18 ก.ย.61 - นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษากลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว "อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ" ระบุว่า ที่ คุณนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ออกมาโจมตีดิฉันรุนแรงประหนึ่งอยู่บนเวทีกปปส. จากการวิเคราะห์พรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวกับอนาคตการตัดสินใจแนวทางการเมืองและการเลือกหัวหน้าพรรค ก็ไม่เห็นปฏิเสธข้อวิเคราะห์ของดิฉันในเรื่องเนื้อหา/หลักการใด ๆ โจมตีอ้างว่าไม่มีมารยาทและพรรคตัวเองไม่มีหัว นี่แสดงว่าปัญหาประชาธิปัตย์มีอยู่จริงและแนวทางกปปส. พลพรรคกปปส. ดำรงอยู่จริงในพรรคประชาธิปัตย์อย่างหนาแน่น

อ่านข่าวประกอบ นกแสกเกาะหลังคาบ้าน! 'นิพิฏฐ์' สุดรำคาญ 'ป้าธิดา' แส่เลือกหัวหน้าพรรคปชป.

ประการแรกดิฉันขอเรียนว่าดิฉันไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตยลุ่ม ๆ ดอน ๆ ของประเทศไทยที่เป็นอยู่นี้ทั้งในอดีตและปัจจุบัน

ประการที่สอง ดิฉันวิเคราะห์พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคที่มีความสำคัญ สามารถกำหนดชี้ชะตาระบอบประชาธิปไตยไทย โดยวิเคราะห์ตามที่ได้ทำมาแล้วในอดีต และเรากำลังดูสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อทำนายอนาคตการเมืองประชาธิปัตย์และการเมืองประเทศไทย

ประการที่สาม ถ้าดิฉันวิเคราะห์ผิดผู้คนก็วิจารณ์ได้ว่าผิด จากที่วิเคราะห์ว่าประชาธิปัตย์เป็น 1 กั๊กใน 2 ก๊ก และต่อมาก็ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ว่าจะเป็นหนึ่งใน 2 ก๊ก และการชิงแคนดิเดตหัวหน้าพรรคก็เป็นความพยายามเพื่อจะทำให้ทิศทางการเมืองประชาธิปัตย์เป็นแนวทางเดียวกันกับแนวทางสนับสนุนการสืบทอดอำนาจจากการทำรัฐประหารต่อไป อันเป็นแนวทางกปปส.ที่แสดงออกในพรรคอื่นที่สนับสนุนแนวทางนี้เช่นกันจำนวนหนึ่ง จึงตั้งประเด็น “มาร์คศิษย์ชวน VS หมอวรงค์ศิษย์เทพเทือก” ให้ดูขำ ๆ ลองติดตามดูในเฟสบุ๊ค อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ วันที่ 14 ก.ย. 61 ได้ ดิฉันสรุปว่าคำว่า “มาร์คศิษย์ชวน” คงชนะ และดูชอบธรรมที่เป็นหัวหน้าพรรคต่อไป แต่จะได้แนวทางศิษย์เทพทือกมา

ประการที่สี่ พรรคประชาธิปัตย์ที่ดิฉันอยากเห็นด้วยน้ำใสใจจริง อยากได้สปิริต น้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ และเป็นพรรคการเมืองที่ยืนหยัดในระบอบประชาธิปไตย ร่วมต่อสู้กับประชาชนตามแบบฉบับในปี 2516, ปี 2535 และสปิริตที่ยอมถอยให้พรรคที่ได้รับการเลือกตั้งมามากที่สุดจัดตั้งรัฐบาลก่อน ดังในยุคคุณชวนเป็นหัวหน้าพรรค ปีที่หลีกทางให้พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ จัดตั้งรัฐบาล (แต่ไม่ใช่ในรอบกบฎงูเห่า) และสปิริตแบบคุณบัญญัติ บรรทัดฐาน ที่ลาออกเมื่อแพ้การเลือกตั้งแล้วพรรคมีการพยายามจะให้ได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งก็ได้ “มาร์คศิษย์ชวน” มา และดิฉันอยากเห็นพรรคประชาธิปัตย์ปรับปรุงใหม่ให้มีความสามารถในระดับใกล้เคียงพรรคใหญ่คู่แข่งด้วยคุณภาพใหม่ ไม่ใช่แบบปฏิบัติการ I/O เอาชั่วใส่ผู้อื่นตลอดเวลาในทุกเรื่อง

ดิฉันไม่อยากเห็นประชาธิปัตย์แบบที่เป็นอยู่ในช่วงคุณอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรค คุณสุเทพเป็นเลขาธิการพรรค เพราะนอกจากไม่ส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ยังเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตยโดยล้มรัฐสภาและขัดขวางการเลือกตั้ง ทั้งใช้การปราบปรามประชาชนด้วยทหารใช้กระสุนจริงดังทีเกิดมาในปี 2552, 2553

นี่เป็นความหวังดีด้วยน้ำใสใจจริงเพื่อไม่ให้มีการทำรัฐประหารในประเทศไทยเกิดขึ้นอีกต่อไป โดยที่พรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่พ่ายแพ้เวทีเลือกตั้งแล้วหันไปสนับสนุนระบอบอื่น

ดิฉันยังให้ความเคารพเชื่อถือนักการเมืองเก่า ๆ หลายท่านในพรรคประชาธิปัตย์ที่มีประวัติศาสตร์ร่วมการต่อสู้กับประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในยุคก่อน

และดิฉันจำเป็นต้องวิเคราะห์วิจารณ์ประชาธิปัตย์ในฐานะประชาชนผู้รักประชาธิปไตย คุณนิพิฏฐ์จะมาด่าทอดิฉันอย่างไรก็ตามสบาย

ประวัติศาสตร์การเมืองไทยจะบันทึกเรื่องราวของพรรคประชาธิปัตย์ตามความจริงเสมอ...ไม่ใช่ตามที่ใครด่าใคร!