เสียดายที่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาผมไม่อยู่เปียงยาง (เพราะพี่คิมเขาไม่ได้เชิญ) แต่เพราะเคยไปยืนอยู่กลางจตุรัสคิมอิลซุงมาก่อน จึงพอจะวาดภาพออกว่างานสวนสนามเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี ของการก่อตั้งประเทศโดยคุณปู่คิมอิลซุงนั้นอลังการเพียงใด
คนที่ไปร่วมงานทั้งนักการทูต, นักการข่าว และนักสังเกตการณ์ทั้งหลายไม่ได้จับตาดูว่าท่านประธานคิม จองอึน เอาอะไรมาแสดง
เขาเฝ้าจดจ้องว่าท่านคิมไม่เอาอะไรมาแสดงในขบวนพาเหรดต่างหาก
ที่ชัดเจนว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือไม่เอามาแสดงวันนี้คือขีปนาวุธข้ามทวีปที่เรียกว่า ICBM (Intercontinental Ballistic Missiles) ที่คิมน้อยเคยประกาศว่ามีรัศมีการยิงถึงอเมริกาแล้ว
และไม่มีร่องรอยของการแสดงศักยภาพทางอาวุธนิวเคลียร์แต่ประการใด
นั่นย่อมเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า คิม จองอึน ถอยฉากออกมาจากการเผชิญหน้าทางนิวเคลียร์กับสหรัฐ และต้องการจะได้ประโยชน์เต็มที่จากการทำเป็น "เด็กดี"
แต่ "เด็กดี" ก็เป็น "เด็กดื้อ" ได้ในบางโอกาส เพราะ "เด็กดื้อ" เมื่อรับปากว่าจะเป็น "เด็กดี" ก็ต้องการจะได้รางวัลตอบแทนอะไรบ้าง
เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ เอาอกเอาใจคิมมากมาย แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะประกาศเลิกการคว่ำบาตร เพราะต้องการจะให้ "เด็กดื้อ" ทำตัวเป็น "เด็กดี" ที่แสนเรียบร้อยอย่างสมบูรณ์เสียก่อน โดยไม่ยอมยื่นขนมหวานมาเป็นของแลกเปลี่ยนก่อน เด็กดื้อก็ยังต้องดื้อต่อไปก่อน
"ท่าที" นั้นเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ "การกระทำ" เป็นอีกอย่าง
เมื่อทรัมป์ยังไม่ยอมผ่อนปรนมาตรการการลงโทษเกาหลีเหนือ เปียงยางก็ยังเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์อย่างไม่ลดละ ตามรายงานข่าวกรองหลายสำนัก คิม จองอึน ยังสั่งให้การพัฒนานิวเคลียร์เดินหน้าต่อจนกว่าจะเป็นสัญญาณชัดเจนจากวอชิงตัน
แต่คิม จองอึน เล่นเกมการทูตได้เนียนยิ่ง เพิ่งส่งจดหมายถึงทรัมป์ บอกว่ายังมีความเชื่อมั่นในผู้นำสหรัฐ คนนี้อย่างไม่เสื่อมคลาย และหวังว่าจะสามารถร่วมมือกันสร้างสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลีอย่างถาวร ไม่วันนี้ก็วันใดวันหนึ่งข้างหน้า
ทรัมป์ยินดีปรีดานัก เพราะจดหมายฉบับนี้มาถึงโต๊ะที่ทำเนียบขาวขณะที่เกิดวิกฤติศรัทธาต่อเขาหลายเรื่อง รวมถึงหนังสือแฉความวุ่นวายว่าด้วยคนรอบข้างในหนังสือชื่อ Fear ที่เขียนโดยนักข่าวอาวุโส Bob Woodward และ "บทความนิรนาม" ใน New York Times ที่เขียนโดย "เจ้าหน้าที่ระดับสูงในทำเนียบขาว" ที่เปิดโปงความไม่ชอบมาพากลในพฤติกรรมของทรัมป์อย่างเสียๆ หายๆ ยิ่ง
แม้ศัตรูร้ายกาจในอดีตอย่างคิมก็กลายเป็นเพื่อนผู้น่ารัก เมื่อยื่นมือมาให้กำลังใจในยามที่คนรอบข้างทิ่มแทงทรัมป์อย่างน่าปวดร้าวขนาดนั้น
แม้ทรัมป์ไม่อาจส่งตัวแทนไปร่วมงานวันชาติปีที่ 70 ที่เปียงยางได้ แต่คิมก็มีความรื่นเริงในอารมณ์ไม่น้อย เพราะจีนและรัสเซียก็ส่งผู้นำเบอร์ 3 มาร่วมพิธีอย่างเอกเกริกที่จตุรัสคิมอิลซุงในโอกาสสำคัญเช่นนี้
สีจิ้นผิงส่งทูตพิเศษระดับสูง Li Zhanshu (ในภาพ) มายืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับคิมน้อยเพื่อยืนยันมิตรภาพอันยาวนาน ขณะที่ซีเรีย, อิหร่าน, คิวบาและเวเนซุเอลาก็ส่งคณะผู้แทนมาร่วมงานอย่างคึกคัก
สื่อต่างประเทศหลายสำนักก็ได้รับเชิญให้ไปทำข่าว (ให้รายงานเฉพาะงานพาเหรด แต่ห้ามเดินเกะกะไปสอบถามเรื่องราวอื่นเช่นเดิม) และต่างก็พยายามจะเจาะไชว่ามีความเปลี่ยนแปลงในนโยบายของเกาหลีเหนือต่อโลกในทางใดบ้าง
ชัดเจนว่าแม้การประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์กับคิมที่สิงคโปร์เมื่อเดือนมิถุนายน จะยังไม่นำมาซึ่งการยกเลิกอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ แต่บรรยากาศบนคาบสมุทรเกาหลีก็ผ่อนคลายลงไปไม่น้อย
น่าสนใจว่าคิมน้อยไม่ได้มากล่าวคำปราศรัยในงานสวนสนามปีนี้ แต่มอบหมายให้มือขวาคือ คิม ยองนัม มาเปิดงานพร้อมเรียกร้องให้กองทัพเกาหลีเหนือ "เตรียมพร้อมสำหรับสงคราม...ทั้งการสู้รบและสงครามเพื่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ"
การเน้น "สงครามเศรษฐกิจ" เป็นการตอกย้ำถึงแนวทางใหม่ของคิม จองอึน ที่ได้ปรับแนวทางจากการเผชิญหน้าทางทหารและอาวุธกับอเมริกามาเป็นการโปรยเสน่ห์ด้วยการทูตอย่างน่าสนใจยิ่ง
ปีนี้คิมน้อยต้อนรับตัวแทนจากอเมริกา, จีน, รัสเซียและเกาหลีใต้ ด้วยวิเทโศบายทางการทูตอย่างโจ่งแจ้ง
และก่อนสิ้นเดือนนี้ คิมน้อยเชิญประธานาธิบดีมูน แจอิน ของเกาหลีใต้ มาประชุมระดับสูงสุดระหว่ง 2 เกาหลีที่เปียงยาง...เป็นการบอกกล่าวกับชาวโลกว่า บัดนี้เกาหลีเหนือกำลังยื่นมือมาให้อดีตศัตรูร้ายกาจอย่างเกาหลีใต้เพื่อสร้างสันติภาพอย่างต่อเนื่อง...
ไม่ว่าอเมริกาภายใต้ทรัมป์จะหักเหจากแนวทางเดิมหรือไม่เพียงใด...และไม่ว่าจะมีการเปิดโปงความวุ่นวายในทำเนียบขาวอีกกี่เรื่องกี่ราวก็ตาม!.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |