20 ก.ย. 61 - ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนานักบริหารภาครัฐเพื่อบูรณาการการพัฒนาประเทศไทยตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น : จากแผนปฏิรูปสู่ภาคปฏิบัติแบบบูรณาการ” ว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อกฎหมายลูก 6 ฉบับเสร็จสิ้น และมีผลบังคับใช้ แต่วันนี้กฎหมายยังไม่เสนอเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งคาดว่าจะสามารถเสนอได้ ในวันที่ 4 ตุลาคม และใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 3 เดือน ก็จะเสร็จราวเดือนธันวาคม จากนั้นนำขึ้นทูลเกล้าฯ ใช้เวลาอีก 3 เดือน ก็จะเสร็จประมาณเดือนมีนาคม ดังนั้นหากการเลือกตั้งใหญ่ มีขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 การเลือกตั้งท้องถิ่นก็น่าจะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ทุกคนที่มาสัมมนาครั้งนี้ล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงต้องเข้าใจคำ 3 คำ คือการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และสร้างความสามัคคีปรองดอง เพราะอดีตตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 รัฐธรรมนูญทุกฉบับเขียนเหมือนกันคือ รัฐบาลมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน และที่ผ่านมาทุกรัฐบาลบริหารงานใน 3 แบบ คือ กำหนดนโยบาย ทำตามนโยบายที่กำหนด และบังคับการให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด แต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน กำหนดหน้าที่รัฐบาลเพิ่มอีก 3 เรื่อง คือ การปฏิรูปประเทศ ทำตามยุทธศาสตร์ชาติ และสร้างความปรองดอง ซึ่งส่วนราชการทุกส่วนต้องนำไปปฏิบัติ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่กำหนดยุทธศาสตร์ชาติในรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นเป้าหมายในการพัฒนาประเทศ 6 ด้าน คือ ความมั่นคง เศรษฐกิจ การพัฒนาคน การแก้ปัญหาความยากจนลดความเหลื่อมล้ำและขจัดความไม่เป็นธรรม คุณภาพชีวิตและความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการภาครัฐ ส่วนการสร้างความปรองดอง ซึ่งถือเป็นเรื่องยาก และไม่ใช่การจับคนมาถอดเสื้อสีเหลือง สีแดง แต่คือการสร้างความรับรู้และเข้าใจ
นายวิษณุ กล่าวว่า หลักสูตร ป.ย.ป. ย่อมาจาก การปฏิรูป ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง มี 3 หลักสูตร คือ ป.ย.ป.1 ระดับปลัดกระทรวงและอธิบดี ป.ย.ป.2 คือ ระดับรองอธิบดีและผู้ว่าราชการจังหวัด ส่วน ป.ย.ป.3 คือ ระดับผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่งกำลังจะเปิด เพื่อให้สิ่งที่รัฐบาลวางไว้เหล่านี้ถูกขับเคลื่อนและเดินหน้าไปได้ ตามที่นายกรัฐมนตรีดำริไว้ โดยเฉพาะแผนปฏิรูปประเทศ ซึ่งประกาศใช้แล้วและต้องทำ เพราะหากไม่ทำถือเป็นความผิด ที่สำคัญหน่วยงานราชการทุกหน่วย หากคิดจะทำอะไรแล้วไม่อยู่ในแผนปฏิรูป ก็จะไม่ได้รับงบประมาณ ในการดำเนินการ เช่นเดียวกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ที่หากไม่ทำตามหรือดำเนินการนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ ก็จะมีความผิด และไม่ได้รับงบประมาณเช่นกัน พร้อมยืนยันไม่ใช่การวางแผนเพื่อให้รัฐบาลชุดนี้อยู่ไป 20 ปี แต่วางไว้เป็นแนวทาง ไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนเข้ามาก็ให้เดินหน้าไปตามนี้ แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามช่วงเวลาและความเหมาะสมทุกแผน ไม่ว่าจะเป็นแผนปฏิรูปประเทศ แผนยุทธศาสตร์ชาติ และแผนสร้างความสามัคคีปรองดอง
นายวิษณุ กล่าวอีกด้วยว่า รัฐบาลเตรียมตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจคือ สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ติดตามการทำงานของหน่วยงานราชการที่ขับเคลื่อนแนวทาง ป.ย.ป. และรับผิดชอบการอบรม ป.ย.ป.ทั้งหมด เช่น หลักสูตรการคัดเลือกคนเข้าอบรม เป็นต้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีกำหนดว่า การอบรม ป.ย.ป. ไม่เน้นการจดบันทึก แต่ใช้วิธีแลกเปลี่ยนความเห็น ห้ามไปดูงานต่างประเทศและไม่มีค่าเล่าเรียน ซึ่งสำนักงานนี้จะตั้งในไม่ช้า โดยหัวหน้าสำนักงานจะเป็นซี 11 ซึ่งเทียบเท่าปลัดกระทรวง มีข้าราชการในหน่วยงานไม่เกิน 10 คน มีอายุการทำงานประมาณ 5 ปี ทำหน้าที่ประสานงานกับ 5 หน่วยงานหลัก คือ สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) สำนักงานคณะกรรมการการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รวมถึงหน่วยงานขับเคลื่อนงานของป.ย.ป. จะมาอยู่ภายในหน่วยงานนี้
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |