ย่ำอยู่กับสถานะโจร


เพิ่มเพื่อน    

      นี่ก็คลายล็อกล็อตใหญ่ไปแล้ว

      เหลือแค่ปลด

      เมื่อกลางเดือนที่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยพูดไว้ว่า

      "การตัดสินใจผมก็มีหลักเกณฑ์ สื่อไม่ต้องมาถามวันนี้ เดือนกันยาผมพูดเอง ทุกอย่างมันต้องปลดล็อกอะไรต่างๆ อยู่แล้วไม่ใช่หรือ”

      เข้ากันยายนมาค่อนเดือนแล้ว สายตาที่จับจ้องว่า นายกฯ ลุงตู่ จะประกาศท่าทีทางการเมืองอย่างไร ก็ยังจ้องมองอยู่

      แต่ยังไม่มีประกาศใดๆ ออกมา!

      กรณีนี้เป็นสูตรการเมืองที่ไม่ตายตัว

      พล.อ.ประยุทธ์อาจเล่นการเมืองต่อ หรือไม่เล่นก็ได้ แม้จะมีการเตรียมการรองรับไว้พร้อมแล้วก็ตามที

      สำหรับนักการเมืองที่ไม่ได้มาจากฐานพรรคการเมืองแล้ว การตัดสินใจจะยากกว่านักการเมืองที่โตมาจากพรรคการเมือง

      ยกเว้นเป็นนอมินีอย่างยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

      มองการเมืองอย่างไม่ตอแหล วันนี้ไม่ต้องถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทำงานการเมืองแล้วหรือยัง!

      เพราะตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมันบ่งบอกชัดเจนอยู่แล้วว่า...

      คือข้าราชการการเมือง

      พรรคเพื่อไทยเค้าสงสัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีสถานะอะไรกันแน่ เพราะวานนี้ (๑๗ กันยายน) ไปพูดกับชาวบ้านที่จังหวัดเลยว่า 

      "ผมไม่ใช่นักการเมืองตอนนี้ ผมทำหน้าที่งานการเมืองให้ท่าน ทำให้คนทั้งประเทศ"

      ง่ายๆสั้นๆ...

      "นักการเมือง" คือ "บุคคลทางการเมือง"

      การที่ พล.อ.ประยุทธ์ยังคงปฏิเสธว่า ตัวเองไม่ใช่นักการเมือง ก็ถูกแล้ว เพราะแค่ทำงานการเมืองในฐานะนายกรัฐมนตรี

      มันเป็นความรู้สึกว่าตัวเองยังไม่ใช่นักการเมือง

      "ลุงตู่" รู้ว่าตัวเองไม่ใช่นักการเมืองจากระบบเลือกตั้ง

      การรับรู้สถานะตัวเองแบบนี้ จะไปคาดคั้นทำไม

      ฝ่ายที่อวดอ้างประชาธิปไตย ไม่น่าจะเข้าใจอะไรยาก

      ถ้าจะเอาจริงเอาจังกับสถานะทางการเมือง หรือสถานะของบุคคล มีสิ่งที่นักการเมืองในพรรคเพื่อไทยต้องหาคำตอบมาชี้แจงประชาชนให้ได้

      พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนักการเมือง หรือไม่ใช่ มันก็แค่โวหาร

      แค่วาทะทางการเมืองที่พูดกันไป

      คำถามคือ พรรคเพื่อไทยรู้หรือไม่ว่า สถานะของ ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ วันนี้....

      เป็นอะไร?

      การที่พรรคเพื่อไทยเอาแต่อวดอ้างว่า มีความเป็นประชาธิปไตยมากกว่าใคร แต่กลับมีพฤติกรรม ไม่ปฏิเสธที่จะถูกจูงจมูกจากคนที่มีความผิดติดตัว

      หลบหนีกระบวนการยุติธรรม

      ทักษิณ ชินวัตร มีหมายจับกี่ใบ?

      มีโทษจำคุกคดีโกงไม่ใช่หรือ

      นั่นคือสถานะของนายทักษิณ

      ส่วนยิ่งลักษณ์ ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่

      ผู้ต้องหาหลบหนีคดีปล่อยทุจริตจำนำข้าว

      เห็นการโกงจำนำข้าว แต่นายกรัฐมนตรีเอาแต่พูด หนูไม่รู้ ไม่รู้กระทั่งสถานะทางการเมืองของตัวเอง

      ฉะนั้นถ้าพรรคเพื่อไทยรู้สึกว่า "ซีเรียส" กับสถานะทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ว่าเป็นนักการเมือง หรือไม่เป็นกันแน่ ควรหันกลับไปดูในบ้านตัวเอง

      "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" เป็นนักการเมืองแบบไหน

      ใช่นักการเมืองที่น่าเคารพนับถือ และยอมให้บงการ อยู่หรือไม่?

      การเป็นนักการเมืองไม่ใช่เรื่องเสียหาย

      แต่นักการเมืองเลว เอาแต่กอบโกยผลประโยชน์เพื่อตัวเอง และพวกพ้อง นักการเมืองสายพันธุ์นี้คือผู้ที่ทำให้การเมืองและบ้านเมืองเสียหาย

      พรรคเพื่อไทยกลับไม่รับรู้ว่า การที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก ทักษิณ ๒ ปี

      ยึดทรัพย์ ๗.๖ หมื่นล้าน

      คือการลงโทษคนทำผิดกฎหมาย

      การเลือกตั้งที่จะมาถึง พรรคเพื่อไทย ยังคงเริ่มต้นแบบเดิม

      แบบที่นักการเมืองวิ่งเข้าหานักโทษหนีคุก

      ไม่สนใจว่าสถานะของคนที่ตัวเองวิ่งเข้าหาจะเป็นเช่นไร แล้วเที่ยวไปถามคนอื่นว่าเป็นนักการเมืองหรือเปล่า

      ตราหน้าไว้ตั้งแต่วันนี้เลย หากเกิดวิกฤติการเมืองขึ้นมาอีก ต้นตอคือพรรคเพื่อไทย ที่ไม่ยอมสลัดจากการเป็นทาสนักโทษหนีทุก

      บังเอิญว่าสำนักข่าวอิศรา นำคำพิพากษาฉบับเต็มคดีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก ๒ ปี โดยไม่รอลงอาญา นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล คดีคืนพาสปอร์ตให้นายทักษิณ มาเผยแพร่

      มีเนื้อหาสาระเป็นเหตุผลว่าทำไมพรรคเพื่อไทยควรจะประกาศเป็นไทจากนายทักษิณ เพราะนายทักษิณจะก่อปัญหาให้ในอนาคต

      คำพิพากษาบางตอนระบุเอาไว้ดังนี้ครับ

      ...เมื่อการพิจารณาคำขอพาสปอร์ตข้างต้นกระทำเป็นชั้นความลับและดำเนินการมาอย่างเร่งด่วนตั้งแต่ต้นทางที่กรุงอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศที่เป็นพยาน เบิกความว่า ได้รับทราบทางโทรศัพท์จากเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี ก่อนในช่วงบ่ายต้นๆ แจ้งว่า มีการยื่นคำร้องแล้ว จึงนำเรียนปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และได้รับคำสั่งให้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

      โดยได้ความว่า ที่ประชุมไม่รอแม้กระทั่งให้โทรเลขมาถึง ทั้งๆ ที่โดยปกติการออกหนังสือเดินทางไม่ใช่เรื่องที่ทำเป็นชั้นความลับหรือเร่งด่วนแต่อย่างใด แม้พยานอ้างว่า ที่ต้องทำเป็นชั้นความลับเนื่องจากเป็นประเด็นทางการเมืองที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชนจำนวนมากก็ตาม แต่หากพิจารณาโดยความรอบคอบเที่ยงธรรมจริง ไม่มีเหตุใดอันต้องปกปิด ยิ่งต้องทำด้วยความรอบคอบมิให้เกิดความผิดพลาด

      นอกจากนี้ตอนประชุมข้าราชการระดับสูงยังไม่สามารถหาข้อมูลมาได้ทั้งหมด เพราะเชิญประชุมตอนเช้า โดยไม่เคยมีข้อมูลให้ผู้เข้าร่วมประชุมรับทราบ ย่อมเห็นได้อย่างชัดแจ้งว่า การประชุมดังกล่าวมีลักษณะเป็นการนัดหมายอย่างกะทันหัน ขาดความละเอียดรอบคอบในด้านข้อมูลเพียงพอที่จะพิจารณา

      และเมื่อกรณีดังกล่าวไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่ประชุมย่อมอาจทอดเวลาหรือเลื่อนการประชุมออกไปเพื่อให้เจ้าหน้าที่ค้นคว้าแสวงหาข้อมูลรวมทั้งข้อกฎหมายให้ถูกต้องครบถ้วนเสียก่อน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาอย่างรอบด้าน ป้องกันข้อครหาจากสาธารณชน ไม่ว่าผลการประชุมออกมาในทางใด

      แต่ที่ประชุมกลับหาได้กระทำเช่นนั้นไม่ และยังคงดำเนินการประชุมต่อเนื่องไปในวันเดียวเพื่อสรุปผลนำเสนอให้นายสุรพงษ์พิจารณา พฤติการณ์จึงบ่งชี้ให้เห็นว่า กระบวนการพิจารณาดังกล่าวกระทำในลักษณะปกปิด รีบเร่ง และรวบรัด ซึ่งขัดแย้งต่อแนวทางปฏิบัติในกรณีทั่วไป

      ข้าราชการระดับสูงในกระทรวงการต่างประเทศหลายราย เบิกความยืนยันว่า การยกเลิกพาสปอร์ตของนายทักษิณ ทำให้การเดินทางขาดความสะดวกสบาย และรัฐบาลไทยอาจขอให้รัฐบาลประเทศนั้นขับออกจากประเทศหรือส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้

      จึงบ่งชี้ให้เห็นว่า เหตุที่นายทักษิณ ต้องมาขอหนังสือเดินทางประเภทบุคคลทั่วไป เพราะขาดความสะดวกในการเดินทาง อยู่ในต่างประเทศโดยผิดกฎหมาย และอาจถูกรัฐบาลประเทศนั้นขับออกจากประเทศหรือส่งผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดียังประเทศไทยได้

      ดังนั้นการที่นายสุรพงษ์ สั่งการขอให้ยกเลิกคำสั่งรัฐบาลเดิมที่นายกษิตสั่งไว้เมื่อปี 2552 และให้ออกพาสปอร์ตให้นายทักษิณนั้น ถือว่าความเห็นของนายสุรพงษ์เป็นข้อชี้ขาด เพราะหากไม่มีคำสั่งทางนโยบายออกมา ข้าราชการก็ไม่สามารถดำเนินการออกพาสปอร์ตให้นายทักษิณได้

      จึงมีผลให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติซึ่งเห็นบัญชาของนายสุรพงษ์ที่สั่งไว้เข้าไปปลดรายชื่อนายทักษิณออกจากบัญชีรายชื่อบุคคลที่ต้องตรวจสอบก่อนออกพาสปอร์ต และดำเนินการทางเทคนิคเพื่อปลดล็อกในระบบคอมพิวเตอร์ให้ออกพาสปอร์ตได้....

      สถานะของ นายสุรพงษ์วันนี้คือ นักการเมืองที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองมีคำพิพากษาจำคุก ๒ ปี

      ได้ประกันตัวออกมาสู้คดี แต่ศาลห้ามไปต่างประเทศ

      พรรคเพื่อไทยเคยคิดกลับมาทบทวนเรื่องที่ นายทักษิณ แทรกแซงทั้งกิจการภายในพรรค และการบริหารราชการแผ่นดิน จนคนในพรรคต้องเสี่ยงต่อการติดคุกตอนแก่บ้างหรือไม่?

      หรือไม่คิดอะไรเลย เพราะมาอาศัยเขาอยู่!

      ประชาธิปไตยสามารถเปลี่ยนประเทศไทย หากผู้กล่าวอ้างว่ารักประชาธิปไตย มีความศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยจริง 

      ไม่ใช่ทาสในพรรคการเมือง

      แต่จนถึงวันนี้เพื่อไทยกลับส่งสัญญาณให้คนนอกพรรคได้เห็นว่า ยังสยบยอมอยู่ใต้แทบเท้า บุคคลที่มีสถานะนักโทษหนีคุกคดีโกง 

      แล้วจะไปถามหาสถานะทางการเมืองของคนอื่นทำไม

      กวาดบ้านตัวเองก่อนไม่ดีหรือ.     

                                          ผักกาดหอม


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"