หนุ่มลาวก่อคดีสยอง บุกบ้านแม่ค้าขายอาหารวัย 68 ปี จับเชือดคอเป็นศพ หลานสาว 2 คนวัย 9 ขวบและ 12 ขวบตื่นมาประสบเหตุ คนโตถูกเชือดคอเสียชีวิตอีกคน ส่วนคนเล็กอาการสาหัส ขนาดแมวก็ไม่รอด ถูกเชือดคอตายเช่นกัน ก่อนรื้อค้นทรัพย์สินเผ่นหนี ตำรวจระดมล่า
    เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 16 กันยายนนี้ ร.ต.อ.ชาย พลศรี พนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีผู้ถูกฆ่าปาดคอและบาดเจ็บ ที่บ้านพักเลขที่ 53/21 ภายในซอยเพชรหึงษ์ 23 ต.บางยอ อ.พระประแดง จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และกำลังอีกจำนวนหนึ่ง พบว่าเป็นบ้านที่มีรั้วรอบ เมื่อเข้าไปในบ้าน ที่ห้องน้ำ ก็พบภาพสุดสลด เป็นศพนางมะลิ อิ่มสวัสดิ์ อายุ 68 ปี เจ้าของบ้าน ถูกปาดคอด้วยของมีคม 2 แผลฉกรรจ์ ส่วนที่ห้องนอน เป็นศพ ด.ญ.อิสยา เพิกเฉย อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 หลานนางมะลิ ถูกคนร้ายฆ่าปาดคอเสียชีวิตอยู่บนที่นอน นอกจากนี้ยังพบ ด.ญ.อาภารัตน์ อายุ 9 ปี นักเรียนชั้น ป.3 ถูกปาดคอ แต่แผลไม่ลึกมาก ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลบางปะกอก 3
    เจ้าหน้าที่พบด้วยว่า ภายในบ้านเกิดเหตุมีร่องรอยถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย พบอาวุธมีดเปื้อนเลือดตกอยู่ 2 เล่ม คาดว่าเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน อีกทั้งยังพบแมวตายอีก 1 ตัวถูกปาดคอเช่นเดียวกัน
    นายปรีชา ช้างใหญ่ อายุ 50 ปี ผู้ที่พบศพ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. ตนได้ยินเสียงเอะอะคล้ายคนทะเลาะกัน จึงชะโงกหน้าเข้าไปดูบริเวณบ้าน เห็นชายคนหนึ่งวิ่งหลบหนีไป จึงเดินเข้าไปดูในบ้าน ก็พบผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว จากนั้นได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ
    หลังการสอบปากคำพยานและการเก็บรวบรวมหลักฐาน ตำรวจก็รู้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ คือนายพูลล้า อายุ 22 ปี ชาวลาว มีอาชีพเป็นช่างเชื่อม พักอาศัยอยู่ในบ้านเช่าใกล้บ้านเกิดเหตุ โดยก่อนเกิดเหตุ นางมะลิออกไปขายอาหารตามปกติ จากนั้นได้กลับมาเอาของที่บ้านเพราะลืมไว้ คาดว่านายพูลล้าอาจจะเดินตามนางมะลิเข้าไปในบ้าน หรือแอบเข้าไปในบ้านรื้อค้นทรัพย์สิน เมื่อเห็นนางมะลิย้อนเข้าบ้าน จึงล็อกคอแล้วใช้มีดปาดคอเพื่อฆ่าปิดปาก แต่เบื้องต้นนางมะลิยังไม่ตาย จึงได้ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แล้วหนีเข้าไปในห้องน้ำก่อนสิ้นใจ ส่วนเด็กหญิงทั้งสองคนคาดว่ายังนอนอยู่ภายในห้อง ได้ยินเสียงร้องของยายจึงออกมาดู ถูกคนร้ายฆ่าและทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนรื้อค้นทรัพย์สินแล้วขี่รถจักรยานยนต์ที่ขโมยมาหลบหนี ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่พบรถคันดังกล่าวจอดอยู่ที่ห้างบิ๊กซี พระประแดง ส่วนทรัพย์สินของผู้ตาย ญาติระบุว่าสร้อยหายไป 1 เส้น และคาดว่าเงินติดตัวนางมะลิหายไปด้วย
    ด้าน น.ส.ประวีณา โพดิรก อายา 25 ปี ภรรยาของนาบพูลล้า ให้ปากคำว่า เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์  ตนทะเลาะกับสามีเรื่องสามีชอบดื่มสุรา กระทั่งเวลา 19.00 น. สามีออกจากบ้านไปตลอดทั้งคืน กระทั่งมาทราบว่าก่อเหตุดังกล่าว
    พ.ต.อ.สิทธิโรจน์ ไกรวชิรสิทธิ์ ผกก.สภ.พระประแดง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนกระจายกำลังออกติดตามจับกุมคนร้ายตามบ้านญาติ หรือบ้านเพื่อนรวมงาน นอกจากนี้ได้จัดชุดสืบสวนเดินทางไปที่ห้องเช่าของคนร้ายและเพื่อนข้างห้อง เพื่อหาข้อมูลหลักฐานของคนร้ายเป็นแนวทางการติดตามตัว
    มีรายงานว่า ช่วงบ่ายวันอาทิตย์ ตำรวจ สภ.พระประแดงได้ประชุมหารือถึงคดีนี้ เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจ จึงต้องเร่งคลี่คลายคดีโดยเร็ว โดยได้ส่งชุดสืบสวนออกหาตัวคนร้ายอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าน่าจะหลบอยู่ในพื้นที่ ขณะเดียวกันก็เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับนายพูลล้า
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก สภ.พระประแดง ถึงเหตุดังกล่าวแล้ว ในส่วนของผู้ก่อเหตุคือนายพูลล้า อายุ 21 ปี ชาวลาว ก่อนเกิดเหตุได้เข้าขอพักในบ้านช่วงเช้ามืด และลงมือก่อเหตุก่อนหลบหนีไป โดยี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ซึ่งเจ้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ไล่กล้องซีซีทีวี และเร่งรัดติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย อีกทั้งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐาน และกำลังยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอออกหมายจับคนร้ายต่อไป 
    รองโฆษก ตร.กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ ได้แจ้งเตือนให้ทุกหน่วยในสังกัดทราบและทำการสกัดจับไว้แล้ว โดยพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง รวบรวมพยานหลักฐานและรอผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ และผลตรวจวัตถุพยานจากพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งตนได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบแล้ว ท่านได้กำชับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานอย่างตรงไปตรงไปมา ด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ พร้อมทั้งฝ่ายสืบสวนให้เร่งรัดติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว เพื่อเยียวยาความเสียหาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม.