เปิดโลกใหม่ที่จีน


เพิ่มเพื่อน    


    ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสมัย 30 ปีก่อน ถ้าบอกว่าจะไปดูความไฮเทคที่ประเทศจีน ก็คงถูกหัวเราะเยาะเอา แต่มายุคนี้สมัยนี้ จีนกลายเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าอย่างมาก โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยีไอที และนวัตกรรมการเงิน ซึ่งเรียกว่าล้ำสมัยมากที่สุดในโลก เพราะทั้งประเทศกลายเป็นประเทศที่แทบจะไม่ใช่เงินสดกันแล้ว
    ล่าสุดผู้เขียนได้มีโอกาสร่วมคณะสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจและธนาคารกรุงเทพ ไปดูความก้าวหน้าด้านการเงินในเมืองเชี่ยงไฮ้และหางโจว ซึ่งก็ได้เห็นอะไรใหม่มากมาย หยิบมาเล่าให้ฟังกัน
    ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่า ปัจจุบันคนจีนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเป็นอันดับ 1 ของโลก ด้วยจำนวนสูงถึง 802 ล้านคน คิดเป็น 57.7% ของประชากรทั้งหมด และแทบไม่น่าเชื่อว่า มีผู้ใช้บัญชีซื้อขายของออนไลน์สูงถึง 568 ล้านบัญชี หรือคิดเป็น 70% ของผู้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตนับว่าสูงมาก
    อะไรที่ทำให้คนจีนหันมาช็อปปิ้งออนไลน์กันจำนวนมาก เหตุผลก็คือ ความสะดวกและง่ายนั่นเอง เนื่องจากระบบการจ่ายเงินสั่งซื้อสินค้าทำได้ง่าย และสินค้าส่งถึงมือไว รวมถึงมีราคาที่ถูกกว่าห้างสรรพสินค้า
    จึงไม่แปลกที่คนจีนจะมีการเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาซื้อของออนไลน์มากขึ้น เรียกได้ว่าทุกวันนี้คนจีนไปเดินห้าง ไม่ได้ซื้อของกันแล้ว เพียงแต่ใช้ห้างเป็นโชว์รูม และหยิบจับสินค้าของจริง ก่อนที่จะมาสั่งซื้อในอีคอมเมิร์ซแทน
    "มีการแซวกันว่า ยุคนี้เจอหน้าเด็กส่งสินค้ามากกว่าเจอหน้าคนในครอบครัวเสียอีก"
    การแข่งขันอีคอมเมิร์ซในจีน ถือว่ามีความดุเดือดมาก ไม่ว่าจะเป็นทีมอลล์ ของอาลีบาบา หรือเจดี ซึ่งแข่งขันกันดุเดือด ยุคนี้แข่งกันที่ความรวดเร็วของการส่งสินค้า เดี๋ยวนี้ทุกแอปฯ จะมีการแจ้งระยะเวลาการจัดส่ง ซึ่งไม่เกิน 2 ชั่วโมงก็ได้รับสินค้ากันแล้ว ทั้งสินค้าสด สินค้าแห้ง ของอุปโภค บริโภค มีให้บริการครบ เรียกได้ว่ามือถือเครื่องเดียวทำได้ทุกอย่าง
    ทุกวันนี้สมาร์ทโฟนกลายเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดของชาวจีน อะไรหายได้ มือถือ ห้ามหาย
    แล้วพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ห้างค้าปลีกจะอยู่ได้อย่างไร ก็ได้คำตอบจากตัวแทนของห้างซูเปอร์แบรนด์มอลล์ ห้างสรรพสินค้าในเครือซีพีระบุว่า แม้คนจีนจะหันไปสั่งซื้อสินค้าจากอีคอมเมิร์ซมากขึ้น แต่ปริมาณคนใช้บริการของห้างก็ยังไม่ลดลง เพราะคนจีนยังชอบมาผ่อนคลาย มาทานอาหารในห้าง และเลือกซื้อสินค้าเหมือนเดิม 
    แต่กลยุทธ์ที่สำคัญคือ การปรับตัวให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของจีน ในการเป็นโชว์รูมและอีเวนต์จัด รวมถึงปรับตัวเข้าระบบการชำระเงินแบบใหม่ หรือลงทุนสร้างประสบการณ์ช็อปปิ้งแบบใหม่ทั้งการดึงแบรนด์สินค้าใหม่ๆ เข้ามา รวมถึงนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาเสริมบริการ ทั้งระบบปัญญาประดิษฐ์ ระบบวีอาร์ และเออาร์ HotSpot และไอโอที มาช่วยในการดึงคนเข้าศูนย์การค้า
    ขณะเดียวกัน ทางด้านอาลีบาบายักษ์ใหญ่วงการอีคอมเมิร์ซของจีน ก็ยังมองเห็นโอกาสในธุรกิจค้าปลีก จึงได้เปิดตัวซูเปอร์มาร์เก็ตรูปแบบใหม่ ในห้างที่ชื่อว่า เฮอมา (HEMA) ซูเปอร์มาร์เก็ตแบบไร้เงินสด แต่พักหลังถูกบ่น มีเงินซื้อของไม่ได้ เลยเปิดเคาเตอร์ให้จ่ายเงินแบบเงินสดได้บ้าง 
    ความพิเศษของซูเปอร์แห่งนี้ คือระบบจ่ายเงินด้วยตัวเองของทุกอย่าง ลูกค้าดำเนินการแทนพนักงานเคาน์เตอร์หยิบสินค้า สแกนบาร์โค้ด หยิบมือถือมาจ่ายเงิน ง่ายๆ และล่าสุดมีการอัพเดตระบบจ่ายเงินล่าสุด ใช้การสแกนหน้าพร้อมกรอกเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ Alipay ก็ได้แล้ว เรียกว่าล้ำสมัยมาก ส่วนใครที่ไม่สะดวกมาห้างก็สั่งสินค้าผ่านแอป Hema ก็จะมีระบบช็อปสินค้าแทน และส่งสินค้าให้ลูกค้าถึงบ้าน 
    ย้อนกลับมาประเทศไทย เชื่อว่าอีกไม่กี่ปี ชีวิตของคนไทยก็คงจะเจอในลักษณะนี้ ปัจจุบันคนไทยก็หันมาช็อปปิ้งออนไลน์กันเยอะขึ้น และภาครัฐก็ส่งเสริมการใช้เงินอิเล็กทรอนิกส์ในการชำระเงินมากขึ้น ดังนั้นไทยก็คงหนีไม่พ้น ก็คงต้องมีการปรับตัวกันต่อไป. 
ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"