25 ม.ค. 61 -  พล.ต.ต.ธวัชชัย มวญนรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ยังคงเดินหน้าปฏิบัติการไล่ล่าผู้ต้องหาในคดีฆ่าหั่นศพเผานั่งยางที่ บริเวณข้างอ่างเก็บน้ำบ้านบึงทับจั่น ตำบลแหลมรัง อำเภอบึงนาราง จังหวัดพิจิตร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยตำรวจได้ใช้เวลาสืบหาเบาะแสผู้ตายจนกระทั่งทราบแน่ชัดว่าผู้ตายคือ นายจูเซปเป้ เดอ สเตฟานี เป็นชาวอิตาลี ที่มีเมียเป็นคนไทยคือ นางสาวรุธจิรา เอี่ยมละม้าย อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 314/2 หมู่ 12 ต.แหลมรัง อ.บึงนาราง จ.พิจิตร สมคบกับ ชายชู้หนุ่ม คือ นายอาโมรี ริโก ( MR.RIGAU Amaury ) ชาวฝรั่งเศส ถือหนังสือเดินทางประเทศฝรั่งเศสเลขที่  17DC40970 โดยได้ร่วมกันฆ่า  นายจูเซปเป้ เดอ สเตฟานี เป็นชาวอิตาลี อายุ 61 ปี 

จากนั้นฆ่าหั่นศพแล้วนำไปเผานั่งยางจนเป็นข่าวอุจฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และเป็นที่สนใจของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งต่อมา นายลูก้า เดอ สเตฟานี อายุ 30 ปี  ซึ่งเป็นลูกชายของ ผู้ตาย ได้มาดูศพพบเห็นรอยสักที่บริเวณขา ยืนยันว่าเป็นรอยสักของพ่อตนเอง จากนั้นตำรวจได้พิสูจน์ DNAของผู้ตายและของลูกชาย ยืนยันแล้วว่า DNAตรงกัน 

ล่าสุดวันนี้ ตำรวจได้เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนแล้วแบ่งสายงานในการติดตามคนร้าย อีกทั้งได้ส่งหมายจับไปให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในทุกจุดทั่วประเทศ ถ้าหากพบเห็น2ผู้ต้องหาให้ดำเนินการจับกุมควบคุมตัวได้ทันที

ส่วนหลักฐานที่มัดแน่น2ฆาตกรตำรวจพบภาพจากกล้องวงจรปิดที่บริเวณหน้า อบต.แหลมรัง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับจุดทางเข้าที่เกิดเหตุ พบภาพรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีบอนด์ หมายเลขทะเบียน กค-1374 สมุทรสงคราม ซึ่งตรงกับรถของผู้ต้องหา ( ที่คนร้ายใช้ขับหลบหนีอยู่ในขณะนี้ ) อีกทั้งได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ที่สองคนร้ายหลังจากก่อเหตุเพียงแค่วันเดียวได้เดินทางหลบหนีแล้วนำโทรศัพท์มือถือไปขายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี จ.กำแพงเพชร ในราคา 2,000 บาท เพื่อทิ้งอุปกรณ์สื่อสารเครื่องเก่าเพื่อหลบหลีกการติดตามสัญญาณของโทรศัพท์มือถือที่ตำรวจใช้เป็นช่องทางในการแกะรอย 

สำหรับการประชุมของตำรวจพิจิตรที่บูรณาการร่วมกับตำรวจจากทุกเครือข่ายขณะนี้มีความคืบหน้าที่มีแนวโน้มว่าจะสามารถเข้าถึงตัวคนร้ายได้ในเร็ววันนี้ แต่ไม่อาจเปิดเผยข้อมูลในเชิงลึกได้ เนื่องจากคนร้ายก็ติดตามข่าวของทางตำรวจด้วยเช่นกัน จึงทำให้ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างต้องสลับขาหลอก แต่ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในความสามารถของตำรวจไทย ว่า คดีอุจฉกรรจ์ฆ่าหั่นศพที่เกิดขึ้นในจังหวัดพิจิตรในครั้งนี้ต้องจับคนร้ายได้อย่างแน่นอน.