คลังเข็น ธ.ก.ส. ลุยทำหน้าที่ “ธนาคารที่ดิน” เชื่อมีความพร้อมทุกด้าน ทั้งกำลังคนและเงินทุน หวังช่วยแก้ปัญหาเกษตรกรไม่มีที่ดินทำกิน ตัดปัญหาสูญเสียที่ดินให้นายทุนหลังจำนองแล้วไม่มีเงินผ่อนชำระคืน 

นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค. ได้หารือกับนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถึงแนวทางการให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) นำร่องเป็นธนาคารที่ดิน เพื่อแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกิน หรือกำลังจะเสียที่ดินทำกินให้กับนายทุนเพราะไปจำนองแล้วไม่สามารถผ่อนชำระได้ ก็ให้นำมาจำนองไว้กับ ธ.ก.ส. และทำกินต่อไป เพื่อหารายได้มาผ่อนคืน

"การให้ ธ.ก.ส. นำร่องเป็นธนาคารที่ดิน เพิ่งได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการของ ธ.ก.ส. และส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ  ทาง ธ.ก.ส. ก็เริ่มดำเนินการได้เลย ไม่ต้องแก้ไขกฎหมาย เพราะธนาคารมีความพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่เงินทุนที่จะบริหารจัดการดังกล่าว” นายสุวิชญ กล่าว

สำหรับสาเหตุที่ต้องให้ ธ.ก.ส. ทำหน้าที่เป็นธนาคารที่ดินไปก่อน เพราะการเสนอ ร่าง พ.ร.บ. ธนาคารที่ดิน ที่ดำเนินการโดยสถาบันบริการจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจท. ล่าช้า เนื่องจากมีหลายกลุ่มต่อต้านไม่อยากให้กฎหมายนี้มีผลบังคับใช้

นอกจากนี้ การทำหน้าที่เป็นธนาคารที่ดินของ บจท. ก็ทำได้น้อยเนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่ ไม่มีความพร้อมเรื่องแหล่งเงินที่จะมาใช้ ทำให้รัฐบาลตัดสินใจแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยให้ ธ.ก.ส. นำร่องเป็นธนาคารที่ดินไปก่อน เพราะมีศักยภาพที่จะดำเนินการได้ทันที คาดว่าจะเสนอให้ ครม. ให้เห็นชอบภายในปีนี้ เพราะในหลักการรัฐบาลได้เห็นชอบหมดแล้ว

สำหรับ พ.ร.บ.ธนาคารดินที่จะจดตั้งขึ้น มีวัตถุประสงค์ดำเนินการเพื่อให้มีการใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างเหมาะสมและยั่งยืน ดำเนินการเพื่อให้เกิดการกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืนและมีการใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างเหมาะสม เพื่อลดความเลื่อมล้ำ และสร้างความเป็นธรรมในการถือครองที่ดินดำเนินการเพื่อเป็นแหล่งทุนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิในที่ดินทำกินของเกษตรกร และให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนให้มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยที่มีความมั่นคงและยั่งยืน

นอกจากนี้ยังดำเนินการเพื่อคุ้มครองการใช้ประโยชน์ในพื้นที่เกษตรกรรมของประเทศและสนับสนุนการประกอบอาชีพของเกษตรกรและผู้ยากจนให้มีความมั่นคงและยั่งยืน และรวบรวมข้อมูลที่ดิน และเป็นตัวกลางระหว่างผู้ประสงค์จะใช้ประโยชน์ในที่ดินกับเจ้าของที่ดินที่ยังมิได้ใช้ประโยชน์หรือเจ้าของที่ดินที่ยังไม่ประสงค์จะใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างเต็มที่ รวมถึงเป็นตลาดกลางที่ดินเพื่อให้มีการใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างเหมาะสม และยั่งยืน

ขณะเดียวกันต้องส่งเสริม และสนับสนุนการบริหารจัดการที่ดินให้ชุมชนบริหารจัดการที่ดินร่วมกัน ทั้งที่ดินทำกินและที่ดินสำหรับการอยู่อาศัย และเป็นกลไกของรัฐในการสำรองที่ดิน เพื่อสร้างประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจ หรือเพื่อช่วยเหลือหรือสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายการพัฒนาชนบทหรือเมือง หรือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ