มาร์คใจใหญ่เปิดกว้างชิงเก้าอี้!


เพิ่มเพื่อน    

  "ถาวร" ดัน "วรงค์" ชิงเก้าอี้หัวหน้า ปชป.คนใหม่ เจ้าตัวยังขออุบไต๋ แต่หารือ "ชวน" แล้ว บอกเป็นการส่งเสริม ปชต. "มาร์ค" ไม่หวั่น ระบุพรรคเปิดกว้างทุกคน ใครชนะก็ทำหน้าที่ไป  

    เมื่อวันที่ 14 ก.ย. นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมายืนยันกระแสข่าวการผลักดัน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคว่า พร้อมผลักดัน นพ.วรงค์ โดยได้มีโอกาสหารือถึงการตัดสินใจดังกล่าวกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ซึ่งเป็นไปด้วยดี  นายชวนมีความเป็นประชาธิปไตยมาก จึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่รายละเอียดและเหตุผล อยากให้ฟัง นพ.วรงค์เป็นผู้เปิดเผยเองหลังจาก คสช.คลายล็อกทางการเมือง 
    นายถาวรกล่าวว่า ส่วนจะมีเสียงสนับสนุน นพ.วรงค์มากน้อยแค่ไหนนั้น ยังประเมินไม่ได้ ทุกอย่างจะต้องรอหลังจากที่มีการเปิดตัวลงสมัครเลือกหัวหน้าพรรคก่อน เพราะตอนนี้ยังไม่สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองอะไรได้ ต้องรอลั่นกลองก่อนจึงจะประเมินได้
    ส่วน นพ.วรงค์กล่าวว่า ตอนนี้จะยังไม่พูดอะไร ขอรอให้มีการคลายล็อก และพรรคประชุมใหญ่รับรองข้อบังคับ และให้เห็นข้อบังคับที่ประกาศอย่างเป็นทางการก่อน อย่างไรก็ตาม ได้ปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ในพรรคหลายคนในเรื่องนี้ อาทิ นายชวน, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน, นายไพฑูรย์ แก้วทอง และนายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค โดยเฉพาะนายชวนไม่ได้ท้วงติงอะไร และกลับบอกว่า เป็นการส่งเสริมประชาธิปไตยในพรรค
    ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.วรงค์แล้ว โดย นพ.วรงค์แสดงความจำนงรับการหยั่งเสียงเป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งตนก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคุยกันอย่างดี ทุกคนในพรรคพูดตรงกันว่าอยากเห็นการแข่งขันที่เป็นแบบอย่างที่ดี เมื่อมาแข่งขันกันแล้ว ใครชนะก็ทำหน้าที่ต่อไป ใครไม่ชนะก็ทำหน้าที่ช่วยพรรค ส่วนที่มีข่าวว่ามีการเริ่มเดินเกมพูดคุยกับสมาชิกพรรคและสาขาพรรค เพื่อล็อบบี้ให้เลือกตัวเองนั้น ตนเห็นว่าคงเป็นการพูดคุยธรรมดาของคนทำงานการเมือง ตนไม่ได้กังวลอะไร
    ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ที่คู่แข่งออกมาเปิดเผยว่านายชวนไฟเขียวให้ลงชิงหัวหน้าพรรค นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นายชวนไฟเขียวทุกคน เพราะไม่มีใครไปขัดขวางใครเลย ผู้ใหญ่อีกหลายคนในพรรคก็บอกว่า ใครก็ตามที่ทำตามกติกาได้ก็สามารถเข้ามาได้เลย แม้กระทั่งนายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะมาลงแข่งขันด้วย ซึ่งตนได้พูดคุยกับนายชวนในเรื่องนี้ นายชวนบอกว่ายินดี เพราะฉะนั้นก็ไม่มีอะไรผิดปกติ เมื่อเปิดให้มีกระบวนการนี้แล้ว ถ้าไม่มีการแข่งขันแล้วจะมีประโยชน์อะไร
    นายอภิสิทธิ์ยังเปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับนายชวน เพื่อให้ช่วยแนะนำเรื่องของข้อบังคับพรรค เพราะจะต้องรีบเตรียมเพื่อจะให้กรรมการบริหาร และที่ประชุมใหญ่พรรคให้ความเห็นชอบได้เลยเมื่อมีการคลายล็อก ส่วนเรื่องการเลือกหัวหน้าพรรคด้วยการหยั่งเสียง เป็นระเบียบที่จะออกมาโดยเป็นหลักการกว้างๆ เท่านั้น พยายามดูให้รอบคอบที่สุด เพราะเป็นเรื่องใหม่ แต่ทุกคนสนับสนุนจะให้เดินในหลักการนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนาที่เราต้องการปฏิรูปจริงๆ อย่างไรก็ตาม นายชวนไม่ได้แนะนำอะไรเป็นพิเศษ แต่ย้ำว่าการคัดกรองในกระบวนการประชาธิปไตยเป็นจุดแข็งของพรรคและระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นนายชวนสนับสนุนการเปิดกว้าง 
    เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่ากติกาที่ออกมาใหม่นั้นจะทำให้พรรคเข้มแข็งมากกว่าที่จะออกมาทำลายพรรค นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนบอกว่าเราทำเรื่องนี้เพราะคิดว่าเป็นแนวทางสากล และแสดงออกถึงความเป็นผู้นำของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะฉะนั้นตนยังมั่นใจว่าคนของพรรคประชาธิปัตย์ยังต้องการกระบวนการนี้เพื่อให้ประสบความสำเร็จขององค์กร
    ต่อข้อถามว่า การหยั่งเสียงจะเปิดให้สมาชิกเก่าหยั่งเสียงด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จากการสอบถามหลายฝ่ายก็โน้มเอียงไปในทางที่ว่าต้องการเปิดให้กว้างที่สุด เพราะไม่ได้มีปัญหาในข้อกฎหมาย เนื่องจากเป็นกระบวนการภายในพรรค และไม่มีกรณีที่จะไปอ้างได้ว่าเป็นการครอบงำหรือยอมให้ครอบงำ ไม่อย่างนั้นพรรคก็ฟังเสียงประชาชนไม่ได้
    นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยใช้ชื่อเรื่องว่า สำนักเส้าหลิน เมืองไทย พร้อมระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็เหมือนสำนักเส้าหลินของหนังจีนกำลังภายใน ยอดฝีมือทั่วทุกสารทิศต่างปรารถนาที่จะได้เข้าฝึกสุดยอดวิชาในสำนักเส้าหลิน พรรคประชาธิปัตย์ก็เฉกเช่นเดียวกัน อยู่มาถึง 72 ปี นักการเมืองดังๆ ทั่วฟ้าเมืองไทยหลายคนต่างก็สำเร็จวิชาจากสำนักนี้
    นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า บางยุคสำนักนี้ก็รุ่งเรือง บางยุคก็ตกอับ เป็นไปตามวัฏจักรของธรรมชาติ แต่สำนักประชาธิปัตย์ก็ยังคงรักษาสำนักการเมืองไว้อยู่คู่เมืองไทยตลอดมา ผู้อาวุโสหลายคนแห่งสำนักประชาธิปัตย์สำเร็จวิชาขั้นสูงสุดก็ยังคงอยู่ในสำนักปกปักรักษาสำนักนี้ไว้ให้ศิษย์รุ่นต่อๆ ไปได้เข้ามาศึกษา ศิษย์บางคนลงจากสำนักประชาธิปัตย์ไปก็ไปตั้งสำนักของตัวเอง แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน ต้องล้มหายตายจากไป บางคนแอบไปฝึกวิชามารแล้วจะมาล้างสำนักของตัวเอง แต่ก็ไม่เคยมีผู้ใดประสบความสำเร็จล้มล้างสำนักประชาธิปัตย์ได้ สำนักนี้ก็ยังยืนยงตลอดมาบัดนี้
    "ถึงคราวผลัดเปลี่ยนหัวหน้าสำนักใหม่ ศิษย์ร่วมสำนักชักกระบี่ออกมาเพื่อประลองกำลังในการเป็นเจ้าสำนักคนใหม่ ผมผู้เป็นภารโรงแห่งสำนักนี้ก็ได้แต่เฝ้ามองว่าเสร็จการประลองแล้ว ทุกคนคงเก็บกระบี่เข้าฝัก จับมือกันสร้างสำนักนี้ไว้ให้ศิษย์รุ่นหลังต่อไป คงไม่มีใครลงจากเขาแยกไปตั้งสำนักใหม่" นายนิพิฏฐ์ กล่าว
    นายศุภชัย ศรีหล้า อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลายคนวิพากษ์ว่าเป็นความขัดแย้ง แต่ความจริงนั้นไม่ใช่ เพราะอีกด้านหนึ่งขณะที่เรื่องไพรมารีโหวตยังยึกๆ ยักๆ อยู่ว่าจะมีหรือไม่มี แต่พรรคประชาธิปัตย์วันนี้ก้าวเดินไปไกล ล้ำหน้ากว่าที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ นั่นคือการเลือกหัวหน้าพรรคโดยมวลสมาชิกทั้งของพรรคประเทศ ตอกย้ำว่าไม่มีใครคนใดครอบงำได้ เป็นต้นแบบการเมืองไทยชัดเจน ซึ่งพรรคอื่นยังไม่ได้เคยทำ
    ขณะที่นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ซึ่งประกาศจะลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการแทรกแซงครอบงำพรรคประชาธิปัตย์จากภายนอกว่า ถ้าเกิดเรื่องนี้จริง พร้อมจะจับมือกับนายอภิสิทธิ์และสมาชิกพรรคในการปกป้องพรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้ใครมาแทรกแซงครอบงำ ถ้าหากใครทั้งภายในและภายนอกพรรคคิดจะมายึดพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องแย่งชิงหัวหน้าพรรคไม่สำคัญเท่ากับการปกป้องรักษาพรรค
    นายอลงกรณ์กล่าวว่า สำหรับการชี้แจงของนายอภิสิทธิ์ กรณีการปฏิรูปพรรคและกฎเหล็ก 5 ข้ออาจเข้าใจผิดในบางประเด็นที่เป็นสาระสำคัญ ข้อเสนอของตนคือ การพูดถึงอนาคต ตนไม่ได้ตำหนิติเตียนใคร อดีตแก้ไขไม่ได้ เป็นได้เพียงบทเรียน แต่เราสร้างอนาคตได้ ย้ำว่าเราทุกคนรวมทั้งตนเคยทำผิดทำพลาดมาด้วยกันทั้งนั้น แต่ต่อไปข้างหน้า ถ้าตนเป็นหัวหน้าพรรค จะปฏิรูปพรรคเป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชน
    "ในอดีตนายอภิสิทธิ์ได้ดำเนินการปฏิรูปพรรคและปฏิบัติตามกฎเหล็ก 5 ข้อมาตลอด แต่ทำได้มากน้อยแค่ไหนเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้ว ผมเชื่อว่าถ้าเรากล้ายืนหยัดกฎเหล็ก 5 ข้อพรรคประชาธิปัตย์ จะกลับมาสู่ศรัทธาของประชาชน และเป็นตัวอย่างที่ดีของระบบพรรคการเมือง" นายอลงกรณ์กล่าว.
    


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"