"บิ๊กตู่" ควง ครม.สัญจรเมืองเลย ตื้นตันต้อนรับอบอุ่น เพิ่มกำลังใจทำงาน ลั่นเดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน "ปรีชา" ส่งเมียรับหน้าแทน ยังเหนียมซบสามมิตร "ประวิตร" มอบนโยบายภาคเหนือตอนล่าง ย้ำคุมความสงบเรียบร้อยถึงหลังเลือกตั้ง บี้ปราบมาเฟียแก้หนี้นอกระบบ
    เมื่อวันที่ 17 กันยายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะที่ประกอบด้วย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อ.ประจิน  จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี, นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์, นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา, นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตรและสหกรณ์ เดินทางลงพื้นที่ในการตรวจราชการ จ.เลย และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) จ.เพชรบูรณ์ ระหว่างวันที่ 17-18 ก.ย.
    โดยเวลา 08.40 น. ที่หอประชุมทองวิไล มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานในพิธีเปิดถนน 4 เลน หมายเลข 201 ตอน เลย-เชียงคาน ก่อนเป็นประธานสักขีพยานมอบหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชนให้แก่ประธานป่าชุมชน 5 จังหวัด (บึงกาฬ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี) มีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย และประชาชนกว่า 1,500 คนให้การต้อนรับ 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข อดีต ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย ได้มาร่วมต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ ในนามประธานคณะกรรมการสภาสตรี จ.เลย ขณะที่นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พรรคเพื่อไทย สามีของนางเปล่งมณีนั้น มีชื่อติดอยู่บนเก้าอี้ในหอประชุมแต่ไม่ได้เดินทางมาด้วย โดยมีข่าวว่าจะเข้าร่วมกับกลุ่มสามมิตรสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ อีกสมัย 
    โดยก่อนนายกฯ มาถึงได้มีการประชาสัมพันธ์ผลงานและโครงการของรัฐบาลให้ประชาชนได้รับทราบ เช่น โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ, การท่องเที่ยวเมืองรอง และมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ นอกจากนี้ยังมีการแจกหมวกเพื่อประชาสัมพันธ์เพจเฟซบุ๊ก "ไทยคู่ฟ้า" ของรัฐบาล
    จากนั้นมีพิธีต้อนรับนายกฯ ด้วยวงดนตรีผสมของคนหลายสาขาอาชีพ ขับร้องเพลง "สร้างไทยไปด้วยกัน" และเพลง "มากกว่ารัก" ของโรส ศิรินทิพย์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมมีข้อความบนจอโปรเจกเตอร์ด้วยว่า "รักลุงตู่นะคะ" ซึ่งเมื่อฟังเพลงดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์มีรอยยิ้มและสีหน้าที่ตื้นตันใจ
ตื้นตันต้อนรับอบอุ่น
    ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นกล่าวบนเวทีว่า รู้สึกเต็มตื้นที่ได้รับการต้อนรับอย่างดี รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับทุกพื้นที่ ครั้งนี้ได้มาภาคเหนือและอีสาน ที่มีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกันทั้งในและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งได้ฟังเพลงมากกว่ารักต้อนรับแล้วรู้สึกซาบซึ้งเต็มตื้น ตนไม่ได้ให้ทุกคนต้องมารักตน  เพราะเมื่อทุกคนรักตน ตนก็รักท่าน หรือแม้ไม่รัก ตนก็รักทุกคนอยู่ดี เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลหรือใครก็ตามที่เข้ามาทำงานการเมืองตรงนี้ รัฐบาลจึงพยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อจะขับเคลื่อนให้ทุกจังหวัดเดินไปข้างหน้า บนพื้นฐานความแตกต่าง สำหรับโครงการไทยนิยมยั่งยืน แม้จะเป็นงบประมาณไม่กี่แสนบาทลงในทุกหมู่บ้าน แต่ถือเป็นการเริ่มต้น จุดประกายความหวังของพวกเรา ซึ่งภาครัฐจะต้องพัฒนาเติมลงไป เพราะถ้ามัวสนับสนุนแต่เป็นกลุ่มหรือรายบุคคลจะไม่มีวันลดความเหลื่อมล้ำลงได้ ไม่เกิดการกระจายรายได้ นำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างคนรวยและคนจน
    "รัฐบาลมุ่งหวังยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน จ.เลยมีมนต์เสน่ห์ในการท่องเที่ยว เป็นเมืองแห่งทะเลหมอกและภูเขา เราต้องทำให้ภูเขามีต้นไม้ เช่นที่ทุกคนบอกว่ารักลุงตู่ ก็จะต้องช่วยกันทำให้ลุงตู่มีกำลังใจ และเมื่อลุงตู่เจอทุกคนก็มีกำลังใจแล้ว เสาร์-อาทิตย์ผมนั่งพักผ่อน ทำงานบ้าง เขียนหนังสือบ้าง ถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะผมยังมีความเป็นมนุษย์อยู่ บางทีก็มีกำลังใจ บางทีก็ท้อแท้ แต่ก็ท้อไม่ได้เพราะพวกเราทุกคนรออยู่ เมื่อท้อแท้ก็นึกถึงหน้าประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้นถ้าพวกท่านท้อแท้ ขอให้นึกถึงหน้าผมก็แล้วกัน หรือนึกถึงหน้าผมแล้วจะท้อหนักกว่าเดิมก็ไม่รู้ ยืนยันว่าผมไม่ได้อะไรกับพวกท่านเลย มีใครเดือดร้อนอะไรกับผมบ้าง ผมว่ามีไม่กี่คนที่เดือดร้อนกับผม เบื่อรัฐบาลและ คสช.ก็ว่ากันไปเถอะ เพราะวันนี้เรากำลังทำสิ่งที่ดีและดีกว่าเดิม" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
    นายกฯ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง อดีตนักการเมือง เพียงแต่ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินการไปตามกฎหมาย ขั้นตอน กรรมวิธี ไม่จำเป็นต้องไปสั่งไล่ล่าฆ่าฟันใคร  เราเร่งพัฒนาบ้านเมืองไปสู่ความสงบเรียบร้อย มีความอบอุ่น จะได้ไม่โดดเดี่ยว ฉะนั้นขอให้รักกันมาก ๆ ลืมข้อบาดหมางในอดีตให้ได้ ทุกคนเห็นแล้วว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เรามีรอยยิ้ม ไม่มีการสร้างความวุ่นวาย เหล่านี้จะทำให้เราไม่เหงา
    จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ชี้ไปที่นางเปล่งมณี พร้อมกล่าวว่า "ใช่หรือไม่คุณเร่งสมบูรณ์สุข ดีหรือเปล่านะแบบนี้ ขอให้มาช่วยกันก็แล้วกัน ก็ทำงานให้ดีจะช่วยใครผมไม่รู้ ขอให้ช่วยประชาชน ในลักษณะที่ไปด้วยกันทั้งจังหวัด เพราะทั้งหมดคือประเทศไทย ซึ่งมี 77 จังหวัด เราจะเดินแค่จังหวัดเดียวไม่ได้ และถ้าให้อะไรกับใครคนใดคนหนึ่ง แล้วที่เหลือจะได้อะไร รัฐบาลไหนเข้ามาก็ต้องทำเช่นนี้ ต้องยึดมั่นให้เป็นหลักการของประเทศ"
    ทั้งนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หากมีการเสนอแผนมาจะต้องพิจารณาดูว่าตรงหรือสอดคล้องกับแผนที่วางไว้หรือไม่ เพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งรัฐบาลต้องวางแผนแม่บทล่วงหน้าในแต่ละเรื่อง แต่ทุกรัฐบาลสามารถปรับเปลี่ยนได้ ถ้าไม่เขียนไว้เลยวันหน้าจะเป็นถนนเส้นด้วนๆ  เหมือนเดิม ถนนที่ไม่มีสะพานหรือทางน้ำที่ขาดตอน แต่ยุทธศาสตร์ชาติจะทำให้เกิดความต่อเนื่อง แต่ละปีรัฐบาลก็จะทำตามแนวทางนี้ ตีกรอบไว้แค่นี้เอง ไม่ใช่รัฐบาลนี้จะมารักษาอำนาจ 20 ปี 
    ภายหลังนายกฯ พูดจบ เด็กนักเรียนหญิงจากโรงเรียนเลยพิทยาคม 2 คน พร้อมด้วยแพทย์จิตเวช เป็นตัวแทนมอบภาพวาดแรเงารูป พล.อ.ประยุทธ์ให้แก่นายกฯ พร้อมกล่าวว่า พี่ที่โรงเรียนเลยพิทยาคม เป็นผู้วาด แต่ไม่สามารถนำมาให้ได้ด้วยตัวเองเพราะติดสอบ โดยนายกฯ ถามว่า "เป็นรูปอะไร" เด็กนักเรียนตอบว่า "เป็นรูปคุณลุงตอนหนุ่มๆ ค่ะ" นายกฯ เลยหยอกล้อว่า "ถ้าอย่างนั้นลุงก็แก่แล้วใช่ไหมเนี่ย" พร้อมชี้ไปที่รูปภาพและบอกว่าเป็นรูปสมัยนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 จากนั้นเด็กนักเรียนได้ขอกอดนายกฯ ซึ่งนายกฯ ได้เข้าสวมกอดเด็กทั้ง 2 คน ก่อนที่นักเรียนจะกล่าวว่า "ขอให้ลุงตู่มีสุขภาพแข็งแรง หนูจะเป็นกำลังใจให้ลุงตู่" ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "วันนี้หลานๆ ก็คอยดูแลเราอยู่ ได้คุยกับแพทย์จิตเวชเลยบอกอย่างนั้นช่วยดูแลผมด้วย"
    จากนั้นนายกฯ ได้เดินทักทายประชาชน โดยมีหญิงคนหนึ่งตะโกนว่าอย่าทิ้งคนพิการ นายกฯ กล่าวว่าไม่ทิ้งหรอก เพราะเราก็ดูการเข้าถึงในเรื่องต่างๆ และเบี้ยยังชีพของคนพิการ ไม่ว่ารัฐบาลใครก็แล้วแต่ที่ออกมาพูดว่าให้เบี้ยเท่านั้นเท่านี้เป็นไปไม่ได้ เพราะต้องคำนวณสัดส่วนรายได้ ซึ่งต้องคำนึงถึงความเป็นธรรม อำนาจอยู่ที่พวกเราทุกคน อย่าเอาอำนาจไปให้คนไม่ดี ให้ใครตนก็ไม่รู้เหมือนกันไปดูกันเอาเอง 
      หลังจากนั้นนายกฯ ได้เดินเยี่ยมชมนิทรรศการโครงการไทยนิยม ยั่งยืน โอทอป นวัตวิถี และการท่องเที่ยวชุมชน โครงการสร้างป่า สร้างรายได้ และโครงการอาหารปลอดภัย
ปรีชาส่งเมียรับหน้า
    ด้านนางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข กล่าวว่า มาต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนำกลุ่มพัฒนาสตรี จังหวัดเลย ส่วนที่นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีต ส.ส.เขต 1 จังหวัดเลย พรรคเพื่อไทย ไม่เดินทางมาด้วย เนื่องจากต้องระวังตัวนิดนึง เกรงจะถูกมองว่ามาอยู่พรรคนั้นพรรคนี้ ทั้งๆ ที่เรายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคใด แต่ยอมรับว่ากระแสกลุ่มสามมิตรตอนนี้แรง คนจับจ้องอยู่ ซึ่งการที่พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่จังหวัดเลยและเพชรบูรณ์ พวกเราโอเค ไม่มีอะไร ขอให้ท่านทำงานและดูแลบ้านเมือง อย่างไรก็ตามในเรื่องการเลือกสังกัดพรรคที่จะไปนั้น ขอให้ขึ้นอยู่กับนายปรีชาเป็นผู้ชี้แจงเอง
    เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐเป็นอีกตัวเลือกหรือไม่ นางเปล่งมณีกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า  "ต้องถามคุณปรีชา เราเป็นลูกทีม วันนี้คุณปรีชาคงลงพื้นที่พบมวลชน เพราะต้องถามใจพี่น้อง เราทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน พอใจหรือมีเรื่องอะไรหรือไม่ เราตัดสินใจเองไม่ได้ คุณปรีชาก็จะลงพื้นที่สุ่มถามความรู้จากพี่น้องว่าเป็นอย่างไร พอใจ รับได้หรือไม่ก่อนตัดสินใจ"
    ต่อมาเวลา 11.35 น. พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะไปเยี่ยมชมการจัดการท่องเที่ยวชุมชนตามแนวทางประชารัฐ ที่ถนนคนเดิน วิถีเชียงคาน อ.เชียงคาน ท่ามกลางแสงแดดและอากาศที่ร้อนอบอ้าว ซึ่งจังหวัดได้จัดนักเรียนคู่แฝดจำนวน 14 คนมาต้อนรับ และมอบขันหมากเบ็งของมงคลสำหรับผู้มาเยือนให้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจากนายกฯ ก็มีบุตรสาวฝาแฝด พร้อมกับมอบการ์ดอวยพรให้กำลังใจนายกฯ ในการบริหารบ้านเมือง รวมทั้งมอบผ้าเบี่ยง (ผ้าประจำท้องถิ่นของจังหวัดเลย) ให้เป็นที่ระลึก  จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้พบปะประชาชนที่มารอให้การต้อนรับกว่า 2,000 คน พร้อมชมการแสดงอังกะลุงเพลงเต้ยโขง การแสดงท้องถิ่นของภาคอีสาน จากนักเรียนโรงเรียนบ้านเชียงคานวิจิตรวิทยา  จากนั้นเดินทางมายังโรงแรมดิโอลด์ เชียงคาน บูติก โฮเทล ก่อนที่นายกฯ จะนั่งรถรางเยี่ยมชมวิถีชีวิตและการจัดการท่องเที่ยวของเชียงคาน 
    จากนั้นนายกฯ เข้ากราบนมัสการองค์หลวงพ่อนาคใหญ่ พระประธานในอุโบสถ ก่อนกล่าวคำถวายเครื่องสักการะ เปิดกรวยกระทงดอกไม้และพานธูปเทียนแพ ถวายพานดอกบัว ผ้าไตร และเครื่องไทยธรรมแด่พระครูศิริปัญญาวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดศรีคุนเมือง รองเจ้าคณะจังหวัดเลย โอกาสนี้พระครูศิริปัญญาวิสุทธิ์ได้สนทนาธรรมด้วย พร้อมมอบพระกริ่งคู่เหมือนเจ้าคุณวิชิตธรรมาจารย์ อดีตบูรพาจารย์ผู้สร้างวัดให้แก่นายกฯ และคณะ
    พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้เยี่ยมชมพิธี "ผาสาดลอยเคราะห์" ซึ่งเป็นพิธีกรรมโบราณที่ทำสืบทอดกันมานับร้อยปีแล้ว โดยชาวเชียงคานในสมัยโบราณเชื่อว่าหากผู้ใดเห็นสิ่งไม่ดี สิ่งไม่เป็นมงคล หรือมีอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ประสบเคราะห์ร้ายถึงแก่ชีวิต ให้ทำการลอยผาสาด เพื่อเป็นการลอยสิ่งไม่ดีทิ้งไป  จะทำให้ชีวิตดีขึ้น มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา ซึ่งนายกฯ ได้ทดลองจุ่มเทียนดอกไม้เพื่อประดับพระสาด แต่ไม่ได้ทำพิธีสาดลอยเคราะห์เนื่องจากเวลากระชั้นชิด
    หลังจากนั้นเวลา 16.25 น. พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะเดินทางไปยังสวนป่าเกษตรห้วยแสนคำ ต.บ้านหวาย อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เพื่อเยี่ยมชมการปลูกไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ โดยเจ้าหน้าที่ได้อธิบายถึงการประเมินมูลค่าไม้มีค่าที่สามารถนำไปเป็นหลักประกันกู้เงินจากธนาคารได้ เช่น ต้นสักทอง ต้นมะฮอกกานี ต้นประดู่ และต้นมะขาม เป็นต้น
    ต่อมานายกฯ และคณะเดินทางไปยังโรงแรมอิมพีเรียล ภูแก้ว ฮิลล์ รีสอร์ท ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ  จ.เพชรบูรณ์​ เพื่อเยี่ยมชมสินค้าเกษตรปลอดภัย ภายใต้ตราสัญลักษณ์ "กรีนมาร์เก็ตเพชรบูรณ์" และผลิตภัณฑ์ของดีเพชรบูรณ์ ก่อนที่จะพบผู้แทนเครือข่ายชุมชนเขาค้อ เพื่อสนทนาแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเขาค้ออย่างยั่งยืน และเข้าพักค้างคืนที่โรงแรมอิมพีเรียลฯ
สั่งสงบถึงหลังเลือกตั้ง
    วันเดียวกัน พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจราชการและมอบนโยบายการปฏิบัติงานแก่ส่วนราชการต่างๆ ในพื้นที่กลุ่มภาคเหนือตอนล่าง ที่ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์   โดยกล่าวชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ทุกส่วนราชการ ที่สนับสนุนขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาลต่อเนื่องกันมา พร้อมย้ำเป็นนโยบาย ขอให้ฝ่ายปกครอง ทหารและตำรวจในทุกอำเภอและจังหวัด พยายามทำงานหนักร่วมกันให้มากขึ้น เพื่อเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชน ด้วยการประคองเสถียรภาพความมั่นคง และรักษาบรรยากาศความสงบเรียบร้อยของสังคมให้ต่อเนื่องกันไปถึงหลังการเลือกตั้งทั่วไป โดยให้ความสำคัญกับงานเชิงรุกทั้งด้านข่าวและด้านการป้องปราม  
    นอกจากนี้ขอให้เร่งขับเคลื่อนงานตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล ในการแก้ปัญหายาเสพติด ทั้งการสกัดกั้นในพื้นที่ชายแดนและเส้นทางลำเลียง รวมทั้งการปราบปรามในพื้นที่ชุมชนเมือง การแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพล ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นในกลุ่มมือปืนรับจ้างและอาวุธสงคราม ที่เป็นเหตุความรุนแรงในพื้นที่ รวมทั้งกลุ่มอิทธิพลและนายทุนบุกรุกป่า ตลอดจนการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและครอบครัวที่ชีวิตยังติดพันและจมอยู่กับปัญหาหนี้นอกระบบ ทั้งการไกล่เกลี่ยและการบังคับใช้กฎหมายเข้มข้นควบคู่กันไป กับนายทุนฉ้อโกงที่เอาเปรียบข่มขู่ประชาชน โดยพยายามช่วยเหลือนำคืนทรัพย์สินและโฉนดที่ดินทำกินกลับมาให้ได้  
    จากนั้นในช่วงบ่าย พล.อ.ประวิตรและคณะเดินทางไปรับฟังการบรรยายสรุปจากกองทัพภาคที่ 3  และตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของกองพลทหารม้าที่ 1 โดยขอให้เตรียมกำลังและความพร้อมรบของหน่วยทหาร ให้พร้อมป้องกันชายแดนและเผชิญกับภัยคุกคามทุกรูปแบบในพื้นที่ พร้อมทั้งขอให้กองกำลังป้องกันชายแดนให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวังและสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด และลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายโดยเฉพาะพืชผลทางการเกษตร ในขณะเดียวกันขอให้ประสานและทำงานร่วมกับฝ่ายปกครองและตำรวจ เสริมสร้างความเชื่อมั่นในการดูแลรักษาบรรยากาศความสงบเรียบร้อยและความรักความสามัคคีในพื้นที่ให้ต่อเนื่องถึงหลังการเลือกตั้ง ควบคู่ไปกับการสนับสนุนแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน 
    ก่อนที่จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจการปฏิบัติงานของตำรวจที่ สภ.ท่าพล และ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ โดยขอให้ยึดประชาชนในพื้นที่เป็นศูนย์กลาง ใช้วาจาสุภาพเป็นมิตร โดยให้พัฒนาการบริการและระบบอำนวยความยุติธรรมให้เป็นที่เชื่อมั่นของประชาชน ในการป้องกันและลดปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในภาพรวม พร้อมทั้งกำชับให้ตำรวจเข้าไปช่วยเหลือดูแลชาวบ้านแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ และบังคับใช้กฎหมายจริงจังกับนายทุนเถื่อนในพื้นที่   
    พร้อมกันนี้มีประชาชนจำนวนมากจากพื้นที่ 9 จังหวัดในภาคเหนือตอนล่าง ได้รวมตัวกันเดินทางมาแสดงความขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ พล.อ.ประวิตร ที่กำชับฝ่ายความมั่นคงลงมาช่วยขับเคลื่อนดูแลความเดือดร้อนของผู้มีรายได้น้อยจากปัญหาหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง.