(มยุรา เศวตศิลา)

     ไม่มีอะไรดีไปกว่าการเตรียมพร้อมตัวเองเพื่อรับวัยเกษียณ ที่แต่ละคนล้วนหนีความแก่ไม่พ้น เพราะนั่นไม่เพียงทำให้คุณเป็นผู้สูงวัยที่แข็งแรงทั้งสุขภาพกายและจิตใจเบิกบานไปพร้อมๆ กัน โดยเฉพาะเคล็ดลับจากดารารักสุขภาพในฉายาสาวสองพันปีอย่าง พี่ตั๊ก-มยุรา เศวตศิลา ที่ปัจจุบันเข้าสู่วัยหลัก 6 อย่างเต็มตัว แต่ด้วยความอ่อนเยาว์กว่าวัยทั้งรูปร่างภายนอก ตลอดจนแนวคิดด้านบวก รวมถึงไลฟ์สไตล์การดูแลตัวเอง อย่างการออกกำลังทั้งเข้าฟิตเนสและเล่นกอล์ฟสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จึงถือเป็นเคล็ดลับที่หลายคนอยากดูดี และแบบสมาร์ททั้งร่างจิตใจเหมือนดาราและพิธีกรมากความสามารถ

     พี่ตั๊ก-มยุรา เล่าว่า ส่วนตัวไม่ได้จำตัวเลขอายุของตัวเอง และที่ผ่านมาก็มักจะเตรียมพร้อมรับวัยเกษียณอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องของการ “ออมเงิน” ที่เริ่มจากเข้าวงการและเล่นภาพยนตร์ โดยตนจะเก็บเงินจากการเป็นนักแสดง คิดอย่างง่ายๆ ว่า ถ้าได้ค่าจ้างมา 10 บาท เจ้าตัวจะใช้ 2 บาท และ 8 บาทก็เก็บเอาไว้ กระทั่งช่วงวัย 23 ปีประสบอุบัติเหตุรถยนต์ชน ทำให้กระดูกเชิงกรานหัก กระเพาะปัสสาวะแตก และต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนานถึง 3 เดือน ที่สำคัญในช่วงนั้นก็เดินไม่ได้ ตรงนี้ก็ทำให้ตัวเองใช้เงินเก็บที่มี ซึ่งถือเป็นโชคดีมากเนื่องจากสมัยก่อนไม่ได้ทำประกันชีวิต

(กำลังใจในยามที่ท้อแท้เมื่อเจออุปสรรค คือการตั้งเป้าหมายในชีวิต จะทำให้มีพลังในการแก้ไขและจัดการกับปัญหา มุมมองส่งต่อกำลังใจจากคนรุ่นใหญ่สู่คนวัยหนุ่มสาวที่กำลังหดหู่กับปัญหาชีวิต)

     “ช่วงที่ต้องนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ก็มีบ้างที่รู้สึกท้อแท้ว่าจะกลับไปเดินไม่ได้แน่ๆ เพราะช่วงล่างหัก และหมอก็บอกว่าขาอาจจะสั้นลงไป 1 นิ้ว ประกอบกับตอนนี้ก็เริ่มมีชื่อเสียง แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นกำลังใจของพี่ในตอนนั้น และทำให้พี่รู้สึกฮึดขึ้นมาอีกครั้ง คือเมื่อเกิดมาแล้วก็ต้องสู้ เพราะเรามีภาระคือต้องดูแลพ่อแม่ ดังนั้นเราต้องหันมาดูแลสุขภาพตัวเองเพื่อให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง และชีวิตของเราก็ต้องสู้ต่อไป ประการสำคัญตอนที่เกิดอุบัติเหตุเรายังเด็กเลยทำให้ไม่คิดมาก กลับกัน หากประสบอุบัติเหตุตอนวัยผู้ใหญ่ก็คงต้องบอกว่าเสียใจนะ

     แต่ข้อดีของพี่จะเป็นคนที่ตัดอะไรเร็ว และเคล็ดลับในการเอาชนะปัญหาและอุปสรรคในชีวิตของพี่ ก็จะถามตัวเองเสมอว่าเรามีเป้าหมายในชีวิตอย่างไร? และต้องถามตัวเองให้ได้ว่าเราอยู่เพื่ออะไร? เราไม่ได้อยู่เพื่อตัวเอง แต่เราอยู่เพื่อพ่อแม่เราต่างหาก ดังนั้นเป้าหมายในชีวิตเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้เอาชนะปัญหาความท้อแท้ลงไปได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ ว่า บางทีเราอยากผอมเพื่อที่จะใส่เสื้อตัวนี้ให้ได้ เราถึงลดน้ำหนัก และการที่เราหันมาออกกำลังกายนั้น ก็เพื่ออยากให้ตัวเองดูดี ดูสวย นั่นก็เป็นเป้าหมายชีวิตอย่างหนึ่ง พี่จึงอยากบอกทุกคน เมื่อเราท้อแท้ก็ต้องตั้งเป้าหมายในชีวิต เมื่อนั้นกำลังใจของเรามันจะมาเองค่ะ”

     ในส่วนของการดูแลร่างกายก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นเดียวกัน เพราะต้องประกอบอาชีพเป็นนักแสดงและพิธีกร นั่นจึงทำให้ พี่ตั๊ก เลือกที่จะกตัญญูต่อร่างกาย โดยเริ่มหันมาออกกำลังกายตั้งแต่อายุ 20 ปี กระทั่งทุกวันนี้ โดยเริ่มจากการเต้นแอโรบิกวันละ 45 นาที ใน 1 อาทิตย์ก็เต้น 4-5 วัน หากว่างเว้นจากการแสดงภาพยนตร์ แต่เนื่องปัจจุบันอายุเข้าหลัก 6 แล้ว ก็เลยไม่ได้เต้นแอโรบิกเหมือนเก่า แต่เปลี่ยนมาเข้ายิมอาทิตย์ละ 4-5 วัน โดยการเล่นเวตเทรนนิ่ง เพื่อทำให้แขนและขาดูเฟิร์ม กระชับ สลับกับการเล่นกีฬากอล์ฟ 1 วันต่อสัปดาห์

(พี่ตั๊ก-มยุรา เลือกเล่นกีฬากอล์ฟที่ช่วยฝึกจิตใจและสร้างสมาธิให้กับผู้เล่น เทคนิคเสริมกำลังกายและจิตใจแข็งแรงเบิกบานของวัยหลัก 6)

     “ถามว่ากีฬากอล์ฟให้อะไรกับพี่บ้าง ซึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องหุ่นดี แต่ก็คงต้องบอกว่าเป็นกีฬาที่ช่วย “ฝึกจิตใจ” คือให้รู้จักคำว่าแพ้และชนะ รู้จักการไม่โกง เพราะบางครั้งผู้ที่เล่นกอล์ฟจะมีคนโกงโดยการเอาเท้าเขี่ยลูกกอล์ฟ ซึ่งจริงๆ แล้วทำไม่ได้ ที่สำคัญกีฬานี้เมื่อเราเล่นแล้วก็ต้องอยู่ในกติกา ให้รู้แพ้-ชนะ และใจเย็น ที่สำคัญทำให้เรารู้นิสัยของผู้เล่นเลยว่าเป็นคนอย่างไร มันเห็นเลยนะ อย่างสามีพี่เป็นคนใจเย็น แต่เวลาเล่นกอล์ฟแล้วใจร้อน เพราะเป็นกีฬาที่ต้องแข่งกับตัวเอง พี่เคยชกตัวเองมากแล้ว วันนั้นตั้งใจมาก แต่เล่นไม่ดี ก็มาโกรธตัวเองและก็ชกตัวเองเลย

     แต่ตอนนี้ไม่เป็นแบบนั้นแล้ว เล่นแบบชิลๆ จะทำให้เล่นได้ดีกว่า ยกตัวอย่าง โปรแหวน นักกอล์ฟอาชีพ ซึ่งพี่เคยได้ยินว่าระหว่างที่ตี เขาร้องเพลงไปด้วย เพราะฉะนั้นจะทำให้ใจของเขาสบาย มันชิลๆ เขาก็จะเล่นได้ดี ส่วนตัวพี่ก็เล่นกอล์ฟมากว่า 10 ปี พี่เป็นคนจริงจัง เวลาเล่นอะไรก็ฝึกซ้อมเต็มที่ พอเล่นไปสักพักก็หยุด แต่คำว่าหยุดของพี่ไม่ได้แปลว่าจะเลิกเล่นนะ เพียงแต่ว่าถ้าช่วงไหนผิวดำก็จะเลิกเล่นก่อนและกลับมาเล่นใหม่ แต่ก่อนเล่นอาทิตย์ละ 4 วัน แต่ตอนนี้ก็เหลืออาทิตย์ละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะแล้วจะซ้อมใช้เวลาน้อย 3 ชั่วโมงครึ่ง แต่ถ้าเล่นในสนามจริงทั่วไปก็จะใช้เวลาเล่น 4 ชั่วโมงครึ่งค่ะ จริงๆ แล้วทุกกีฬามีข้อดีหมดค่ะ เพราะไม่เพียงทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังทำให้จิตใจแจ่มใส เบิกบาน และเคล็ดลับสุขภาพดีของพี่อีกอย่างหนึ่ง คือการกตัญญูร่างกายด้วยการไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ค่ะ”

     การเตรียมพร้อมสู่วัยหลัก 6 ถ้าจะให้ดีต้องเริ่มที่การเก็บออม การตั้งเป้าหมายชีวิต หากกำลังท้อแท้ หมดหวัง ตลอดจนการดูแลร่างกายและจิตใจด้วยการเลือกเล่นกีฬาที่ชอบ ที่กล่าวมาถือเป็นการเตรียมพร้อมกับวัยเกษียณแบบองค์รวม...เห็นด้วยไหมค่ะ...