี้ เป็นมาตรฐานในการคำนวณ ถอดรูท ถอดสมการ ออกมาเป็นคณะรัฐบาลชุดใหม่ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ สุดท้าย...ทุกสิ่งทุกอย่างมันย่อมหวนกลับมาสู่บรรยากาศเดิมๆ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้...

                                                                       -------------------------------------------------------

      แต่ที่น่าหนักใจก็คือว่า...ขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปในแบบเดิมๆ สู้กันแบบเดิมๆ เนื้อหาเดิมๆ โลกมันก็ดันเกิดการประดิษฐ์คิดค้นเครื่องมือใหม่ๆ ที่สามารถอาศัยรูปแบบใหม่ๆ ในการสู้ การเอาชนะคะคานระหว่างกันและกัน ให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล สูงยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม ได้อีกไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า เฉพาะแค่เจอกับ ม็อบมือถือ เท่านั้น ไม่ว่าทหารกี่เหล่าต่อกี่เหล่า ข้าราชการประจำกี่กระทรวง ทบวง กรม นักการเมืองไม่รู้กี่พรรคต่อกี่พรรค ฯลฯ ก็ถึงกับ ไปไม่เป็น ไปด้วยกันทั้งสิ้น การเมืองแบบ 0.4 ในช่วงนั้น มันเลยต้องจบลงด้วย พฤษภาทมิฬ ไปด้วยประการละฉะนี้...

                                                                        -----------------------------------------------------

      แม้ว่าช่วงระยะนั้น...ผู้ที่มีฐานะเป็น คีย์แมน คนสำคัญของ พรรคทหาร ในช่วงนี้ บางคน บางราย จะยังสามารถถือปืนวิ่งไป-วิ่งมาอยู่ในถนนราชดำเนินได้อย่างอิสระ เสรี ขนาดไหนก็ตาม แต่สุดท้าย...ก็ เอาไม่อยู่ ไปด้วยกันทั้งสิ้น มาถึง ณ ขณะนี้...นอกจากไม่มีปืนอยู่ในมือ ยังแถม แก่แล้ว อีกต่างหาก ถ้าต้องเจอเข้ากับ ม็อบไอแพด หรือไอกระด๊อกกระแด๊ก อะไรก็แล้วแต่ โอกาสที่จะไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี จึงน่าจะมีอยู่สูงเอามากๆ นอกเสียจากจะต้องปรับตัว ปรับใจ ปรับสภาพ หาทางยกระดับ พัฒนาตัวเอง ให้เกิดความ เข้าถึง-เข้าใจ ต่อ การเมืองในแบบ 4.0 เท่านั้นเอง ถึงอาจพอขจัด เงื่อนไข  หรือลด เหตุปัจจัย อันจะนำไปสู่ จุดจบในแบบเดิมๆ ได้มั่ง...

                                                                       ---------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก G.W.F. Hegel... We learn from history that we do not learn from history.- เราเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ว่าจริงๆ แล้ว...เรามิได้เรียนรู้อะไรจากประวัติศาสตร์แม้แต่น้อย...

                                                                         --------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"