มาถึง ณ ขณะนี้...วินาทีนี้ ก็น่าจะยังพอสรุปได้ว่า การเมืองบ้านเรา ณ บัดนาว ไปจนถึงอนาคตข้างหน้า ยังคงต้องจัดอยู่ในประเภท พงศาวดาร 3 ก๊ก อยู่อีกนั่นแหละ คือ ก๊กเอาบิ๊กตู่ หนึ่ง ก๊กไม่เอาบิ๊กตู่ หนึ่ง และ ก๊กเอาไม่ใช่-ไม่เอาก็ไม่เชิง อีกหนึ่ง ตราบใดที่บรรดาสมาชิกพรรคประชาธิกัด เขายังไม่คิด แตกแบงก์พัน-เป็นแบงก์สิบ หรือยังไม่คิด เปลี่ยนม้า (หล่อ) กลางลำธาร กันง่ายๆ...

                                                                   -------------------------------------------------

      แต่คราวนี้...บรรดาผู้ที่ไม่ได้มียี่ห้อ ไม่ได้มีสังกัด ไม่ได้จัดอยู่ในก๊กใด ก๊กหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นชาวยุทธ์ประเภทร่อนเร่พเนจร ประเภทกระบี่เดียวดาย หรือประเภทตัวประหลาดเร้นกาย ที่ล้างมือในอ่างทองคำ อ่างพลาสติกไปนานแล้ว จะเอาไงกันดี...ภายใต้ภาวะที่พงศาวดาร 3 ก๊ก วรรณกรรมคลาสสิกชนิดเรื่องจริงอิงนิยายของเมืองจีน เมื่อหลายต่อหลายพันปีที่แล้ว ดันอุบัติขึ้นมา ณ ประเทศไทย ในช่วงนี้ แบบชนิด แบ็ก ทู เดอะ ฟิวเจอร์ กันแบบจะจะจังๆ...

                                                                   ----------------------------------------------------

      แน่ล่ะว่า...ถ้าย้อนกลับไปเมื่อนับพันๆ ปีที่แล้ว การไม่ได้มีสังกัด ไม่ได้มียี่ห้อ ไม่ได้อยู่ในก๊กใด ก๊กหนึ่งนั้น มันอาจดู โฮมอโลน หรือออกจะโดดเดี่ยว เดียวดาย หนักซะยิ่งกว่า ลิ่วล้อในหนังจีน หลายต่อหลายเท่า คือมีแต่ต้องกลายเป็นที่รองมือ รองตีน ของบรรดาผู้คนในแต่ละก๊ก แต่ละเหล่า ไปตามมี ตามเกิด แม้จะมีเพลงยุทธ์ มีเคล็ดวิชาระดับ เก้ากระบี่เดียวดาย จากคัมภีร์นพสุริยะ เอาไว้ให้ศึกษา ค้นคว้า จนสามารถแปลงกายเป็น เหล็งฮู้ชง ได้ไม่ยาก แต่ก็นั่นแหละ...การที่ไม่ได้แยกข้าง แยกฝ่าย ไม่ได้คิดจะสังกัดพรรคเทพ พรรคมาร ลงไปให้แน่ชัด แม้แต่ เหล็งฮู้ชง ยังหนีไม่พ้นต้องตกอยู่ในสภาพ กระบี่เย้ยยุทธจักร ต้องนั่งบรรเลงเพลงพิณ เพลงขลุ่ย แบบโดดเดี่ยว เดียวดาย ไปตามสภาพ...

                                                                    -------------------------------------------------------

      แต่ถ้าหากลองย้อนกลับแบบไม่ใช่กลับไปหาอดีต แต่กลับไปสู่อนาคต หรือแบบ แบ็ก ทู เดอะ ฟิวเจอร์ กันจริงๆ การที่ต้องสังกัดตัวเองอยู่ในก๊กใด ก๊กหนึ่งนั้น แทบไม่มีความจำเป็น หรือแทบไม่ได้มีความสลักสำคัญอะไรเอาเลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุเพราะไม่ว่าจะปัจจุบัน หรืออนาคตเบื้องหน้านั้น มันได้มี เครื่องมือ ชิ้นสำคัญ ที่ไม่เพียงสามารถช่วยให้ใครต่อใคร ไม่ต้องโฮมอโลนอีกต่อไป แต่เผลอๆ...ยังสามารถก่อให้เกิดการเรียกระดมชาวยุทธ์ ระดับพึ่บๆ พั่บๆ ระดับพลิกฟ้า-คว่ำดิน ระดับพลิกหน้ามือเป็นหลังตีน หรือหลังตีนเป็นหน้ามือ ก็แล้วแต่ ได้แบบฉับพลัน-ทันทีเอาเลยก็ไม่แน่ โดยเฉพาะถ้าสามารถใช้เครื่องมือที่ว่าได้แบบถูกร่อง ถูกจังหวะ ถูกกาล สถานที่ และที่สำคัญที่สุด...คือต้อง ถูกต้อง และ ชอบธรรม ควบคู่ไปด้วย...

                                                                        ----------------------------------------------------

      ซึ่ง เครื่องมือ ที่ว่านี้...ก็คงไม่ใช่อะไรที่หนวย นั่นก็คือ ระบบอินเทอร์เน็ต ที่ถูกนำไปสอดแทรกเอาไว้ในคอมพิวเตอร์ ไอพอด ไอแพด ไอกระด๊อกกระแด๊ก ในมือโทรศัพท์มือถือ ในไลน์ ในเฟซบุ๊ก ทวิตต้ง ทวิตเตอร์ ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรนั่นแล ที่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ระบบ ชนิดนี้ มันได้กลายเป็นส่วนหนึ่ง ส่วนสำคัญ ของวิถีชีวิตมนุษย์ในปัจจุบันและอนาคต ไปเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว ชนิดแทบไม่ต่างอะไรไปจาก อวัยวะ ที่งอกออกมาจากส่วนต่างๆ ในร่างกาย จากที่เคยมีอยู่แค่ 32 กลายเป็นอวัยวะที่ 33 อย่างชนิดมิอาจปฏิเสธได้ อันนี้นี่แหละ...ถ้าหากใช้ถูก ใช้เป็น ใช้ได้เหมาะสม สอดคล้อง กับเงื่อนไข เหตุปัจจัย แต่ละช่วง แต่ละระยะ แต่ละกาล โอกาส แม้ไม่ได้อยู่ในก๊กไหน ต่อก๊กไหน ไม่ได้สังกัดพรรคเทพ พรรคมาร แต่สามารถออกฤทธิ์ ออกเดช ระดับมีสิทธิ์เปลี่ยนโฉมหน้าวงการบู๊ลิ้ม ได้ทุกเมื่อ...

                                                                   ------------------------------------------------------

      พูดง่ายๆ ว่า...ไม่ว่าจะอยู่ในระบบปกครองแบบไหน เป็นเผด็จการ เป็นประชาธิปไตยแบบเต็มสูบ เต็มด้าม หรือแบบไฮบร่ง ไฮบริด ก็แล้วแต่ แต่ด้วยเครื่องมือชนิดที่ว่านี้นี่เอง ที่มันได้ทำให้เกิดสภาวะแบบที่เรียกๆ กันว่า ประชาธิปไตยทางตรง หรือ ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม อุบัติขึ้นมาอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ เพียงแต่ว่า...ถ้าหากประชาธิปไตยนั้นๆ มันไม่ได้ตั้งอยู่บนความถูกต้อง ชอบธรรม ไม่ได้มี ธรรมะ หรือ คุณธรรม อันเป็นสิ่งพึงปรารถนาของมวลมนุษย์ทั้งหลาย เป็นตัวรองรับแบบจะจะจังๆ ฤทธิ์-เดชของมัน ย่อมต้องลดน้อย ถอยลงไปตามลำดับ แต่ถ้าหากมันไปถูกใจ-ตรงใจ เข้าถึงและเข้าใจ ต่อความรู้สึกแห่งความมนุษย์ในช่วงจังหวะที่เหมาะสม ในช่วงที่เงื่อนไขและเหตุปัจจัยเอื้ออำนวยให้ โอกาสที่มันจะก่อให้เกิดปรากฏการณ์ในแบบพิสดาร พันลึก ประเภท ปรากฏการณ์ตูน บอดี้สแลม หรือ ปรากฏการณ์หมูป่า อะคาเดมี ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ...

                                                                      --------------------------------------------------------

      ดังนั้น...เลยคงไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งเป่าขลุ่ย ดีดพิณ บรรเลงบทเพลง เย้ยยุทธจักร แบบโฮมอโลนไปเรื่อยๆ ระหว่างที่ก๊กแต่ละก๊ก เค้ากำลังช่วงชิงตำแหน่ง ทีแอ๋เต้ยอิด ตำแหน่ง จ้าวยุทธจักร ไปตามวาสนา ตามครรลองของเขา แค่นั่งจิ้มๆ ทิ่มๆ คอมพิวเตอร์ ไปพร้อมๆ กับการเรียนรู้ถึงความถูกต้องของธรรมะ ของคุณธรรม หมั่นพัฒนาสติ ปัญญา ให้สามารถแยกแยะความถูก-ผิด ในแต่ละช่วง แต่ละระยะ เพียงเท่านี้...ด้วย ประชาธิปไตยแบบไฮบริด นี่แหละ ไม่ว่าก๊กไหนต่อก๊กไหน ล้วนแล้วแต่มีสิทธิ์หงายท้องตึง หลับกลางอากาศได้ทุกเมื่อ...

                                                                      -----------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Jawaharlal Nehru... We are little men serving great causes and because the cause is great something of that greatness falls on us also.- เราเป็นปุถุชนคนเล็กๆ ที่รับใช้ภารกิจใหญ่ๆ แต่ด้วยเหตุเพราะภารกิจนั้นใหญ่ ความใหญ่ของภารกิจจึงตกลงมาถึงเราด้วย...

                                                                       -----------------------------------------------------