เมื่อผมมีโอกาสนั่งคุยกับอันวาร์ อิบราฮิมสำหรับรายการ "โลกป่วน" ทาง ThaiPBS หลังจากเขาออกจากคุก ได้รับพระราชทานอภัยโทษหลังจากจับมือกับมหาเธร์ โมฮัมหมัดโค่นนาจิบ ราซัค ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ประเด็นหนึ่งที่ผมอยากรู้คือเกิดอะไรขึ้นในคืนวันเลือกตั้ง?
จริงหรือที่นาจิบ ราซัคโทรศัพท์ไปหาเขาในคุกเพื่อต่อรอง หาทางจับมือกับเขาเพื่อสกัดผู้เฒ่ามหาเธร์? คำตอบของอันวาร์ที่ให้ผมมาน่าจะเป็นการเปิดเผยรายละเอียดของบทสนทนาระหว่างเขากับนาจิบที่รอบด้านที่สุด
สุทธิชัย: แต่คืนวันเลือกตั้ง นาจิบก็โทร.หาคุณอีกใช่ไหม
อันวาร์: ใช่ครับเขาโทร.มาจริง…
สุทธิชัย: แล้วคุณได้ตกลงอะไรกับเขาไหม
อันวาร์: ไม่นะครับ เพราะว่าตอนที่รองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งโทร.มาหาผมก่อนหน้านั้น เขาบอกว่าเขายอมรับความพ่ายแพ้ เช่นเดียวกับรัฐมนตรีมหาดไทย ที่เขาจะต้องมีข้อมูลข่าวกรองอยู่แล้ว ที่ยอมรับว่าแพ้ ซึ่งเขาบอกว่านาจิบก็อยากคุยกับผมเหมือนกันในอีก 1 ชั่วโมง ซึ่งเขาไม่เชื่อว่านาจิบเตรียมใจที่จะยอมรับความจริง เพราะฉะนั้นตอนที่นาจิบยกหูพูดกับผม ผมก็จึงพูดด้วยอย่างสุภาพ
สุทธิชัย: สุภาพเหรอครับ
อันวาร์: ใช่ครับ ใช่ครับ ผมสุภาพ ทั้งๆ ที่ไม่ควร
สุทธิชัย: ไม่ควรสุภาพเหรอครับ
อันวาร์: ครับ บางครั้งที่จริงผมน่าจะใช้สัญชาตญาณนักฆ่ามากกว่า เพราะว่าเป็นสิ่งที่นักการเมืองหลายคนก็ทำ แต่ผมไม่ทำ ตอนนาจิบคุยกับผม แล้วบอกว่าเขา (นาจิบ) รู้ว่าพวกเขาแพ้ ผมเลยไม่จำเป็นจะต้องพูดจาแย่ๆ กับเขา แล้วก็บอกว่าเรายังไม่มีตัวเลขชัดเจน เขาบอกว่ามีปัญหาที่หน่วยเลือก ตั้ง ผมก็เลยบอกว่าโอเคเรายังมีเวลา แล้วหลังจากนั้นพอผ่านไปอีกหลายชั่วโมงอะไรๆ ก็ชัดเจนขึ้น เขาก็บอกว่า รู้ไหม…
สุทธิชัย: เขาโทร.มาอีกเหรอ
อันวาร์: โทร.มาอีก ตอนนั้นผมบอกว่า ฟังนะนาจิบ ในฐานะเพื่อน เห็นไหมผมเรียกเขาว่าเพื่อนนะ
สุทธิชัย: ในฐานะเพื่อน
อันวาร์: ในฐานะเพื่อน ฉันอยากจะแนะนำให้ยอมรับความพ่ายแพ้ซะ เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านราบรื่น เขาก็พูดนั่นพูดนี่ไปเรื่อยๆ แล้วบอกว่ายังมีความเป็นไปได้ที่จะชนะ เพราะว่าที่จริงแล้วเขายังไม่พอใจกับผลการเลือกตั้ง ผมเลยบอกว่าฟังนะ ตอนนี้ฉันยังติดคุกอยู่ แม้ว่า…
สุทธิชัย: ใช่ คุณเป็นนักโทษอยู่
อันวาร์: ผมไม่ได้บอกว่าไอ้บ้า แกทำให้ฉันต้องติดคุก ผมไม่ได้พูดอย่างนั้น ผมบอกว่าว่ากันตามกฎหมายแล้วผมยังติดคุกอยู่ แล้วก็บอกว่าเขาน่าจะเป็นสายสุดท้ายที่ได้โทร.มาหาผม เพราะหลังจากนี้ เขาต้องไปตกลงกับมหาเธร์เอาเอง (หัวเราะ)
สุทธิชัย: เจองานหินกว่า
อันวาร์: หลังจากนั้นเขาก็เงียบไป แล้วผมก็บอกเขาอีก แนะนำให้ยอมรับความพ่ายแพ้ตอนนี้ นี่มันผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วนะ มันเกือบจะเช้าแล้ว ตอนนี้ประชาชนกำลังไม่พอใจ หลายคนก็กำลังโกรธ ส่วนเหตุผลที่สำคัญที่สุด การเปลี่ยนผ่านอำนาจในประเทศประชาธิปไตยที่ไหนๆ ก็ชัดเจนอยู่แล้ว ถ้าอีกฝ่ายตัวแทนเข้าสภาเกิน 50% แกก็ต้องยอมแพ้ ซึ่งเขาก็ยังปฏิเสธอยู่ดี จนกระทั่งช่วงสาย น่าจะซัก 11 โมง เขาก็ยังไม่ยอมแพ้อยู่ดี
สุทธิชัย: เหรอครับ
อันวาร์: เพราะความอหังการของเขา เขาก็เลยต้องเจอปฏิกิริยาสะท้อนกลับแบบนี้
สุทธิชัย: เขาได้พูดถึงวิธีการไหนที่เขาจะได้ร่วมงานกับคุณในการไม่ให้มหาเธร์ได้กลับมาไหมครับ
อันวาร์: ไม่ครับ เพราะมันชัดเจนมากในตอนนั้นว่าเราได้ทำข้อตกลงกันแล้ว แล้วผมก็อยู่ในคุกด้วย เพราะฉะนั้นผมจะเป็นนายกฯ ไม่ได้ จนกระทั่งผมลงสมัครเป็น ส.ส. เขาเองก็รู้ แต่เขาคิดว่าสิ่งที่ผมทำได้มากที่สุดก็คือ การเข้าไปมีอิทธิพลต่อทิศทางการทำงานของรัฐบาล และแน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องดี แล้วผมก็ไม่รับข้อเสนอด้วย ผมไม่เคยให้ความหวังอะไรทั้งนั้นว่าผมจะคุยกับเขาได้ ทำงานด้วยกันได้ เพราะมันทำไม่ได้ ผมก็อยากจะให้การเปลี่ยนผ่านนี้เกิดขึ้น และเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ นี่แหละครับคือสิ่งที่ผมพูด
สุทธิชัย: แปลว่าไม่มีการพูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการจะร่วมมือกัน
อันวาร์: ไม่ครับ เขาพยายามทำให้คนอื่นเห็นว่าเราได้เตรียมตัวที่จะพูดคุยหรือต่อรองกัน แต่ว่าผมไม่ได้รับข้อเสนอนี้ครับ ผมบอกว่าฟังนะ การตัดสินใจของเราชัดเจนมาก และเราชนะการเลือกตั้ง ได้เสียงข้างมากอย่างชัดเจน การเจรจาจะเกิดขึ้นทีหลังถ้ายังอยากจะเจรจา แต่จะต้องไปเจรจากับมหาเธร์เอาเอง
สุทธิชัย: แล้วเขาพูดว่าไงครับตอนนี้คุณพูดถึงมหาเธร์
อันวาร์: เงียบกริบสิครับ (หัวเราะ) เขาไม่ตอบอะไรเลย แต่ผมบอกว่าเราทุกคนมีความสอดคล้องกันแล้วว่ามหาเธร์จะต้องเป็นนายกรัฐมนตรี
(อ่านต่อพรุ่งนี้และติดตามคลิปย้อนหลังได้ที่ www.thaipbs.com)
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |