ลูกค้าDTACรอดซิมดับ ศาลคุ้มครองถึง15ธ.ค.


เพิ่มเพื่อน    

 ศาลปกครองกลางสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้ผู้ใช้มือถือดีแทคบนคลื่น 850 HHz ใช้งานต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ขณะที่กรรมการ กสทช.ชี้คำสั่งศาลอยู่บนพื้นฐานการปกป้องผู้บริโภคและปกป้องการแข่งขันในอุตสาหกรรมมือถืออย่างแท้จริง ไม่มีฝ่ายไหนแพ้หรือชนะ แต่ยันตรวจเข้มการนำส่งรายได้จากการให้บริการในช่วงคุ้มครองฯ ส่งรัฐให้ครบถ้วน ห้ามอ้างว่าขาดทุน

    ศาลปกครองกลางมีคำสั่งกรณีบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ฟ้องขอเพิกถอนมติของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง  กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ  (กสทช.) ในการประชุมครั้งที่ 13/2561 เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2561 และคำสั่งของ กสทช. ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 เฉพาะในส่วนที่กำหนดเงื่อนไขไม่ให้ผู้ไม่เข้าประมูลคลื่นความถี่ไม่ได้รับสิทธิเข้าสู่มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการ ตามประกาศเรื่อง มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาต สัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พ.ศ.2556 และดีแทคได้มีคำขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติดังกล่าว
    ศาลปกครองกลางวินิจฉัยว่า ประกาศคุ้มครองผู้ใช้บริการชั่วคราวฯ มีความมุ่งหมายประการสำคัญที่จะบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ใช้บริการที่ยังไม่อาจโอนย้ายไปยังผู้ให้บริการรายอื่นสามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่องเมื่อสัญญาสัมปทานสิ้นสุด อันเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดประมูลคลื่นความถี่ใหม่ โดยให้ผู้รับสัมปทานเดิมมีหน้าที่ให้บริการต่อไปได้เป็นการชั่วคราว กสทช.จึงไม่อาจอ้างกรณีที่ไม่มีผู้เข้าร่วมการประมูลคลื่นความถี่มาใช้เป็นเหตุผลที่จะไม่ให้ดีแทคเข้าสู่มาตรการคุ้มครองตามประกาศดังกล่าว มติของ กสทช.จึงน่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมาย
    อีกทั้งถึงแม้ผู้ใช้บริการที่ยังไม่สามารถโอนย้ายเลขหมายได้จะมีจำนวนมากน้อยเพียงใด แต่ก็ต้องฟังว่า ผู้ใช้บริการดังกล่าวอาจเป็นผู้เจ็บป่วย พิการ สูงอายุ ที่ต้องติดต่อสื่อสารกรณีเร่งด่วน หรืออยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร ซึ่งคลื่น 850 MHz สามารถใช้ได้ในพื้นที่ชนบทห่างไกล หากดีแทคไม่สามารถให้บริการได้ ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง ที่ยากแก่การเยียวยาได้ในภายหลัง 
    นอกจากนี้ การที่ศาลจะมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติของ กสทช. จะมีผลให้ดีแทคสามารถให้บริการในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านการสิ้นสุดสัมปทานเป็นการชั่วคราวเท่านั้น มิได้มีผลเป็นการห้ามมิให้ กสทช. ประมูลคลื่นความถี่ใหม่ และดีแทคมีหน้าที่ชำระค่าใช้คลื่นความถี่ในช่วงเวลาดังกล่าว การทุเลาการบังคับตามมติ กสทช. จึงไม่เป็นอุปสรรคในการบริหารงานของรัฐหรือบริการสาธารณะ จึงเข้าหลักเกณฑ์ที่ศาลมีอำนาจสั่งทุเลาการบังคับได้ และเห็นว่าผู้ใช้บริการที่ยังไม่สามารถโอนย้ายได้มีประมาณ 90,000 ราย จึงควรกำหนดระยะเวลาทุเลาการบังคับตามมติของ กสทช. ไว้จนถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2561
    ศาลปกครองกลางจึงมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติของ กสทช.ดังกล่าวจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2561 เว้นแต่ศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
    นายประวิตร บุญเทียม ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด ในฐานะโฆษกศาลปกครองกลาง กล่าวถึงขั้นตอนหลังจากศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับมติ กสทช.ว่า เมื่อศาลปกครองกลางซึ่งเป็นศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งทุเลาฯ แล้ว ก็จะมีผลทันที โดยตามกฎหมาย กสทช. คู่กรณียังมีสิทธิที่จะยื่นอุทธรณ์คำสั่งการทุเลาบังคับมติฯ ต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่ง
          อย่างไรก็ตาม หากมีการอุทธรณ์แล้วแต่ระหว่างนั้นยังไม่มีคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดเปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่น คำสั่งทุเลาการบังคับมติฯ ดังกล่าวของศาลปกครองชั้นต้นก็ยังมีผลคงอยู่ต่อไปตามนั้น  ส่วนเนื้อหาคดีหลักที่ DTAC ฟ้องขอเพิกถอนมติ กสทช.นั้น ศาลปกครองชั้นต้นก็จะพิจารณาต่อไปตามขั้นตอน โดยขณะนี้ขั้นตอนน่าจะอยู่ระหว่างการให้ กสทช.ยื่นเอกสารคำให้การ 
    ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า ด้วยสำนักงาน กสทช.ได้รับคำสั่งศาลจากศาลปกครองกลาง เวลา 13.18 น. กสทช.และสำนักงาน กสทช. พร้อมน้อมรับและปฏิบัติตามคำสั่งศาล ประชาชนผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือดีแทคบนคลื่น 850 MHz สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง
    นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช. เปิดเผยว่า คำสั่งศาลปกครองครั้งนี้คำนึงถึงประโยชน์สาธารณะ อันรวมถึงประโยชน์ของผู้ใช้บริการที่ยังค้างอยู่ในระบบ ไม่ใช่การปกป้องประโยชน์ของเอกชน แต่เมื่อหลายฝ่ายกังวลว่าดีแทคจะเป็นผู้รับประโยชน์ที่ไม่ควรได้ เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว สิ่งที่สำนักงาน กสทช. ต้องดำเนินการอย่างจริงจังก็คือ การตรวจสอบการนำส่งรายได้จากการให้บริการในช่วงคุ้มครองฯ เพื่อนำส่งรัฐให้ครบถ้วนและรวดเร็ว ไม่ปล่อยให้เกิดสภาพคาราคาซังดังกรณีที่ผ่านๆ มา
     "ตามที่สื่อมวลชนก็เสนอข่าวว่ารัฐยังไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่งตื่นมาเรียกร้องจากเอกชนไม่นานมานี้เอง ส่วนเอกชนก็แก้ต่างว่าขาดทุน และ สตง.มีข้อสังเกตว่า การตรวจสอบการนำส่งรายได้ยังไม่อยู่บนหลักฐานทางบัญชีที่แท้จริงตามประกาศ แต่ใช้หลักการปันส่วนจากการคำนวณแทน ในขณะที่รัฐวิสาหกิจเจ้าของสัมปทานเดิมได้ผลตอบแทนในช่วงมาตรการคุ้มครองฯ ต่ำจนเหลือเชื่อ จนมีข่าวว่าผู้บริหารรัฐวิสาหกิจบางรายเปรียบเทียบว่า เงินที่ได้รับมานั้นน้อยกว่าค่ารถประจำตำแหน่งของ กสทช.เสียอีก จึงทำให้หลายฝ่ายเชื่อกันไปแล้วว่า โดยแท้จริงแล้ว เอกชนนั่นเองที่เป็นฝ่ายได้ประโยชน์จากมาตรการคุ้มครองฯ จนเกิดความกังวล และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยว่า เอกชนใช้ผู้บริโภคเป็นตัวประกันแล้วไม่ยอมจ่ายเงินให้รัฐแม้แต่บาทเดียว"
    เขากล่าวว่า บทเรียนจากการคุ้มครองที่ผ่านมา แม้เวลาคุ้มครองจะนานเกินสองปีด้วยอำนาจ ม.44 แต่สุดท้ายทุกระบบก็ยังมีผู้ใช้บริการที่ยังคงค้างและต้องดับซิมอยู่ดี จึงเป็นไปได้ยากว่าในครั้งนี้ผู้บริโภคจะย้ายค่ายออกหมดก่อนวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ดังนั้น ทางที่ทำได้และควรทำอย่างยิ่งอีกประการหนึ่งก็คือการเร่งประมูลคลื่นความถี่ย่าน 850 MHz นี้ โดยเมื่อมีผู้ชนะการประมูลและนำเงินมาชำระแล้ว กสทช. ก็สามารถกำหนดวันสิ้นสุดการคุ้มครองฯ ได้ตามประกาศ ซึ่งระยะเวลาน่าจะสอดรับกับคำสั่งของศาลปกครอง นี่เป็นเงื่อนไขที่เกิดขึ้นจริงๆ กับการสิ้นสุดการคุ้มครองที่ผ่านมาแล้วทุกกรณี
    "คำสั่งศาลปกครองในครั้งนี้ อยู่บนพื้นฐานการปกป้องผู้บริโภคและปกป้องการแข่งขันในอุตสาหกรรมมือถืออย่างแท้จริง ทุกฝ่ายไม่ควรไปคิดว่าใครเป็นฝ่ายแพ้ ใครเป็นฝ่ายชนะ และจะทำอย่างไรให้ฝ่ายตรงข้ามแพ้ให้ได้ แต่ทุกฝ่ายควรต้องมองและเคารพเจตนารมณ์ของกฎหมายและเจตนารมณ์ของศาลปกครอง ซึ่งมุ่งคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ"
    เขากล่าวว่า ทุกฝ่ายควรต้องลงมือทำหน้าที่ของตนเองอย่างจริงจัง และลงมือทำให้เร็วที่สุด เพราะศาลปกครองได้นำทุกฝ่ายออกจากสถานการณ์ที่ต่างล้วนก่อกำแพงล้อมตัวเองจนไม่มีทางออก บัดนี้ กุญแจทางออกได้ถูกเปิดแล้ว การประมูลคลื่นความถี่ที่เป็นธรรมคือทางออก หรือเรายังจะดื้อรั้นดิ้นรนวนกลับไปหาทางตันกันอีก.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"