ความหวังของพ่อแม่


เพิ่มเพื่อน    


    เคยเขียนอยู่บ่อยๆ ถึงพ่อแม่ในยุคนี้ที่ไม่ค่อยมีเวลาและเลี้ยงลูกด้วยการยื่นโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ตให้ พอเด็กเป็นโรคสมาธิสั้น (ADHD) บกพร่องทางการเรียนรู้ (LD) หรือประสาทสัมผัสบกพร่อง (Sensory Processing Disorder) มีปัญหาในการเรียนหรือการเข้าสังคมก็ไม่ยอมรับว่าลูกตัวเองผิดปกติ ยกให้เป็นภาระของครูในการดูแลกลุ่มที่ยอมรับและพาไปหาหมอก็คิดว่าหาหมอแล้ว กินยาแล้ว ก็คาดหวังว่าลูกน่าจะหาย พอไม่หายก็หลงเชื่อโฆษณาซื้อคอร์สต่างๆ บ้าง ซื้อวิตามินเสริมให้ลูกกินบ้าง โดยลืมไปว่าโรคพวกนี้ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคที่กินยาฆ่าเชื้อแล้วจะหายได้ แต่เป็นโรคที่เกิดจากการทำงานของสมองผิดปกติ ต้องอาศัยความรัก ความเข้าใจ การสื่อสารและการสอนอย่างถูกวิธี แต่พ่อแม่ประเภทนี้กลับแสวงหาสิ่งที่เรียกว่า fix quick ในการรักษาลูกโดยไม่คิดจะศึกษา ทำความเข้าใจและใช้ความรักในการรักษา
    ที่น่าตกใจก็คือเกิดชมรมและเครือข่ายมากมายที่ใช้พ่อแม่เหล่านี้เป็นเครื่องมือในการขอเงินจากกองทุนแต่ไม่ได้มีความโปร่งใสในการจัดกิจกรรม ส่วนใหญ่จะแนะนำให้นำลูกไปจดทะเบียนคนพิการเพื่อรับเงินสนับสนุนจากรัฐ การที่เด็กคนหนึ่งมีบัตรคนพิการทั้งๆ ที่เขามีศักยภาพที่จะพัฒนาได้ คุณคิดว่าเด็กคนนั้นจะรู้สึกอย่างไร คุณหมอในวงการนี้หลายท่านก็ทราบดีถึงกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อดูดเงินกองทุนเหล่านี้แต่ก็พูดไม่ออก คนที่มาร่วมกิจกรรมก็ไม่ได้อะไรกลับไป ที่เคยเจอกับตัวเองก็คือนัดเจอกันที่โลตัสถ่ายบัตรประชาชนรับเงินแล้วก็แยกย้ายกันกลับ เป็นอะไรที่น่าตกใจมาก บางกลุ่มก็ตั้งชมรมหาเงินเข้ากระเป๋าอย่างโจ่งแจ้ง อาศัยการให้สัมภาษณ์ออกสื่อบ่อยๆ แต่ละคนที่ออกมาไม่ได้เลี้ยงลูกจนสำเร็จเลยสักคน และเมื่อตรวจสอบดูก็ไม่ได้มีความรู้ความสามารถหรือจบการศึกษาที่พอจะการันตีในสิ่งที่พูดออกสื่อได้เลย
    ยิ่งออกสื่อมากเท่าไหร่พ่อแม่ที่มีความหวังก็เฮโลกันไป สุดท้ายก็พบกับความผิดหวัง ชื่อเสียงของชมรมเหล่านี้ก็เริ่มเป็นที่รู้จักในทางที่ไม่ดีจากปากต่อปากของพ่อแม่ที่ได้เข้าไปสัมผัส อยากจะวิงวอนพ่อแม่ให้ค้นหาข้อมูลให้ดีๆ ก่อนที่จะหลงเชื่อคำแนะนำอะไร โดยเฉพาะเรื่องการใช้ยาและอาหารเสริมที่ขายกันเกลื่อนทางออนไลน์ ต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น สำหรับตัวบุคคลให้ค้นหาทางกูเกิลว่าจบอะไรมา มีประสบการณ์ตรงแค่ไหน และมีความสำเร็จอะไรเป็นที่ประจักษ์ แต่ต้องไม่ลืมว่าไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว เพราะศักยภาพและบริบทของเด็กแต่ละคนไม่เท่ากัน เลิกแสวงหาสิ่งที่เรียกว่า fix quick เพราะอะไรที่ too good to be true ยิ่งเป็นสิ่งที่ต้องระวัง เป็นกำลังใจให้พ่อแม่ทุกคนนะคะ อย่าลืมว่า “ยา” ที่ดีที่สุดคือ “ความรัก” และ “ครู” ที่ดีที่สุดคือ “พ่อแม่” ค่ะ. 
            จิตติมา กุลประเสริฐรัตน์
            ([email protected])
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"