The way it used to be


เพิ่มเพื่อน    

      ช่วง ปลายฝน ใกล้จะเข้า ต้นหนาว อยู่มะรอมมะร่อ...แต่ฝนฟ้าบ้านเราช่วงนี้ยังออกจะตกยาว ตกนาน กันพอสมควร แต่ก็ยังโชคดีกว่าใกล้ๆ บ้าน อย่างฟิลิปปินส์ เป็นต้น ที่เจอเข้ากับพายุ มังคุด ขณะยังสุกๆ ดิบๆ หรือยัง ห่าม แบบเต็มเม็ด เต็มสูบ คือขณะยังเป็น ไต้ฝุ่นระดับ 4 ชนิดเล่นเอาหนักหนา สาหัส กันไปมิใช่น้อย...

                                                               -----------------------------------------------

      แม้ว่าจำนวนผู้สูญเสีย ล้มตาย จะอยู่แค่ประมาณสิบกว่าราย แต่ถ้าดูจากภาพข่าว ก็น่าจะวินาศสันตะโรกันไปไม่น้อย ไม่ต่างไปจากคุณพ่ออเมริกา ที่ต้องเจอกับพายุเฮอริเคน ฟลอเรนซ์ แม้จะอ่อนกำลังลงมาบ้าง ระหว่างขึ้นฝั่ง แต่ก็เล่นเอาบรรดาอเมริกันชนทั้งหลาย ออกอาการสะบักสะบอมกันไปพอสมควร ด้วยเหตุนี้...บ้านเราช่วงวัน-สองวันนี้ ก็คงต้องระวังๆ เอาไว้มั่ง เพราะพายุ มังคุด ที่แม้จะอ่อนกำลังลงเป็น ไต้ฝุ่นระดับ 3 แต่ท่านก็หันหัว หันหาง จากเกาะลูซอนของฟิลิปปินส์ มาขึ้นฝั่งแถวๆ จีน แถวๆ เวียดนาม และคงสะบัดหัว สะบัดหาง มาโดนแถวๆ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบ้านเรา มากบ้าง น้อยบ้าง ไปตามสภาพ...

                                                                -------------------------------------------------

      ว่าไปแล้ว...เรื่อง อิทธิพลของโลก หรือ ความเปลี่ยนแปลงในระดับโลก และ อิทธิพลของลม-ฟ้า-อากาศ หรือ การเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ นับวัน...มันชักจะกลายเป็น เงื่อนไข และ เหตุปัจจัย สำคัญเอามากๆ ต่อสภาพความเป็นไปทางการเมือง เศรษฐกิจ ของแต่ละประเทศ แบบชนิดหนักหน่วง รุนแรง ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว กลับไม่ได้มีบรรดา นักการเมือง หรือ นักธุรกิจ หยิบมาพูดถึงกันมากมายซักเท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่...ก็มักจะพูดกันแต่เรื่องเดิมๆ ต่อสู้ฟาดฟันกันในแบบเดิมๆ หยิบเอาตัวเลขทางเศรษฐกิจ ดัชนีทางเศรษฐกิจแบบเดิมๆ มาใช้เป็นตัวชี้วัด การเจริญขึ้น-เจริญลงกันไปตาม สูตรสำเร็จ แบบเดิมๆ นั่นเอง...

                                                                  -------------------------------------------------------

      ทั้งๆ ที่ ความเปลี่ยนแปลงในระดับโลก ทุกวันนี้...มันทำท่าว่ากำลังจะเปลี่ยนกันแบบ พลิกฟ้า-คว่ำดิน เอาเลยก็ว่าได้ เปลี่ยนกันชนิดที่ ระเบียบโลกแบบเก่า อาจสูญหาย พังทลายลงไป ในขณะที่ ระเบียบโลกแบบใหม่ ยังไม่ได้เห็นรูปร่าง หน้าตา ที่ชัดเจน พอให้เกิดความมั่นอก มั่นใจ ความเชื่อถือ ศรัทธา ขึ้นมาได้บ้าง จนอาจก่อให้เกิด สุญญากาศอำนาจ ทางการเมือง การทหาร ไปจนแม้แต่ทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม อันจะมีผลเกี่ยวพันไปถึงระบบคิด วิธีคิด ของผู้คน ชนิดที่ ค่านิยม เดิมๆ อย่างเรื่องค่านิยมในความเป็น ประชาธิปไตย ทุกวันนี้...ต้องเรียกว่า กลายเป็นค่านิยมที่ถูก ท้าทาย ระดับสั่นสะท้าน สั่นสะเทือน ไปทั่วทั้งระบบ ทั่วทั้งองคาพยพ ไปแล้วก็ว่าได้...

                                                                  ---------------------------------------------------------

      ยิ่งถ้ายังยึดติด ยึดมั่น กับความเป็น ประชาธิปไตยแบบเดิมๆ คือประชาธิปไตยที่ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของ ทุนนิยมเสรี เท่านั้น ยิ่งอาจกลายเป็นการเปิดช่อง เปิดทาง ให้กับการ สวิง กลับไปสู่ความเป็น เผด็จการแบบเดิมๆ หรือ แบบใหม่ๆ ได้ด้วยกันทั้งสิ้น เพราะเผด็จการทุกวันนี้ก็ไม่ใช่ เป้านิ่ง ไม่ได้ดำรงตนเป็นไดโนเสาร์ เต่าล้านปี เหมือนเดิมๆ อีกต่อไปแล้ว แต่สามารถอาศัย เงื่อนไข และ เหตุปัจจัย อันเนื่องมาจากความเสื่อมโทรมของประชาธิปไตยเองนั่นแหละ โดยเฉพาะการปราศจากเสียซึ่ง ธรรมะ หรือ ธรรมาภิบาล ทั้งหลาย มาใช้เป็นตัวต่อเติม เสริมแต่ง ให้ความเป็นเผด็จการ ดูดี ขึ้นมาไม่น้อย

                                                                   ----------------------------------------------------------

      เช่นเดียวกับ การเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ...ที่ออกอาการ พลิกฟ้า-คว่ำดิน หนักยิ่งขึ้นไปใหญ่  คือไม่ใช่แต่ส่งผลกระทบต่อประเทศรวย-ประเทศจน ประเทศพัฒนาแล้วหรือกำลังพัฒนา ประเทศเผด็จการหรือประชาธิปไตย เท่านั้น แต่ทุกๆ ประเทศนั่นแหละ มีสิทธิ์ล้มคว่ำ คะมำหงาย ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี ด้วยกันทั้งสิ้น เผลอๆ...อาจสูญหาย อาจถูกลบทิ้งไปจากแผนที่ได้ทุกเมื่อ รวมทั้งวิถีชีวิตของมวลมนุษย์ในแต่ละประเทศ หรือแทบทุกประเทศนั่นแหละ ย่อมหนีไม่พ้นต้องถูกคุกคาม บังคับ ให้ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะของดิน-ฟ้า-อากาศ ชนิดไม่มีสิทธิ์ บริโภคนิยม แบบเดิมๆ ได้อีกต่อไปแล้ว...

                                                                     ----------------------------------------------------------

      ความเปลี่ยนแปลงของทั้งสองสิ่ง สองอย่าง ที่ต่างก็มี อิทธิพล เอามากๆ ดังที่กล่าวไปแล้ว...จึงเป็นสิ่งที่ควรต้องเก็บเอามาคิด เอามาทำการบ้าน ไว้ก่อนล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นเผด็จการล้วนๆ เผด็จการครึ่งใบ ไปจนถึงประชาธิปไตยล้วนๆ หรือประชาธิปไตยครึ่งใบ ก็ตามที แต่ออกจะน่าเสียดายอยู่ไม่น้อย ที่ไม่ว่าจะอยู่ในระหว่างการ ล็อก การ คลายล็อก หรือกระทั่งไปจนถึงการ ปลดล็อก โอกาสที่จะเห็นฝ่ายเผด็จการ ฝ่ายประชาธิปไตย หยิบเอาเรื่องทำนองนี้มาคิดๆ ไว้ก่อนล่วงหน้า แทบไม่ปรากฏร่องรอยให้เห็นเอาเลยแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้...การเปลี่ยนแปลงจากประชาธิปไตยไปสู่เผด็จการ จากเผด็จการกลับมาสู่ประชาธิปไตย มันจึงเป็นไปในแบบเดิมๆ หนักไปทางสู้กันแบบเดิมๆ ฟัดกันไป-ฟัดกันมา ไล่บี้ ไล่งับ แค้นจัด-กัดดะ-ฝังเขี้ยวจมน่อง อย่างเท่าที่เคยเป็นมานั่นแล...

                                                                     ------------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก George Santayana...“Those who cannot remember the past  are condemned to repeat it. - ผู้ที่ไม่จดจำอดีต...คือผู้มีกรรมที่จำต้องย้อนรอยอดีต...”

                                                                    --------------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"