ขุนคลังเปิดช่อง “บินไทย” กู้เงินได้จากหลายสถาบันการเงิน ไม่จำเป็นต้องกู้จาก “กรุงไทย” แห่งเดียว แจงธนาคารต่างชาติรอปล่อยกู้อีกอื้อ ยันซื้อฝูงบินใหม่เป็นไปตามแผนฟื้นฟู หวังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ขีดความสามารถการแข่งขันในอุตสาหกรรมการบิน

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า แผนธุรกิจของ บมจ. การบินไทย ที่จำเป็นต้องซื้อฝูงบินใหม่ จำนวน 23 ลำ วงเงิน 1 แสนล้านบาทนั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนฟื้นฟูกิจการอยู่แล้ว ส่วนแหล่งเงินที่จะใช้ดำเนินการนั้น การบินไทยสามารถหาได้เอง กู้ได้เอง หรือทำลิสซิ่งก็ได้ กระทรวงการคลังไม่ต้องเข้าไปช่วย ส่วนกรณีที่ บมจ.ธนาคารกรุงไทยยืนยันว่าไม่สามารถปล่อยกู้ให้การบินไทยได้ เนื่องจากเกินเพดานที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนด นั้น ก็ถือเป็นเรื่องปกติที่ ธปท. กำหนดไว้อยู่แล้ว แต่การบินไทยไม่จำเป็นต้องกู้เงินจากธนาคารเดียว ยังมีธนาคารต่างชาติอีกเยอะ ซึ่งหลายสถาบันการเงินก็พร้อมที่จะปล่อยกู้อยู่แล้ว

การซื้อฝูงบินใหม่ ถือเป็นเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพให้บริษัท ถามว่าปัจจัยอะไรที่อยากจะทำให้คนขึ้นเครื่องบินบ้าง 1. ราคาตั๋วต้องถูกพอสมควร ดังนั้นถ้าราคาตั๋วเราแพงกว่าสายการบินอื่น คนก็ไม่ขึ้น แต่การที่ราคาตั๋วถูกนี้ก็หมายถึงประสิทธิภาพที่จะต้องดีขึ้นด้วย จึงเป็นที่มาว่าคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ได้ให้การบินไทยกลับไปปรับปรุงประสิทธิภาพ ซึ่งก็ต้องไปอ้างอิง เทียบเคียงกับสายการบินต่างประเทศให้เราสามารถแข่งขันได้ ถ้าสามารถทำให้ต้นทุนถูกได้ ราคาตั๋วก็ถูกได้เช่นกัน

“สิ่งที่จะทำให้เราแข่งขันได้ คือ เครื่องบินต้องดูดี เก้าอี้ใหม่ โดยเฉพาะเส้นทางการบินยาว ๆ ยิ่งต้องทำให้ดูดี ส่วนเครื่องปัจจุบันที่ผ่านมา การบินไทยก็มีการอัพเกรดให้ทันสมัย ปรับปรุงเก้าอี้ให้ดูดีบ้างแล้ว แต่ในบางลำอายุการใช้งานก็มากเกินที่จะอัพเกรดได้ จึงจำเป็นต้องทำแผนเพื่อซื้อฝูงบินใหม่เข้ามา ซึ่งฝูงบินล็อตใหม่ก็จะมีประสิทธิภาพสูงกว่า ใช้น้ำมันน้อยกว่า และต้นทุนการดูแลก็ถูกกว่า นี่เป็นส่วนหนึ่งตามแผนฟื้นฟูที่ได้มีการเสนอมา” นายอภิศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ดี รมว.การคลัง ยืนยันด้วยว่า เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ไม่เคยต่อต้านหรือคัดค้านเกี่ยวกับแผนการซื้อฝูงบินใหม่ของ บมจ. การบินไทยแต่อย่างใด