15 ก.ย.61- นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาฯ กกอ.) กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับนายกและอุปนายกของสภามหาวิทยาลัยของรัฐ 58 แห่งทั่วประเทศ เพื่อหารือถึงผลกระทบที่อาจเกิดกับสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ที่มีผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดี และที่อยู่ระหว่างกระบวนการเสนอแต่งตั้งอธิการบดีที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป ว่า เนื่องจากคำพิพากษาศาลปกครองสูง กรณีที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น โดยให้เพิกถอนมติสภามหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) กาญจนบุรี ที่แต่งตั้งนายปัญญา การพานิช เป็นรักษาราชการแทนอธิการบดี มรภ.กาญจนบุรี เพราะเป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย และนายปัญญา ก็อายุเกิน 60 ปี ที่ประชุมจึงได้มีการหารือในประเด็นดังกล่าวและมีข้อเสนอแนะมากมาย ซึ่งในสถานการณ์สภาพปัญหาปัจจุบัน ข้อมูลจนถึงวันที่ 15 ก.ย.นี้ มีอธิการบดีที่อยู่ในตำแหน่งและอายุเกิน 60 ปี จำนวน 22 คน และยังมีข้อสงสัยในประเด็นการเข้าสู่ตำแหน่งอธิการบดี ว่าหากรับตำแหน่งก่อนอายุ 60 ปี และปฏิบัติหน้าที่อายุเกิน 60 ปี จะดำเนินการอย่างไร อีกทั้งในกรณีที่มีการฟ้องร้องอยู่ในศาลปกครองอื่นๆ ด้วย โดยที่ประชุมยังไม่ได้มีข้อสรุปที่ชัดเจน มีเพียงข้อเสนอแนะการดำเนินการ หรือมีวิธีอะไรบ้างในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้

นายสุภัทร กล่าวต่อว่า จากนี้ สกอ.จะรวบรวมและสรุปแนวทางในการแต่งตั้งอธิการบดี เสนอให้นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พิจารณา คาดว่าจะมี 4 วิธีการ ส่วนจะมีวิธีการใดบ้างนั้น ตนไม่สามารถระบุได้ เพราะต้องให้ รมว.ศธ.เป็นผู้พิจารณาก่อน ว่าจะเลือกแนวทางใด นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับอายุของอธิการบดีว่า อายุไม่ได้เป็นข้อจำกัดในการทำงาน อีกทั้งคำสั่งศาลปกครองสูงสุดดังกล่าว ก็ไม่ได้ระบุไว้ชัดเจน รวมถึงคำสั่งศาลดังกล่าวยังผูกพันธ์กับองค์กรเดียวด้วย ดังนั้นการที่จะสั่งการให้สภามหาวิทยาลัยไปออกคำสั่งให้อธิการบดีลาออกนั้น จึงไม่สามารถกระทำได้ เพราะกฎหมายระบุเรื่องการออกจากตำแหน่งอธิการบดีไว้อย่างชัดเจน สภามหาวิทยาลัยจึงไม่มีอำนาจ และสำหรับการแต่งตั้งอธิการบดีใหม่ของมหาวิทยาลัยรัฐ ซึ่งขณะนี้มีมหาวิทยาลัยเสนอมาและกำลังรอโปรดเกล้าฯ โดยเรื่องที่อยู่สกอ.นั้น มีอยู่ประมาณ 10 แห่ง แต่มี 3 แห่ง ที่อายุเกิน 60 ปี ในส่วนนี้ สกอ.จะรายงานให้รมว.ศธ.รับทราบ ส่วนการตัดสินใจว่าจะเสนอรายชื่อขึ้นโปรดเกล้าฯ หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ รมว.ศธ.

“ที่ประชุมเห็นตรงกันว่า จากนี้การเสนอขอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคงต้องดำเนินการให้เป็นไปอย่างระมัดระวัง และนำคำสั่งศาลดังกล่าวมาพิจารณาร่วมด้วย เพราะทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าไม่อยากให้เกิดการฟ้องร้อง และการฟ้องร้องจะทำให้มหาวิทยาลัยยิ่งบอกซ้ำ และไม่สามารถพัฒนางานมหาวิทยาลัยต่อไปได้ ซึ่งทางนายกสภามหาวิทยาลัยและอุปนายกสภามหาวิทยาลัย ยังได้มีข้อตำหนิ สกอ.และ ศธ. ด้วยว่าทำไมจึงไม่มีการออกแนวปฏิบัติเกี่ยวกับอายุของอธิการบดี ว่าผู้มาดำรงตำแหน่งอธิการบดีอายุเกิน 60 ปีได้หรือไม่ ให้ชัดเจน ซึ่งผมได้ชี้แจงว่าสกอ.ไม่มีอำนาจ และจะนำข้อสรุปทั้งหมดให้รมว.ศธ.พิจารณา เพื่อเป็นแนวปฏิบัติที่ถูกต้องสำหรับอุดมศึกษาต่อไป และเมื่อเร็วๆ นี้ ผมยังได้รับรายงานว่ามีข้อร้องเรียนจากมหาวิทยาลัยบางแห่งเกี่ยวกับเรื่องผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นอธิการบดีอายุเกิน 60 ปี ซึ่งผมมองว่าเรื่องนี้ไม่สามารถห้ามได้ เพราะไม่มีข้อห้ามในเรื่องนี้”เลขาฯ กกอ.กล่าว