การทำความดีในยุคนี้มีหลายมิติให้เลือกปฏิบัติตามความถนัดในศักยภาพ ตามเพศ และช่วงวัยที่เหมาะสม เพื่อมอบความสุขให้แก่คนรอบข้างและส่วนรวม
ดังนั้นหากใครที่คิดจะทำสิ่งเหล่านี้ แต่ยังไม่ทราบจะเริ่มต้นอย่างไร สามารถค้นหาแรงบันดาลใจได้ที่งาน "Good Society Expo 2018 : ทำดีหวังผล เริ่มต้นที่เรา" ระหว่างวันที่ 13-16 กันยายน 2561 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จะรู้ว่าต้องจะเริ่มต้นอย่างไร
ดร.ณัฐพันธุ์ ศุภกา ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาภาคีสัมพันธ์และวิเทศสัมพันธ์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แถลงข่าวการจัดงานว่า ปัจจุบันโรคภัยไข้เจ็บของประชากรเปลี่ยนแปลงไป ไม่ได้มีต้นเหตุสำคัญมาจากเชื้อโรค แต่เป็นการคุกคามจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) โดยเกี่ยวพันกับพฤติกรรมการใช้ชีวิต สิ่งแวดล้อม และปัจจัยทางสังคมต่างๆ ดังนั้น สสส.จึงเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมประสาน จุดประกาย กระตุ้น สานและเสริมพลังบุคคลและองค์กรทุกภาคส่วนให้มีขีดความสามารถ และสร้างสรรค์ระบบสังคมที่เอื้อต่อสุขภาวะ ในงาน Good Society Expo 2018
สำหรับโซนสุขภาพของ สสส.ในปีนี้ สสส.ร่วมกับภาคีเครือข่ายกว่า 15 เครือข่าย จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Big Family Day หรือสุขภาพที่ดีสร้างได้ในทุกช่วงวัย หลังจากพบว่าภาพรวมของครอบครัวไทยในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา มีลักษณะเป็นครอบครัวที่มีคนหลายช่วงอายุอยู่ร่วมกัน ทั้งวัยเด็กเล็ก วัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน และผู้สูงอายุ ซึ่งแต่ละวัยต่างมีรูปแบบการคิดและการดำเนินชีวิตที่ต่างกัน โดยการสำรวจจากสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า คนไทยใช้เวลาในครอบครัวดีขึ้น จาก 2 ชม./วัน (ปี 2552) เป็นเฉลี่ย 3 ชม./วัน (ปี 2558)
ดังนั้นจะทำอย่างไรให้ช่วงเวลาดังกล่าวมีคุณภาพ ในโซนนี้จึงทำหน้าที่พาผู้เข้าร่วมไปทำความรู้จักกับตัวเองและคนในครอบครัวอย่างลึกซึ้ง เพื่อลดช่องว่างระหว่างวัย สามารถลงมือทำและปรับพฤติกรรมได้ด้วยตัวเอง เพื่อการมีสุขภาวะที่ดีในทุกๆ มิติ อาทิ สิ่งเล็กๆ ที่สร้างลูก ไอเดียกิจกรรมเพื่อลูกกับโรงเรียนฉลาดเล่น ร่วมหาคำตอบเรื่องเพศ พักตับเข้าพรรษา ฯลฯ
"Good Society Expo 2018 : ทำดีหวังผล เริ่มต้นที่เรา" ประกอบไปด้วย 9 โซน ได้แก่ ข้อ 1 พื้นที่ส่วนกลาง นำเสนอความเป็นมาของแนวคิด "ทำดีหวังผล เริ่มต้นที่เรา" ข้อ 2 Social Inclusion สร้างความเท่าเทียมในการอยู่ร่วมกัน โดยการทดลองให้สวมบทบาทเป็นผู้พิการ ข้อ 3 ต่อต้านคอร์รัปชัน ข้อ 4 การศึกษาและพัฒนาเยาวชน
ข้อ 5 สิ่งแวดล้อม ปัญหาขยะพลาสติก ข้อ 6 สุขภาพ นำเสนอความเสี่ยงด้านสุขภาพทั้งทางกายและจิตใจของประชากรทั้ง 5 ช่วงวัยในรูปแบบครอบครัว ข้อ 7 อาสาสมัคร ข้อ 8 แบ่งปัน นำเสนอแนวคิดหนึ่งการปันสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคม และข้อ 9 Socialgiver กิจกรรมเวิร์dช็อปตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต และเป็นประโยชน์ต่อสังคม
สำหรับงานดังกล่าวจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 โดย สสส.ร่วมกับมูลนิธิเพื่อคนไทย และภาคีเครือข่าย ระหว่างวันที่ 13-16 กันยายน 2561 บริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
คาดว่าจะมีภาครัฐ ภาคธุรกิจ และประชาชนที่ปฏิบัติงานพัฒนาสังคม เข้าร่วมงานประมาณ 15,000-20,000 คน โดยตั้งเป้าไว้ว่าผลสัมฤทธิ์จากงานจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการเข้ามาช่วยเหลือสังคมในรูปของการเป็นอาสาสมัคร (ทุนมนุษย์) การบริจาคเงินและสิ่งของ ตลอดจนช่วยยกระดับงานพัฒนาสังคมที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมเพื่อส่วนรวมต่อไปได้
การเริ่มจากจุดเริ่มเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ที่ตัวเราสามารถทำได้ง่ายดายที่สุด และมั่นใจว่าพลังความดีจะถูกส่งไปที่ผู้คนรอบข้างและสังคมให้เกิดความเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นอย่างแน่นอน.
วิทยาศาสตร์คู่สุขภาวะ พัฒนาแหล่งเรียนรู้เยาวชน
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) และ ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเด็กและเยาวชน สร้างแรงบันดาลใจสู่ชีวิตสุขภาวะ
ผศ.ดร.รวินกล่าวว่า อพวช.มีหน้าที่สร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์สู่สังคม การได้ร่วมมือกับ สสส.ในครั้งนี้จึงถือเป็นการขยายโอกาสและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากการเข้าถึงข้อมูล และได้รับความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสุขภาวะให้มากขึ้น และสามารถนำข้อมูลที่ได้รับไปใช้ในการปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสมและเป็นกำลังของประเทศต่อไป
โดยในปีนี้ สสส.ได้นำนิทรรศการชุด “ตะลุย อ้วนลงพุง” มาร่วมจัดแสดงกับคาราวานวิทยาศาสตร์ในจังหวัดต่างๆ ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกิจกรรม เพื่อให้ความรู้และสร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสุขภาวะอีกมากมายที่ทาง อพวช.จะร่วมกันจัดขึ้นกับ สสส. โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ประชาชนเข้าใจและสามารถปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสม นำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากการนำนิทรรศการร่วมจัดแสดงไปกับคาราวานวิทยาศาสตร์แล้ว ทาง อพวช.และสสส. ยังมีนิทรรศการ “นักสืบจราจร” ที่จัดขึ้นในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ปี 2561 นี้ เพื่อรณรงค์ให้เยาวชนและประชาชนเห็นความสำคัญของการสัญจรทางท้องถนนอย่างปลอดภัย
ดร.สุปรีดากล่าวว่า สสส.และ อพวช.มีเป้าหมายเดียวกันในการสนับสนุนและส่งเสริมให้คนไทยเป็นคนคุณภาพ นำพาสังคมไทยไปสู่สังคมที่น่าอยู่ ผ่านโครงการและกิจกรรมที่น่าสนใจกระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงผ่านภาคีเครือข่ายต่างๆ และ “ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ” ซึ่งถือได้ว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ต้นแบบที่ช่วยพัฒนาทักษะชีวิตและสุขภาวะ จึงเป็นโอกาสดีที่ทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันสนับสนุนกระบวนการทำงานระหว่างกัน โดยมีแนวทางความร่วมมือ คือ 1.ร่วมกันพัฒนาและการจัดการแหล่งเรียนรู้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ด้านการเรียนรู้แก่เยาวชนและประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ 2.สนับสนุนข้อมูลและการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพ ทักษะของบุคลากรด้านการจัดการแหล่งเรียนรู้ การสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ และการสร้างเสริมสุขภาวะ 3.สนับสนุน ส่งเสริมการจัดกิจกรรม นิทรรศการ และพัฒนาสื่อการเรียนรู้ เพื่อสร้างความเข้าใจและความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ และการสร้างเสริมสุขภาวะแก่เยาวชนและประชาชน
ดร.สุปรีดากล่าวต่อว่า สำหรับในปี 2561 สสส.ร่วมกับ อพวช.พัฒนาความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น อาทิ การสนับสนุนองค์ความรู้และจัดนิทรรศการ/กิจกรรมส่งเสริมสุขภาวะร่วมกันในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ และคาราวานวิทยาศาสตร์, การพัฒนาคุณภาพทักษะของบุคลากร, การแลกเปลี่ยน ขยายผลการเรียนรู้ผ่านสื่อต่างๆ และร่วมพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการสร้างเสริมสุขภาวะ โดยนำมาต่อยอด ขยายผล และเผยแพร่ให้กับเด็กและเยาวชน ช่วยเกิดการรับรู้และเกิดแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตสุขภาวะต่อไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |