ฤดูฝนช่วงปกติถือเป็น Low Season ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แต่สำหรับบางพื้นที่อย่างเช่นกรณีของอีสานใต้ ในเขตจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดยโสธร จะมีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าสนใจชวนให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจพากันไปชมกัน ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับแนวคิด “amazing ไทยเท่” เที่ยวเมืองไทยแล้วเท่นั่นเอง
นางธนภร พูลเพิ่ม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุบลราชธานี รับผิดชอบพื้นที่อุบลราชธานี-ศรีสะเกษ-ยโสธร-อำนาจเจริญ เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนกันยายนจนถึงเดือนตุลาคมนี้ ในพื้นที่แก่งลำดวน ซึ่งเป็นศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าอุบลราชธานี อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี จะมีปรากฏการณ์ของกุ้งก้ามขน หรือ Macrobrachium Dienbienohuense จำนวนนับแสนตัว พากันเดินขบวนไปวางไข่ และบางช่วงที่มีน้ำมากกุ้งว่ายทวนน้ำไปไม่ไหว จำต้องปีนป่ายไปบนก้อนหินทรายเพื่อคืบคลานไปข้างหน้าจำนวนเป็นหมื่นเป็นแสนตัว กลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ในธรรมชาติที่ไม่ค่อยได้พบเจอ และได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานอุบลราชธานี กล่าวต่อว่า ในการไปชมกุ้งเดินขบวนนั้น ต้องไปตอนกลางคืน โดยนักท่องเที่ยวต้องมีไฟฉายไปด้วยและห้ามนำอาหารไปกิน ต้องเดินด้วยความระมัดระวังเพราะพื้นลื่น และทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
นอกจากมาชมกุ้งเดินขบวนแล้ว ในบริเวณใกล้เคียงกันยังมีแหล่งท่องเที่ยวในฤดูฝน โดยเฉพาะน้ำตกต่างๆ ซึ่งมีน้ำมาก มีความสวยงาม สดชื่น ฉ่ำเย็นแก่ผู้มาเยือน อาทิ น้ำตกแสงจันทร์ หรือน้ำตกรู หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยว Unseen In Thailand ที่เกิดจากสายน้ำจากลำห้วยท่าล้ง ไหลลอดผ่านหน้าผาที่มีลักษณะเป็นรูขนาดใหญ่ บริเวณโดยรอบของน้ำตกแห่งนี้มีทั้งโขดหินน้อยใหญ่เรียงรายและต้นไม้นานาพันธุ์ ดูคล้ายกับสวนญี่ปุ่น บริเวณเบื้องล่างเป็นถ้ำ สามารถตั้งแคมป์ได้ โดยน้ำตกแห่งนี้นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี
“น้ำตกสร้อยสวรรค์” อยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม อำเภอโขงเจียม เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลจากหน้าผาสูงชันสองด้าน เกิดจากลำห้วยสร้อยและลำแซไผ่ ตกลงมาบรรจบกันคล้ายสายสร้อย ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง สูงประมาณ 20 เมตร มีน้ำไหลตลอดปี เป็นน้ำตกที่มีคนนิยมไปเที่ยวกันมาก และยังสามารถมองเห็นทิวทัศน์แม่น้ำโขง ผืนป่าและหน้าผาหินฝั่งลาวได้อย่างชัดเจน
“น้ำตกห้วยหลวง” ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอย หรือคนท้องถิ่นเรียกกันว่า "น้ำตกบักเตว" เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ เกิดจากลำธารห้วยหลวง อยู่เลยที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอยไปทางใต้ 3.5 กิโลเมตร สามารถเข้าถึงได้สะดวกโดยรถยนต์ มีความสูงประมาณ 45 เมตร ไหลผ่านหน้าผาลงสู่เบื้องล่าง มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ พื้นน้ำเป็นสีเขียวมรกตและมีหาดทรายขาวสะอาด เหมาะสำหรับการลงเล่นน้ำ ด้านบนมีจุดชมทิวทัศน์และถ่ายภาพ ด้านล่างมีบันไดสำหรับขึ้นลงจำนวน 272 ชั้น
ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.อุบลราชธานี ยังกล่าวต่อว่า ในเดือนตุลาคมนี้ยังมี “งานบุญจุดไฟตูมกา” ซึ่งเป็นงานประเพณีที่โดดเด่นของจังหวัดยโสธร จัดขึ้นในช่วงเทศกาลออกพรรษา ระหว่างวันที่ 19-23 ตุลาคม 2561 บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร
ภายในงาน นักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตาตื่นใจกับความระยิบระยับตระการตาของแสงไฟตูมกานับหมื่นดวงที่จุดเป็นพุทธบูชา พร้อมกับชมการฟ้อน “เพลินใจ ไฟตูมกา” จากนางรำนับพันคน รวมทั้งกิจกรรมสาธิตการแกะลายไฟตูมกาและกิจกรรมทางวัฒนธรรมอื่นๆ อีกมากมาย และในวันที่ 24 ตุลาคม 2561 ซึ่งเป็นวันออกพรรษา จะมีขบวนแห่ไฟตูมกาตามแบบวิถีชุมชนไฟตูมกา บ้านทุ่งแต้ ตำบลทุ่งแต้ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร เพื่อประกอบพิธีจุดไฟตูมกาถวายเป็นพุทธบูชา ที่วัดบูรพา บ้านทุ่งแต้ ให้ชมอีกด้วย
สำหรับประเพณีจุดไฟตูมกาเริ่มจากชาวบ้านหมู่บ้านเล็กๆ ในตำบลทุ่งแต้ ได้ร่วมกันฟื้นฟูภูมิปัญญาโดยนำผลตูมกาซึ่งเป็นผลไม้ป่าที่มีรูปทรงกลมคล้ายผลส้มขนาดเท่ากำปั้นหรือโตกว่า จากนั้นนำมาขูดเอาผิวสีเขียวออก คว้านเอาเนื้อและเมล็ดข้างในออกหมดแล้วใช้มีดแกะเป็นลายต่างๆ ตามความต้องการ แล้วนำเทียนจุดไฟมาใส่ไว้ แสงสว่างจากเปลวเทียนก็จะลอดออกมาเป็นลวดลายตามรูที่เจาะไว้ ทำให้มีความสวยงามแปลกตา จากนั้นนำมาถวายเป็นพุทธบูชาในวันออกพรรษา
ทั้งนี้ ในคืนวันออกพรรษาชาวบ้านจะจุดเทียนจากที่บ้านหิ้วก้านไปรวมกันที่วัดแม้จะมีลมพัดเทียนก็จะไม่ดับ เมื่อเทียนจะหมดก็เปลี่ยนเล่มใหม่ได้ เมื่อไปถึงที่วัดก็จะนำไฟตูมกาไปแขวนไว้ตามสถานที่ทางวัดจัดไว้ เช่น ซุ้มไม้ไผ่หรือราวไม้สำหรับแขวนก้านตูมกา แล้วร่วมสวดมนต์ใหว้พระตามวิถีของชาวพุทธ เสริมสิริมงคลให้แก่ชีวิตตัวเองและคนในครอบครัว ซึ่งทำให้ผู้พบเห็นเกิดความประทับใจและชื่นชมในความศรัทธา จนกลายเป็นประเพณีที่มีชื่อเสียง
นอกจากนี้ เมื่อมาถึงจังหวัดยโสธรแล้วก็สามารถไปยังแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยง อาทิ เส้นทางย้อนรอยเมืองสิงห์ท่า ค้นหาอดีตเมืองยโสธร, โบสถ์ไม้บ้านซ่งแย้ อำเภอไทยเจริญ, พิพิธภัณฑ์มาลัยข้าวตอกที่วัดหอก่อง อำเภอมหาชนะชัย หรือวิมานพญาแถน เป็นต้น และไม่ควรพลาดแวะซื้อของฝากขึ้นชื่อ เช่น ปลาส้ม หมอนขวานผ้าขิดบ้านศรีฐาน เครื่องจักสาน
“แม้จังหวัดในอีสานใต้จะอยู่ชายแดน มีอาณาเขตติดต่อกับเพื่อนบ้านหลายประเทศ แต่ความปลอดภัยและสะดวกสบายในการเดินทางท่องเที่ยวชมปรากฏการณ์ธรรมชาติ กิจกรรมประเพณีที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว บริการด้านท่องเที่ยวต่างๆ ครบครัน พร้อมสรรพสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเยือนทุกฤดูกาล จึงขอเชิญชวนทุกท่านเดินทางไปแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา” ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.อุบลราชธานี กล่าวปิดท้าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี (รับผิดชอบพื้นที่อุบลราชธานี-ศรีสะเกษ-ยโสธร-อำนาจเจริญ) 264/1 ถนนเขื่อนธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โทรศัพท์ 0-4524-3770, 0-4525-0714.
/-/-/-
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |