สอบผอ.ฉาวมีมูล ตร.รับไม้ตั้งข้อหา


เพิ่มเพื่อน    


สรุปผลสอบ ผอ.โรงเรียนมีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับนักเรียนหญิงชั้น ม.2 พบเป็นเรื่องจริง พยานบุคคลหลายฝ่ายให้ข้อมูลทิศทางเดียวกัน พร้อมส่งเรื่องให้ศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมาตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงทันที แฉประวัติ ผอ.สุดฉาวโฉ่เคยลวนลามนักเรียน ป.6 จนเลิกรากับเมียที่มีลูกด้วยกัน 2 คน ส่วนคดีความยังไม่คืบหน้ามากนัก ตำรวจเผยอยู่ระหว่างสืบหาข้อเท็จจริงให้ทันภายในวันศุกร์นี้ (26 ม.ค.)
    เมื่อวันที่ 25 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนายณฐาภพ บุญทองโท อายุ 51 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่าตองท่าเนินสามัคคี อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ถูกตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีถูกร้องเรียนมีพฤติกรรมชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 ของโรงเรียน โดยมีหลักฐานข้อความสนทนาแช้ตไลน์ เรียกกันและกันว่า ที่รัก และเมียจ๋า กระทั่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 มีคำสั่งย้ายด่วนให้ ผอ.โรงเรียนไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่ฯ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงนั้น
    นายศุภพงษา จันทรังษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา (สพป.นม.) เขต 6 เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่สอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนได้สอบปากคำพยานหลายฝ่าย ทั้งพยานแวดล้อมและพยานบุคคล ซึ่งพยานบุคคลทุกรายได้ให้การสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้คณะกรรมการฯ สรุปผลการสอบสวนเบื้องต้นได้ว่า ผอ.โรงเรียนคนดังกล่าวมีพฤติกรรมฉันชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิงเป็นเรื่องจริง
    นายศุภพงษากล่าวว่า จะทำรายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงส่งให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนคราชสีมา ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานได้ในวันศุกร์ที่ 26 มกราคมนี้ เพื่อดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับ ผอ.โรงเรียนรายนี้ต่อไป ซึ่งหากพบผิดจริงมีโทษทางวินัยร้ายแรงถึงขั้นปลดออกหรือไล่ออก หลังจากนี้นายณฐาภพและเด็กนักเรียนหญิงวัย 14 ปี ชั้น ม.2 ก็จะต้องไปให้ปากคำกับคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงที่ทางคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมาแต่งตั้งขึ้นมาต่อไป
    "ขณะที่การสอบสวนเรื่องดังกล่าวของพนักงานสอบสวน สภ.บัวใหญ่ ก็ดำเนินควบคู่กันไปด้วยเช่นเดียวกัน โดยขณะนี้กำลังเร่งสอบปากคำพยานบุคคลต่างๆ เพื่อนครูในโรงเรียนและเพื่อนเด็กนักเรียน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทั้งตัว ผอ.โรงเรียนและเด็กนักเรียนหญิงยังคงเก็บตัวเงียบ และยังไม่มีใครสามารถติดต่อได้" รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่ฯ นครราชสีมา เขต 6 กล่าว
    นายศุภพงษากล่าวเพิ่มเติมว่า หากคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงสรุปผลว่า ผอ.โรงเรียนรายนี้มีความผิดจริง ก็มีโทษหนักถึงขั้นไล่ออกจากราชการและไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินบำเหน็จบำนาญ โดยก่อนหน้านี้นายณฐาภพเคยมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับเด็กนักเรียนหญิงที่โรงเรียนเก่ามาแล้ว ซึ่งครั้งนั้นถูกกล่าวหาว่าลวนลามเด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.6 และทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนและมีบทลงโทษทางวินัยด้วยการตัดเงินเดือน 5 เปอร์เซ็นต์ เป็นระยะเวลา 2 เดือน ก่อนที่เมื่อปลายปีที่ผ่านมาจะมีคำสั่งย้าย ผอ.โรงเรียนคนดังกล่าวออกจากโรงเรียนเก่าไปอยู่ที่โรงเรียนป่าตองท่าเนินสามัคคีในปัจจุบัน
    ส่วนด้านคดีความอาญา พ.ต.อ.คารม บุญสด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบัวใหญ่ ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว โดยจะเร่งดำเนินการหาพยานหลักฐานข้อเท็จจริงให้ปรากฏชัดภายในกรอบระยะเวลา 3 วัน ตามคำสั่งของ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 หากมีพยานหลักฐานปรากฏชัดว่า ผอ.โรงเรียนรายดังกล่าวทำผิดจริง ก็ให้ประสานผู้ปกครองของเด็กนักเรียนหญิงวัย 14 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี แต่ถ้าหากผู้ปกครองไม่ยอมแจ้งความร้องทุกข์ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษเอง ตามกฎหมายคุ้มครองเด็กและเยาวชน ฐานความผิดข้อหาพรากผู้เยาว์เพื่ออนาจารเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี
    ผกก.สภ.บัวใหญ่กล่าวว่า ตำรวจได้ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว โดยใช้เวลาหาข้อมูล 3 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันศุกร์ที่ 26 ม.ค.นี้ ขณะนี้ทราบข้อมูลเพียงจากข่าวของสื่อมวลชนเท่านั้น ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่ามีมากน้อยเพียงใด โดยกรรมการชุดนี้ซึ่งมีรองผู้กำกับการฝ่ายสืบสวนสอบสวน สภ.บัวใหญ่เป็นประธาน ได้ลงพื้นที่หาข้อมูล พร้อมประสานขอข้อมูลจาก สพป.นม.เขต 6 ด้วย หากมีมูลความผิดต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
    สำหรับผู้อำนวยการโรงเรียนอื้อฉาวคนดังกล่าวอายุ 51 ปี เพิ่งย้ายจากผู้อำนวยการโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งใน ต.โนนทองหลาง อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา รับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่าตองท่าเนินสามัคคี ซึ่งเป็นโรงเรียนขยายโอกาส เปิดสอนตั้งแต่ ป.1-ม.3 ได้แค่ 3 เดือน แล้วมาก่อเหตุฉาวโฉ่ขึ้น
    ก่อนหน้านี้เคยมีปัญหาฉาวโฉ่ลักษณะเดียวกันนี้กับเด็กนักเรียนหญิง ป.6 จนทำให้ถูกลงโทษทางวินัยด้วยการตัดเงินเดือน และเป็นเหตุให้ต้องเลิกรากับภรรยาที่มีลูกด้วยกัน 2 คน ก่อนมามีภรรยาใหม่คนปัจจุบันอายุ 21 ปี ทำงานอยู่ร้านสะดวกซื้อ โดยมีสัมพันธ์กับผู้อำนวยการโรงเรียนคนนี้ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.3 และคบกันมานานถึง 6 ปี.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"