คนล้น"สนามม้านางเลิ้ง" แข่งม้านัดประวัติศาสตร์ ก่อนปิดตัวอย่างเป็นทางการ"บิ๊กน้อย"เผย มท.จ่อแก้ระเบียบเปิดทางแข่ง"สนามฝรั่ง"ช่วยอาชีพแข่งม้าไม่ให้สูญพันธ์ หนุนสำนักทรัพย์สินฯใช้ที่ดินสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9- อย่าโยงล้างฐานอำนาจ "บิ๊ป้อม"ด้าน"เสธ.อ้าย"ใจหาย ห่วงทุกชีวิตในสนามม้า

เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2561 ที่ราชตฤณมัยสมาคม (สนามม้านางเลิ้ง) แข่งขันม้านัดประวัติศาสตร์ ชิงถ้วยที่ระลึก พระยาประดิพัทธภูบาล ( คงอยู่เหล ณ ระนอง) ผู้ก่อตั้งสนามมาร่วมกับเจ้าพระยารามราฆพ เพื่อส่งคืนพื้นที่ให้กับสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์หลังจากสิ้นสุดสัญญาเช่า ทั้งนี้ มีการแข่งขัน 10 เที่ยว โดยผู้ได้รับรางวัลจะได้รับเงินคูณสองจากยอดเงินรางวัลทั้งหมดในแต่ละเที่ยว พลเอก บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ รองประธานคณะกรรมการาชตฤณมัยสมาคมในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวว่า รู้สึกใจหาย และไม่ใช่เฉพาะตนที่ใจหายทุกคนที่เป็นแฟนคลับสนามม้า ราชตฤณมัยสมาคมฯ ก็ใจหายทุกคนแต่จะเห็นได้ว่าไม่ใช่ใจหายอย่างเดียววันนี้คนเก่าคนแก่ก็กลับมาเยอะในเที่ยวแรกนี้ ตนเช็คดูแล้ว มีผู้เข้าชมถึง 5,000 คน ซึ่งเที่ยวสองและเที่ยวสามนั้นอาจจะเพิ่มขึ้นอีกหลายพันคน

"เราเป็นห่วง เจ้าของม้า คนเลี้ยงม้า คนที่เกี่ยวข้องกับม้า วงการม้าเราก็เป็นห่วง เราก็คิดกันและดำเนินการซึ่งไม่ใช่ผมอย่างเดียว แต่โดยคณะกรรมการโดยเฉพาะพล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการ ก็ได้ติดต่อกับกระทรวงมหาดไทยขอให้กระทรวงมหาดไทยออกระเบียบขอให้มีการแข่งม้าอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้งในกรุงเทพเพื่อเป็นการบีบบังคับให้ราชกรีฑาสโมสรต้องมีการแข่งม้าเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของคนในวงการม้า"

พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการราชตฤณภัยสมาคมฯ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาแก้ไขออกระเบียบใหม่ ให้มีการแข่งขันที่สนามราชกรีฑาสโมสร (สนามฝรั่ง) ทั้ง 4 นัด ให้ครบ 4 สัปดาห์ หลังจากนั้นทางราชกรีฑา จะรับไปดำเนินการต่อ ในการอนุญาตให้สมาชิกเข้าไปเล่นในสนามฝรั่ง โดยสัปดาห์หน้าระเบียบดังกล่าวจะออกมา วันนี้ถือเป็นวัดสุดท้าย และวันที่ 4 ตุลาคมนี้ จะส่งพื้นที่คืนสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ สนามม้าอยู่มา 102 ปี จนถึงทุกวันนี้ ก็ต้องยอมรับกันในที่สุด จากที่สำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้แสดงเจตจำนงที่จะนำที่ดินไปใช้ดำเนินการอะไร ซึ่งพวกเราเห็นด้วยกับสิ่งที่ทางสำนักทรัพย์แจ้งมา  ซึ่งได้ข่าวมาว่าจะนำพื้นที่ไปทำ พระบรมราชานุเสาวรีย์ รัชกาลที่ 9 และ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ซึ่งทุกคนเห็นด้วย

ทั้งนี้ พล.อ.วิชญ์ กล่าวว่า สำหรับพนักงานเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามกฎหมายแรงงาน มีการเยียวยาให้ 3 เดือน และบริษัทบีเจซี ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน ก็จะเพิ่มเติมให้กับส่วนสำนักงานอีก 3 เดือน โดยได้มีการชี้แจงกับพนักงานทุกคนแล้ว ตนขอรับประกันว่าทุกคนจะได้รับการเยี่ยวยา อย่างไรก็ตามหากบริษัทบีเจซี จะลงทุนทำสนามม้าใหม่ ก็ต้องคิดดูกันอีกทีว่าที่ใดเหมาะสมสุด ซึ่งก็ได้คุยแล้วส่วนหนึ่ง แต่ยังไม่ได้เจาะจงว่าตรงไหน ตอนนี้ขอให้จบตรงนี้ก่อน เมื่อจบแล้ว ค่อยไปเริ่มต้นใหม่ และช่วยให้มีการแข่งม้า เดือนละ 4 นัด วงการม้าจะได้อยู่รอด

พล.อ.วิชญ์ ยืนยันว่า พื้นที่สนามม้า ไม่ใช่ฐานอำนาจใหม่ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตนขอยืนยันว่าพล.อ.ประวิตร ไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งสนามม้ามีมานานแล้ว และตนก็เข้ามา โดยตนก็ทำงานมาตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการฯ แต่การดำเนินการอาจจะมีการปรึกษาท่านบ้าง เช่น กรณีการออกระเบียบฯ ท่านก็มาช่วยเหลือ เพื่อให้การแข่งม้าอยู่ต่อ เพราะเป็นอาชีพหนึ่ง โดยมีคนยู่ในอาชีพนี้ถึง 2 แสนคน เมื่อปิดสนามม้านางเลิ้งจะเหลือการแข่งขันที่สนามฝรั่งแค่ 2 ครั้งต่อ 1 เดือน รายได้ก็จะลดไปครึ่งหนึ่ง ตรงนี้ถือเป็นส่วนผู้ใหญ่ของรัฐบาลที่ดูแล เพราะห่วงใยคนที่ได้รับผลกระทบ

“พูดไปเรื่อยเปื่อยว่าล้างอำนาจบิ๊กป้อม ผมทำงานตรงนี้มาหลายปีแล้ว ผมอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก เมื่อถึงจุดหนึ่ง ทุกอย่างเป็นไปตามเวลา เราต้องยอมรับ สิ่งนี้คือสิ่งที่ดีที่สุด ที่เราจะทำได้ ผมอยู่มาตั้งแต่สมัยคุณพ่อ พล.อ.ยศ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เดินตามพ่อมาตลอด ตั้งแต่สิ่งที่พ่อทำไว้ ทำดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ แต่ก็เสียดายเหมือนกัน ก่อนจะมาถึงขนาดนี้ได้ ต้องใช้เวลาและเหนื่อยพอสมควร ทุกคนก็ต้องยอมรับกันว่าทุกอย่างย่อมมีความเปบี่ยนแปลง”พล.อ.วิชญ์ กล่าว