11 ก.ย.61-  นายพายัพ ปั้นเกตุ อดีตสส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดงกล่าวว่า การที่คสช.และรัฐบาลคสช.ไม่ยอมปลดล็อคทางการเมืองทันที แต่มีเงื่อนงำทำสองขยักคือคลายล็อคก่อน ทั้งที่ผู้นำรัฐบาลคสช.ประกาศออกมาแล้วว่า จะเดินหน้าเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง 24 กุมภาพันธ์ 2562 หรือในอีก 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่มากในการเตรียมความพร้อมของพรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่ที่มีมากถึง 69 พรรคและในจำนวนนึ้ก็เป็นพรรคการเมืองที่ประกาศตัวสนับสนุน พล.อ ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อสืบทอดอำนาจต่ออยู่แล้ว ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกันมาก พรรคที่สนับสนุนคสช.ทำได้เดินหาเสียงได้ หาสมาชิกพรรคได้ มีข้าราชการของรัฐคอยสนับสนุน นำพาว่าที่ผู้สมัครฝ่ายตนเองออกหาเสียงแจกของ ทั้งฝ่ายปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายความมั่นคงทหารตามภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะในเขตภาคอีสานและภาคเหนือซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย

ในเมื่อรัฐบาลคสช.มีความได้เปรียบในอำนาจรัฐ งบประมาณแผ่นดินที่เอื้อประโยชน์ และกำลังพลฝ่ายราชการที่เป็นกลกลอำนาจรัฐอยู่ในมือ รวมทั้งกฎหมายการเลือกตั้งและที่สำคัญคือมีอำนาจแต่งตั้ง สมาชิกวุฒิสภาหรือ สว.แต่งตั้งที่มีสิทธิโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นกองกำลังหลักในการสนับสนุนตนเองเป็นนายกอยู่แล้ว เอาเปรียบและได้เปรียบคนอื่นมากมายอยู่แล้วจะต้องกลัวอะไรกับเรื่องแค่ปลดล็อคทางการเมืองทันที เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศสบายใจว่าจะได้เลือกตั้งจริงๆเสียที พรรคการเมืองก็จะได้ทำกิจกรรมอย่างเสรีในระบอบประชาธิปไตย

นายพายัพกล่าวอีกว่า ประการสำคัญที่สุด เมื่อมีการปลดล็อคทางการเมืองคือ บรรยากาศการค้าการลงทุนจะได้แจ่มใส ประชาชนจะได้มีความหวัง ประเทศชาติจะได้เป็นที่ยอมรับของนานาอารยประเทศเสียที มันเสียเวลาประเทศชาติมามากแล้วเกือบ 5ปีนานกินไปกับการเอาประเทศไทยเป็นตัวประกันของเผด็จการ ควรปลดล็อคได้แล้วอย่าทำให้ประเทศชาติเสียหายไปมากกว่านี้

สำหรับนายพายัพคือแกนนำคนเสื้อแดงที่ยกพวกบุกโรงพยาบาลจุฬา ช่วงการชุมนุมคนเสื้อแดงปี 2553 อ้างว่าทหารซ่อนตัวในโรงพยาบาล สร้างความแตกตื่นไปทั่ว แต่กลับไม่มีทหารในโรงพยาบาลแม้คนเดียว