ตร.เค้นสอบ 7 ผู้ต้องหาค้ามนุษย์วิคตอเรีย มัดตัวเจ้าหน้าที่รัฐ "ศรีวราห์" ยันยังตามล่าตัว "เสี่ยกำพล" พบ 6 อ่างผิด พ.ร.บ.น้ำบาดาล ตั้ง กก.สอบ สน.เจ้าของพื้นที่สถานบริการ 12 แห่ง 
    เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์สถานบริการวิคตอเรีย ซีเครท ว่าได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ประสานตำรวจหลายหน่วยงาน อาทิ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.), กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.), กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ส่งพนักงานสอบสวนเข้าร่วมคณะทำงานพิสูจน์ข้อเท็จจริง ในการตรวจอักษรย่อและชื่อหน่วยงาน ตามเอกสารที่อายัดได้จากสถานบริการอาบอบนวดดังกล่าว เพื่อดำเนินการเอาผิดด้านวินัย 
    โดยได้ประสานกับทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ขอสอบปากคำ 1.นายบุญทรัพย์ หรือป๋ากบ อมรรัตนาศิริ อายุ 55 ปี หัวหน้าเชียร์แขก 2.นายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย อายุ 67 ปี ผู้จัดการ 3.นายชัยณรงค์ อันสุข อายุ 53 ปี 4.นายสมชาย แสงอุดม อายุ 52 ปี 5.นายมนัส อ่วมทับ อายุ 48 ปี 6.นายเอกณพัชร์ จารุวัฒน์ปฐมกุล และไปสอบ น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ อายุ 46 ปี เจ้าของห้างหุ้นส่วนอมรินทร์ ออนเซน จำกัด และกรรมการผู้ขอใบอนุญาตสถานบริการวิคตอเรีย ซีเครท  ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง
    "ผู้บังคับบัญชาสั่งให้มีการสอบสวนเรื่องวิธีและขั้นตอนการลงชื่อของเจ้าหน้าที่เข้ามาใช้บริการ และมีการขอส่วนลดการให้บริการต่างๆ เช่น เจ้าตัวมาใช้บริการด้วยตัวเองไหม ต้องลงแบบไหน หากมีผู้อื่นมาใช้ตั๋วหรือโควตา เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวจะต้องประสานเด็กเชียร์แขกคนไหน อีกทั้งความหมายที่มีการลงบิลเอกสาร หมายถึงอะไร ซึ่งเป็นกระบวนการแสวงหาก่อน หลังจากนั้นจะนำรูปถ่ายให้ผู้ต้องหาดูว่าตำรวจที่มีอยู่ในรายชื่อมาใช้บริการจริงหรือไม่ ก่อนนำไปรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ" พ.ต.อ.วัชรินทร์ระบุ
    ทางด้าน พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.เดินทางไปสอบปากคำหญิงสาวที่ให้บริการในอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท ณ บ้านพักเด็กและครอบครัว กรุงเทพมหานคร ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดบ้างเกี่ยวข้อง เบื้องต้นมีความคืบหน้า 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนด้านอื่นๆ ในคดีนี้ เป็นหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และตำรวจ
    ส่วนมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานใดเกี่ยวข้องบ้างนั้น  ขอเรียนว่าเป็นหน่วยงานที่ปรากฏตามข่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนแสวงหาพยานหลักฐาน เนื่องจากพบเอกสารมีเพียงอักษรชื่อย่อและสังกัดเท่านั้น สำหรับหญิงสาวต่างด้าวที่ให้บริการ เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวบางส่วนกลับสู่ประเทศต้นทาง และอีกบางส่วนที่เกี่ยวข้องได้กันไว้เป็นพยาน เพราะพบรหัสปรากฏในเอกสาร จึงต้องสอบสวนเพิ่มเติม ทั้งนี้ ขอเรียนว่าข้อมูลในสำนวนไม่สามารถเปิดเผยได้อย่างละเอียด โดยกำหนดกรอบไว้ระยะเวลา 90 วัน ดำเนินการตรวจสอบ ตั้งแต่วันที่ ป.ป.ท.ได้รับเอกสารส่งเรื่องจากกรมการปกครอง เมื่อวันที่ 15 ม.ค.61
    ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวถึงการนำ พ.ร.บ.น้ำบาดาลเข้าตรวจสอบการอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท  และสถานบริการอาบอบนวดอื่นๆ อีกหลายแห่งในกรุงเทพฯ ลักลอบขุดเจาะน้ำบาดาลมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลตรวจสอบไปแล้วทั้งหมด 49 แห่ง โดยน้ำมีค่าเกินกว่า 200 ไมโครซีน/ซม. รวม 6 แห่ง การดำเนินคดีกับเจ้าของสถานที่ต้องรอหนังสือจากกรมทรัพยากรน้ำบาดาลออกหนังสือรายงานทางนิติวิทยาศาสตร์มาก่อนถึงจะสามารถดำเนินการได้ ส่วน พ.ร.บ.อาคาร ตามที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ที่ให้ข้อมูลมามีการดัดแปลงอาคารห้องจะเกินหรือไม่อย่างไร ได้มอบให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) และนครบาลเข้าตรวจสอบแล้ว และให้รายงานในที่ประชุมในวันที่ 30 ม.ค.นี้
    ส่วนการติดตามตัวนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ หรือเสี่ยกำพล และภรรยา เจ้าของวิคตอเรียฯ ที่ยังหลบหนีอยู่นั้น เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตาม แต่ขอเป็นความลับ ได้สั่งการชุดสืบสวนไปแล้ว ในกรณีการดำเนินการของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่อายัดทรัพย์ของนายกำพลไปบางส่วนแล้วนั้น เป็นการนับหนึ่งต่อจากพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพราะมีหนังสือจากตำรวจให้ดำเนินการ 
     พ.ต.อ.สุวัฒน์ อินทสิทธิ์ รอง ผบก.ปทส. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเร่งตรวจสอบการใช้น้ำบาดาล แต่บางจุดมีปัญหา อย่างการเข้าตรวจสอบที่ลองบีช หาจุดที่เขาเจาะยากมาก แต่ด้วยลักษณะของพื้นที่และเครื่องมือที่เล็กเกินไปจึงทำให้ล่าช้า ต่อไปต้องใช้เครื่องมือหนักเข้าตรวจสอบ ซึ่งจะพยายามเร่งรัดให้ได้ตามกรอบระยะเวลา เจ้าหน้าที่ตำรวจเองพร้อมทุกอย่าง แต่เห็นใจเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำฯ ที่มีบุคลากรจำกัด 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. พ.ต.อ.สุวัฒน์ อินทสิทธิ์ รอง ผบก.ปทส. เปิดเผยภายหลังนำกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบสถานบริการอาบอบนวด Embassy  ซ.เพชรบุรี 39 ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นหนึ่งในสถานบริการอาบอบนวดที่มีชื่อของ น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ เข้าไปเกี่ยวข้องว่า จากการตรวจสอบพบว่าค่านำไฟฟ้าของน้ำภายในห้องน้ำชั้น 2 ของสถานบริการอยู่ที่ 367 ไมโครซีเมนส์ต่อเซนติเมตร  ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานของน้ำประปาที่ต้องมีค่าไม่เกิน 200 ไมโครซีเมนส์ต่อเซนติเมตร แต่ต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าความคลาดเคลื่อนของค่านำไฟฟ้าของน้ำเกิดจากสาเหตุใด
    วันเดียวกัน พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. ในฐานะรองประธานคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองการสั่งปิดสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการที่มีการกระทำผิดตามคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 และคำสั่ง คสช.ที่ 46/2559 เปิดเผยว่า มีสถานบริการใน กทม.ทั้งหมด 364 แห่ง และไม่มีใบอนุญาตอีกกว่า 3,000 แห่ง โดยสถานบริการอาบอบนวดพบมากสุดในพื้นที่ บก.น.1 ซึ่งที่ผ่านมา ผบช.น.ได้เร่งรัดมาตลอด หากพื้นที่ไหนปล่อยปละละเลยมีความผิดแน่นอน
    ส่วนการปิดสถานบริการ 12 แห่งที่ไม่ได้รับอนุญาตนั้น จะเสนอเรื่องให้ ผบช.น. ก่อนส่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผู้มีอำนาจในการสั่งปิดสถานบริการนั้นคือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) หรือรอง ผบ.ตร.ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อนุมัติสั่งปิดสถานบริการดังกล่าว  ทั้งนี้ ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่รับผิดชอบสถานบริการดังกล่าวทั้ง 12 แห่ง โดยให้ผู้บังคับการในพื้นที่รับผิดชอบเป็นหัวหน้าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ว่ามีข้อบกพร่องหรือปล่อยปละละเลยเพิกเฉยหรือไม่ ภายหลังจากที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) ได้เข้าดำเนินการตรวจสอบและจับกุมสถานบริการตั้งแต่เมื่อเดือน ต.ค.-พ.ย.ที่ผ่านมา โดยให้รายงานผลสอบภายใน 15 วัน.