โวยรพ.ทำลูก8เดือนดับอนาถแค่รักษาไข้หวัด จ่อร้องมูลนิธิปวีณา


เพิ่มเพื่อน    

ชาวบ้านโวยโรงพยาบาลทำลูกวัย 8 เดือนตายอนาถแค่รักษาโรคหวัด สงสัยข้อผิดสังเกตหลายอย่าง แม้แพทย์ยันหัวใจหยุดเฉียบพลัน เตรียมหาทางยื่นขอความเป็นธรรมรวมทั้งมูลนิธิปวีณามาช่วยด้วย

13 ก.ย.61 - จากกรณีที่ชาวบ้านอำเภอฮอด จ.เชียงใหม่ พาบุตรสาววัย 8 เดือนที่ป่วยเป็นไข้หวัดเข้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่กลับเสียชีวิตคาโรงพยาบาล แพทย์ระบุสาเหตุการตายจากหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ขณะที่ญาติยังติดใจเสียชีวิตของหลานสาวอาจมาจากความผิดพลาดในการรักษาของแพทย์ เนื่องจากพบข้อสงสัยว่า มีการเจาะเส้นเลือดของเด็กหลายจุดทั้ง ขา คอ ไม่แจ้งก่อน นอกจากนี้เด็กอาการหนักแต่ไม่ยอมส่งตัวไปโรงพยาบาลอื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ย.พ่อแม่และญาติของเด็กหญิงพิชญาภา ทวีไชยชยกรรณ์ หรือน้องพลอยวัย 8 เดือน ได้จัดงานศพให้กับลูกสาวที่บ้านดงดำ ตำบลฮอด อำเภอฮอด ท่ามกลางความเศร้าสลดของชาวบ้านที่มาร่วมงาน หลังจากช่วงเย็นของวันจันทร์ที่ 10 กันยายน น้องพลอย ไม่สบายมีน้ำมูกไหลจึงนำตัวไปที่โรงพยาบาลในตัวอำเภอ หมอได้จัดยาฆ่าเชื้อ เป็นแคปซูล ให้ 1 กล่องและยาขยายหลอดลม 1 ขวดแล้วให้กลับบ้าน เมื่อกลับมาถึงบ้านแม่ได้นำยาฆ่าเชื้อ 1 เม็ดผสมกับน้ำ 6 ซีซี ตามแพทย์สั่งเททิ้ง 1 ซีซี ให้น้องพลอยดื่ม 5 ซีซี จนถึงเวลาตี 4 น้องพลอยกลับมีอาการหายใจผิดปกติ ซึมหลับไม่รู้ตัวจึงรีบนำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง โดยมีแพทย์หญิงคนเดิมเข้ามารักษาอาการนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน มีการเจาะเลือดที่ลำคอ ใช้สายยางสอดเข้าไปจมูกและปั้มหัวใจอยู่ตลอดเวลา

จนกระทั่งน้องพลอยเสียชีวิตลงอย่างกะทันหันช่วงเวลา 8 โมงเช้าวันต่อมาโดยไม่ทราบสาเหตุ ต่อมาญาติจึงนำศพน้องพลอยออกจากโรงพยาบาล เพื่อนำมาประกอบพิธีตามพิธีกรรมของชาวกะเหรี่ยง ซึ่งมีข้อห้ามว่าเด็กเมื่ออายุต่ำกว่า 1 ปีเสียชีวิตห้ามนำเข้าหมู่บ้าน ให้นำไปฝังที่ป่าช้าก่อน

ด้านนางวนัสนันท์ คำฟู อายุ 32 ปี เปิดเผยว่า ตนเองมีศักดิ์เป็นป้าของน้องพลอยและอาศัยอยู่บ้านใกล้กัน ซึ่งน้องพลอยเป็นลูกสาวของนางชญาดา อายุ 27 ปีเป็นน้องสาวเคยทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ส่วนพ่อของเด็กชื่อนายเดชา ทวีไชยชยกรรณ์ อายุ 48 ปี มีอาชีพขับรถทัวร์ ขณะที่น้องพลอย รักษาตัวที่โรงพยาบาลมีอาการทรุดลงเรื่อยๆแต่ไม่มีใครมาอธิบายให้ญาติฟังถึงอาการของน้องซึ่งตลอดระยะเวลา 4 ชั่วโมงที่น้องพลอยอยู่ในโรงพยาบาลมีการเตรียมรถฉุกเฉิน ซึ่งทางพยาบาลแจ้งว่าได้ประสานโรงพยาบาลหลายแห่งเพื่อนำน้องพลอยไปรักษาต่อ แต่ไม่มีโรงพยาบาลไหนรับจนน้องเสียชีวิตในที่สุด จึงอยากจะทราบว่าช่วงหัวค่ำที่ตนและแม่น้องพลอยพามาที่โรงพยาบาล ทำไมหมอจึงปล่อยตัวเด็กกลับบ้านก่อนและบอกว่าระบบหายใจของน้องเป็นปกติ ทำไมไม่ให้น้องนอนรอดูอาการที่โรงพยาบาลก่อน

ขณะที่นางชญาดา แม่น้องพลอย กล่าวว่า ก่อนฝังน้องพลอยได้เปลี่ยนเสื้อผ้าใส่ชุดกะเหรี่ยงให้ใหม่ เมื่อถอดเสื้อผ้าออกพบรอยเข็มฉีดยาเขียวซ้ำที่บริเวณลำคอ ทั้งแขนขา หน้าอกมีรอยเขียวซ้ำจากการปั้มหัวใจ และมีเลือดไหลออกทางจมูกตลอดเวลา ทางญาติๆจึงเกิดความสงสัยว่าการที่ น้องพลอย เสียชีวิตอาจเนื่องมาจากความผิดพลาดในการรักษาของทางแพทย์ อย่างไรก็ตามจากการสังเกตยาที่แพทย์ให้น้องพลอยเป็นยารักษาโรคไข้หวัดใหญ่ ในฉลากยาระบุใช้กับเด็กอายุตั้งแต่ 1-12 ขวบแต่น้องพลอยอายุเพียง 8 เดือน

นอกจากนี้ทางใบมรณะบัตร ระบุสาเหตุการตายจากหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ซึ่งข้อมูลขัดแย้งกัน ทางญาติจึงได้เรียกร้องความเป็นธรรมไปยังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอฮอด และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนศพของน้องพลอยที่ฝังอยู่ในป่าช้าและได้มีพิธีเผาดิบตามประเพณีของชาวกะเหรี่ยงในช่วงบ่ายวานนี้ ซึ่งกำลังปรึกษาว่าหากยังไม่ชัดเจนจะเข้าร้องผู้ว่าฯเชียงใหม่ แะจะได้แจ้งความร้องทุกที่ สภ.ฮอดไว้ด้วย ขณะเดียวกันก็จะร้องไปทางมูลนิธิปวีณาให้ช่วยอีกทาง

ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า รับทราบเรื่องแล้วกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย เบื้องต้นน่าจะเป็นเรื่องการสื่อสารความเข้าใจ โดยไม่นิ่งนอนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"