ปปป.ลุย‘เปรต’ ผุดเพิ่มอีก2วัด ฟันจนท.โกหก


เพิ่มเพื่อน    

  ตำรวจตรวจสำนวนคดีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษา รร.พระปริยัติธรรมก่อนส่งอัยการ "ผู้การกองปราบฯ" มั่นใจพยานหลักฐานชัดเจน "ปปป." พบวัดเกี่ยวข้องเงินทอนล็อต 3 อีก 2 วัด เร่งขยายผลเอาผิดเพิ่ม พร้อมรวบรวมข้อมูลฟันล็อต 4 ต่อทันที "ปปช." สงสัย "พนม ศรศิลป์" กับพวก 9 ราย โยงเงินทอน 3 วัดภาคใต้ วงเงิน 12 ล้านบาท ชงสำนักพุทธฯ แจ้งจับ จนท.พศ.ให้ข้อมูลเท็จต่อ พงส.-สตง.

    ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) วันที่ 14 ก.ย. พล.ต.ต.ประเสริฐ พัฒนาดี รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อมด้วยพล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. และ พ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ รองผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (รอง ผบก.ปปป.) ประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีเงินทอนวัด เพื่อตรวจความเรียบร้อยและภาพรวมของสำนวนคดี รวมถึงเร่งรัดคดีก่อนส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาส่งฟ้องต่อศาล ใช้เวลากว่า 2 ชม.
    พล.ต.ต.ไมตรีกล่าวว่า การตรวจสำนวนคดีในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีความคืบหน้าไปมากพอสมควร ซึ่งเป็นส่วนของคดีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรมที่โอนไปยังวัดต่างๆ ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนทั้งของคณะ บช.ก. ซึ่งประกอบด้วยกองปราบฯ และ ปปป. กำลังเร่งตรวจสอบทั้งหมดตามพยานหลักฐานที่มีความชัดเจน
    ด้าน พ.ต.อ.วรายุทธกล่าวว่า การสรุปสำนวนคดีเงินทอนวัดจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ในส่วนแรกคือคดีฟอกเงินล็อต 1 ถึง 3 ซึ่งบางสำนวนส่งให้อัยการพิจารณาฟ้องศาลเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงสำนวนในล็อต 1 และ 2 บางส่วนเท่านั้นที่อยู่ระหว่างดำเนินการเร่งรัด เพื่อสรุปสำนวนคดี คาดว่าอีกไม่นานสำนวนจะแล้วเสร็จ
    รอง ผบก.ปปป.กล่าวว่า คดีอาญาของล็อต 1 และ 2 ทาง ป.ป.ช.ยังอยู่ระหว่างไต่สวนชี้มูลความผิด ส่วนคดีอาญาที่รับสำนวนคดีล็อต 3 กลับคืนมาจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ทั้งหมด 10 วัด และขยายผลเพิ่มเติมอีก 2 วัด รวมเป็น 12 วัด โดยผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิดทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่รัฐกลุ่มเดิมที่เคยถูกดำเนินคดีก่อนหน้านี้ ยังไม่พบมีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งรัดสอบสวน เพื่อส่งให้อัยการพิจารณา คาดว่าประมาณต้นเดือนต.ค.นี้ทุกสำนวนจะแล้วเสร็จ
    "นอกจากนี้ ในการตรวจสอบทุจริตเงินทอนวัดล็อต 4 คณะทำงานของ ปปป.ยังคงอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพื่อส่งให้ ป.ป.ช.ชี้มูล จึงยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้" รองผบก.ปปป.กล่าว
     มีรายงานความคืบหน้าจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ถึงกรณี ป.ป.ช.จังหวัดสงขลา รายงานผลงานในรอบปีงบประมาณ 2561 โดยมีคดีเกี่ยวกับการทุจริตเงินอุดหนุนวัด 3 แห่งในภาคใต้ วงเงิน 12 ล้านบาท ที่มีการชี้มูลความผิด น.ส.ประนอม คงพิกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.), นายเสถียร ดำรงคดีราษฎร์ อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สงขลา และนายพนม ศรศิลป์ อดีต ผอ.พศ. กับพวกรวม 9 ราย ไปแล้วเมื่อต้นปี 2561 ที่ผ่านมาว่า ภายหลังการชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดแล้ว ป.ป.ช.ส่งหลักฐานและข้อมูลทางการเงินของผู้ถูกกล่าวหาและข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่ได้รับจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสถาบันการเงินอื่น ให้คณะทำงานของ ป.ป.ช.ที่รับผิดชอบดำเนินการตรวจสอบต่อ
    "เมื่อตรวจสอบพบมี 2 ประเด็นใหม่ให้ทำการตรวจสอบเพิ่มเติมคือ ส่งเรื่องให้สำนักงาน พศ.ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน พศ. ที่ให้ถ้อยคำอันเป็นเท็จต่อพนักงานสอบสวน และต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ขณะเดียวกัน ให้คณะทำงานของ ป.ป.ช.รับเรื่องไว้พิจารณากรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐบางรายร่ำรวยผิดปกติ โดยให้ตั้งเรื่องที่ถูกกล่าวหา และดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงพร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตามระเบียบ ในลักษณะเดียวกับการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน เป็นการตรวจสอบเชิงลึก และให้ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นกรรมการผู้รับผิดชอบสำนวนคดี" แหล่งข่าวระบุ
    ขณะที่นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์กรณีดังกล่าว โดยระบุเพียงสั้นๆ ว่า ไม่ทราบรายละเอียดเรื่องดังกล่าว ขอตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งหนึ่งก่อน.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"