คึกคักส่งท้าย 102 ปีสนามม้านางเลิ้ง เตรียมชงมหาดไทยแก้กฎหมายให้ใช้สนามม้าฝรั่งแข่งได้ 4 นัดตามเดิม เพื่อบรรเทาผลกระทบผู้เกี่ยวข้อง 2 แสนชีวิต ส่วนการสร้างสนามใหม่ยังไม่ตกผลึก
     เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 ก.ย. ที่ราชตฤณมัยสมาคม แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดแข่งขันม้านัดประวัติศาสตร์ ชิงถ้วยที่ระลึกพระยาประดิพัทธภูบาล (คอยู่เหล ณ ระนอง) ผู้ก่อตั้งสนามม้าร่วมกับเจ้าพระยารามราฆพ เพื่อส่งคืนพื้นที่ให้สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ หลังจากสิ้นสุดสัญญาเช่า ทั้งนี้การแข่งขันมีจำนวน 10 เที่ยว โดยผู้ได้รับรางวัลจะได้รับเงินคูณสองจากยอดเงินรางวัลทั้งหมดในแต่ละเที่ยว 
     พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ รองประธานคณะกรรมการราชตฤณมัยสมาคม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า รู้สึกใจหาย รวมทั้งทุกคนที่เป็นแฟนคลับสนามม้าราชตฤณมัยสมาคมฯ ก็ใจหายทุกคน โดยดูได้จากคนเก่าคนแก่ก็กลับมาเยอะในเที่ยวแรกนี้ โดยเช็กดูแล้วมีผู้เข้าชมมากถึง 5,000 คน ซึ่งเที่ยวสองและเที่ยวสามนั้น อาจเพิ่มขึ้นอีกหลายพันคน
    "เราเป็นห่วงเจ้าของม้า คนเลี้ยงม้า คนที่เกี่ยวข้องกับม้า วงการม้าเราก็เป็นห่วง เราก็คิดกันและดำเนินการ ซึ่งไม่ใช่ผมอย่างเดียว แต่โดยคณะกรรมการฯ โดยเฉพาะ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการราชตฤณมัยฯ ก็ได้ติดต่อกับกระทรวงมหาดไทยขอให้ออกระเบียบให้มีการแข่งม้าอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้งในกรุงเทพฯ เพื่อเป็นการบีบบังคับให้ราชกรีฑาสโมสรต้องมีการแข่งม้าเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของคนในวงการม้า" พล.อ.บุญเลิศกล่าว
    ด้าน พล.อ.วิชญ์กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาแก้ไขออกระเบียบใหม่ ให้มีการแข่งขันที่สนามราชกรีฑาสโมสร (สนามฝรั่ง) ทั้ง 4 นัดให้ครบ 4 สัปดาห์ หลังจากนั้นราชกรีฑาจะรับไปดำเนินการต่อ ในการอนุญาตให้สมาชิกเข้าไปเล่นในสนามฝรั่ง โดยสัปดาห์หน้าระเบียบดังกล่าวจะออกมา วันนี้ถือเป็นวันสุดท้าย และวันที่ 4 ต.ค.นี้ จะส่งพื้นที่คืนสำนักทรัพย์สินฯ โดยสนามม้าอยู่มา 102 ปีจนถึงทุกวันนี้ ก็ต้องยอมรับกันในที่สุด 
     “สำนักทรัพย์สินฯ ได้แสดงเจตจำนงที่จะนำที่ดินไปใช้ ซึ่งพวกเราเห็นด้วยกับสิ่งที่สำนักทรัพย์สินฯ แจ้งมา  ที่จะนำพื้นที่ไปทำพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 9 และพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ซึ่งทุกคนเห็นด้วย” พล.อ.วิชญ์กล่าว และว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามกฎหมายแรงงาน มีการเยียวยาให้ 3 เดือน และบริษัทบีเจซี ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน ก็จะเพิ่มเติมให้ส่วนสำนักงานอีก 3 เดือน โดยได้ชี้แจงกับพนักงานทุกคนแล้ว 
     พล.อ.วิชญ์กล่าวอีกว่า หากบริษัทบีเจซีจะลงทุนสร้างสนามม้าใหม่ ก็ต้องคิดดูกันอีกทีว่าที่ใดเหมาะสมสุด ซึ่งก็ได้คุยแล้วส่วนหนึ่ง แต่ยังไม่ได้เจาะจงว่าตรงไหน ตอนนี้ขอให้จบตรงนี้ก่อน เมื่อจบแล้วค่อยไปเริ่มต้นใหม่ และช่วยให้มีการแข่งม้าเดือนละ 4 นัด วงการม้าจะได้อยู่รอด
    พล.อ.วิชญ์ยืนยันว่า พื้นที่สนามม้าไม่ใช่ฐานอำนาจใหม่ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตรไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งสนามม้ามีมานานแล้ว และตนเองก็เข้ามาทำงาน ซึ่งการดำเนินการอาจมีการปรึกษาท่านบ้าง เช่น กรณีออกระเบียบฯ ท่านก็มาช่วยเหลือ เพื่อให้การแข่งม้าอยู่ต่อ เพราะเป็นอาชีพที่มีคนถึง 2 แสนคน เมื่อปิดสนามม้านางเลิ้ง จะเหลือการแข่งขันที่สนามฝรั่งแค่ 2 ครั้งต่อ 1 เดือน รายได้ก็จะลดไปครึ่งหนึ่ง ตรงนี้ถือเป็นส่วนผู้ใหญ่ของรัฐบาลที่ดูแล เพราะห่วงใยคนที่ได้รับผลกระทบ
    “พูดไปเรื่อยเปื่อยว่าล้างอำนาจบิ๊กป้อม ผมทำงานตรงนี้มาหลายปีแล้ว ผมอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก เมื่อถึงจุดหนึ่ง ทุกอย่างเป็นไปตามเวลา เราต้องยอมรับ สิ่งนี้คือสิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะทำได้ ผมอยู่มาตั้งแต่สมัยคุณพ่อ พล.อ.ยศ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เดินตามพ่อมาตลอด ตั้งแต่สิ่งที่พ่อทำไว้ ทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็เสียดายเหมือนกัน แต่ทุกคนก็ต้องยอมรับกันว่าทุกอย่างย่อมมีความเปลี่ยนแปลง” พล.อ.วิชญ์กล่าว.