ตร.สั่งปิด12สถานบริการ พบ'เสี่ยกำพล'ถ่ายเทเงิน


เพิ่มเพื่อน    

"ตำรวจ" สั่งปิด 12 สถานบริการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. พร้อมเตรียมพิจารณาต่อใบอนุญาตอาบอบนวดทั่วกรุง 31 มี.ค.นี้ "ผบช.น." ลั่น "วิคตอเรีย ซีเครท" ทำผิดระเบียบ คาดถูกปิดถาวร "ดีเอสไอ" ประสาน "ปปง." เร่งอายัดทรัพย์เสี่ยกำพล-เมีย หลังพบมีการโอนย้ายถ่ายเทบางส่วนแล้ว
    เมื่อวันพุธ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. ประชุมคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองการสั่งปิดสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการที่มีการกระทำผิดตามคำสั่ง คสช. ประจำปี 2561 ครั้งที่ 1/2561 ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
    พล.ต.ท.ชาญเทพกล่าวว่า ที่ประชุมมีมติปิดสถานบริการที่อยู่ในข่ายพิจารณาจำนวน 12 แห่ง ซึ่งเบื้องต้นส่วนใหญ่เข้าข่ายความผิดเกี่ยวข้องกับสถานบริการที่ไม่มีใบอนุญาตในประเภทคาราโอเกะ ร้านอาหาร ที่เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมและผิดคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 ปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าไปใช้บริการ มียาเสพติด จำหน่ายสุราให้เด็ก กระทำความผิดซ้ำซาก  แต่มีหลายแห่งที่ข้อมูลยังไม่เรียบร้อย ก็สั่งการให้ไปทำมาให้แล้วเสร็จเพื่อนำมาเข้าที่ประชุมอีกครั้งในวันที่ 30 ม.ค. เพื่อนำเรียน ผบ.ตร.สั่งปิดต่อไป
    "กรณีการพิจารณาใบอนุญาตอาบอบนวดว่าจะมีการสั่งปิดที่ไหนหรือไม่ ขณะนี้กำลังดำเนินการกับสถานบริการที่จะขอต่อใบอนุญาตอยู่ ซึ่งให้เสนอเรื่องมาที่ บช.น.ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 มี.ค. เพื่อบช.น.จะพิจารณาอนุญาตหรือไม่อนุญาต ในส่วนสถานบริการวิคตอเรีย ซีเครท อาบอบนวด ก็จะถูกพิจารณาด้วยว่ามีความผิดฐานใด ขัดต่อระเบียบหรือข้อบังคับใดบ้าง ซึ่งหากขัดต่อระเบียบ จะไม่ต่อใบอนุญาตให้ ก็ถือว่าถูกปิดไปแล้ว" พล.ต.ท.ชาญเทพกล่าว
    ถามถึงการตรวจสอบตำรวจที่มีชื่อเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องสถานอาบอบนวด ผบช.น.กล่าวว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบ โดย พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รอง ผบช.น. เป็นประธานดำเนินการ เพียงแต่ที่มีความล่าช้าเนื่องจากมีอุปสรรคที่ไม่มีการลงรายชื่อตำรวจที่ไปใช้บริการไม่ชัดเจน ลงเพียงตำแหน่ง ผกก.บช.น.เท่านั้น ก็ให้ ผกก.ในสังกัดทั้งหมดรายงานชี้แจงมาให้เร็วที่สุด
    มีรายงานว่า สำหรับสถานประกอบการ 12 แห่ง ในพื้นที่ บช.น. กระทำความผิดตามคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 เรื่องมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทาง และการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ และคำสั่ง คสช.ที่ 46/2559 เรื่องแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 โดยการกระทำความผิดส่วนใหญ่พบการกระทำความผิดเปิดสถานประกอบการโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีใช้บริการ, ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ตั้งแต่เมื่อเดือน ต.ค.-พ.ย.2560 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย 1.ร้านแวมไพร์คาราโอเกะ 2.ร้านเฮฮา 3.ร้านเจี๊ยบคาราโอเกะ 4.ร้านมอนติคาร์โล 5.ร้านบางกอกใหญ่บาร์ 6.ร้าน DE-CREE48 7.ร้าน MORE 8.ร้านคลับฟายเดย์ 9.ร้านเดอะฟิกบาร์ 10.ร้านน้องหนึ่งคาราโอเกะ 11.มูดดี้ส์ บาร์ 12.ร้านสุราบาร์พาร์ตี้ บายเมาสันติ
    ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดีข้อหาค้ามนุษย์สถานอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท พ.ต.อ ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ดีเอสไอได้ประสานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อช่วยตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายกำพลและนางนิภา วิระเทพสุภรณ์ ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ รวมถึงบัญชีของผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถานบริการดังกล่าว จำนวน 10 บัญชี รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท 
    "เบื้องต้น ปปง.กำลังเร่งตรวจสอบ เนื่องจากพบมีการโอนเงินออกจากบัญชีไปก่อนที่จะถูกออกหมายจับ" รองอธิบดีดีเอสไอกล่าว
    มีรายงานว่า การตรวจสอบเส้นทางการเงินบัญชีกว่า 10 บัญชีที่มีเงินกว่า 100 ล้านบาทของนายกำพล มาจากเจ้าหน้าที่อายัดเครื่องรูดบัตรเครดิตที่อายัดได้จากอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท และพบปลายทางเป็นชื่อบัญชีของนายกำพลและภรรยา ซึ่งอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงินของ สำนักงาน ปปง. รวมทั้งมีการยักย้ายถ่ายเทเงินออกไปจากบัญชีก่อนทำอายัดไว้จำนวนมาก ซึ่งอยู่ระหว่างการไล่ตรวจสอบแต่ละบัญชี
    วันเดียวกัน น.ส.ปิยวรรณ ล่ามกิจจา รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง แถลงข่าวชี้แจงอีกครั้งกรณีกระทรวงการคลังมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทในกลุ่มเดวิส 4 บริษัท ซึ่งได้รับโอนมาจาก ปปง. ตามคำพิพากษาของศาลฎีกา ประกอบด้วย บริษัท เดวิส ไดมอนด์สตาร์ จำกัด จำนวน 1 หมื่นหุ้น, บริษัท เดวิส โคปา คาบานา จำกัด จำนวน 6 พันหุ้น, บริษัท เดวิส โกลเด้นท์สตาร์ จำกัด จำนวน 7.44 พันหุ้น และบริษัท เดวิส ซิลเวอร์สตาร์ จำกัด จำนวน 1 หมื่นหุ้นว่า ขอยืนยันกระทรวงการคลังไม่ได้มีเจตนาที่จะเข้าไปถือหุ้นและบริหารจัดการหุ้นดังกล่าว เพราะการได้มาของหุ้นมาจากการที่ ปปง.ยึดทรัพย์มาตามกฎหมาย ส่วนการเข้าไปประชุมผู้ถือหุ้นที่ผ่านมานั้น ก็เป็นการเข้าไปดำเนินการตามสิทธิ์เท่านั้น
    “กระทรวงการคลังถือหุ้นใน 4 บริษัทในกลุ่มเดวิส ทั้งสิ้น คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 0.5-2% เท่านั้น และที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยได้รับเงินปันผลจากทั้ง 4 บริษัทดังกล่าวเลย และลึกๆ ก็ไม่แน่ใจว่า 4 บริษัทในกลุ่มเดวิสมีความเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับวิคตอเรียฯ ของนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ หรือไม่ เพราะเท่าที่ทราบ ใน 4 บริษัทก็มีธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์อยู่ในนั้นด้วย” น.ส.ปิยวรรณกล่าว
    รอง ผอ.สคร.กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาจำหน่ายหุ้นตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งรวมถึง 4 บริษัทในกลุ่มเดวิสด้วย ส่วนราคาหุ้นของ 4 บริษัทในกลุ่มเดวิสที่จะขาย จะต้องมีการพิจารณาในหลายรายละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากไม่เคยมีการขายหุ้นที่ได้มาจากนิติเหตุ หรือการยึดทรัพย์ จึงถือเป็นกรณีทดลอง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีผู้ถือหุ้นเดิม หรือบุคคลที่สนใจเข้ามาซื้อหุ้นก็ได้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"