พท.ชู‘ทักษิโณแม้ว’! ‘พิชัย’ยันนโยบายพรรคเวอร์ชั่นใหม่ปลดล็อกเมื่อไหร่เจอกัน


เพิ่มเพื่อน    

 สุเทพ-หม่อมเต่า-เอนก นำทีมเปิดโรงเรียนการเมือง รปช. หวังปูพื้นฐานความเข้าใจทางการเมือง ยันรวมพลังประชาชาติไทยหนุน "บิ๊กตู่" นั่งนายกฯ เพื่อไทย-ประชาธิปไตย หวั่นลากยาว ยอมหาเสียง 70 วันเหมาะสมแล้ว "พิชัย" สุดฮอต ชูทักษิโณมิกส์เวอร์ชั่นใหม่ ที่ปรับปรุงตามสภาวะแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนแปลง และมีเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาเสริม เป็นนโยบายพรรค

    เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 8 กันยายน ที่อาคารทูแปซิฟิคเพลส สุขุมวิท ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย และผู้ร่วมจัดตั้งพรรค รปช. ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ว่าที่หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.), นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนการเมืองพรรครวมพลังประชาชาติไทย ร่วมเปิด "โรงเรียนการเมือง รวมพลังประชาชาติไทย" หลักสูตรพรรคการเมืองเพื่อการปฏิรูปประเทศ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งมั่นให้ผู้จัดตั้งพรรค ผู้บริหารพรรค และผู้สนใจทางการเมือง มีความรู้ความเข้าใจถึงการพัฒนาการเมือง พร้อมกับปูพื้นฐานต่างๆ เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของประเทศไทยในปัจจุบัน ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง เพื่อสร้างบุคลากรทางการเมืองให้มีความรู้คู่คุณธรรม มีความสามารถและมีวิสัยทัศน์ ที่สามารถทำให้พรรค รปช.บรรลุถึงเป้าหมายทั้งภารกิจทางการเมืองและทางสังคม 
    ทั้งนี้ หลักสูตรนี้มีรายชื่อผู้ร่วมจัดตั้งพรรคหลายคนที่ลงชื่อเรียน อาทิ นายสุเทพ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค, ม.ร.ว.จัตุมงคล ว่าที่หัวหน้าพรรค, นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ว่าที่เลขาธิการพรรค, นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีตกลุ่ม 40 ส.ว. มีเนื้อหาเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ เศรษฐกิจการเมือง การปกครอง โดยจะมีการเรียนเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่วันที่ 8-23 กันยายน และในวันที่ 29-30 กันยายน จะไปศึกษาดูงานนอกห้องเรียน ที่ จ.เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์
    นายสุเทพกล่าวบรรยายว่า เหตุผลของการจัดตั้งพรรค รปช. เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยมีพรรคการเมืองที่เป็นของประชาชนเลย ไม่ว่าจะยุคใดก็ตาม ดังนั้นมองว่าประชาชนจะมีอำนาจได้ คือต้องสร้างพรรคการเมืองต้องร่วมกำหนดนโยบาย กำหนดแนวทางต่างๆ แบบนี้ถึงจะมั่นใจว่าประชาชนจะมีพรรคเป็นเครื่องมือในการทำประโยชน์เพื่อประชาชนได้จริง
    “พรรคการเมืองของประชาชนที่แสดงว่าประชาชนเป็นเจ้าของพรรคคือ ทุนและเงิน ประชาชนต้องเป็นคนลงทุนเอง ต้องให้ประชาชนกำหนดตัวบุคคลด้วยการเลือกผู้บริหารพรรคเอง นอกจากนี้ เราต้องสร้างพรรคการเมืองให้เข้มแข็ง ผมไปที่ไหนก็จะบอกว่าพรรคเราเป็นรัฐบาลแน่นอน ผมไม่ใช่หมอดู เพราะพรรคนี้เป็นพรรคของประชาชนในทุกภาค ดังนั้น ใครที่อยากได้ประชาชน เขาก็ต้องคบเรา พรรค รปช.รอรับขันหมากได้เลย เพราะไม่ว่าใครจะเป็นนายกฯ เขาก็ต้องมาเลือกเรา ยกเว้นแต่พรรค รปช.ได้เกิน 300 เสียง ก็จะเป็นหน้าที่ของ ม.ร.ว.จัตุมงคลรับผิดชอบไป ผมยืนยันว่า วันข้างหน้าเราเป็นรัฐบาลแน่นอน เราไม่ได้เป็นพรรคเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นมาสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้” 
ยันหนุน"บิ๊กตู่"เป็นนายกฯ
    นายสุเทพกล่าวอีกว่า ขณะนี้มีการหยิบประเด็นมาโจมตีตนเรื่องการสร้างโรงพัก ก็ขอสู้เต็มที่ และมีการยกว่าตนตระบัดสัตย์ ยืนยันว่าไม่ใช่ ยังรักษาคำพูดเช่นเดิม เพราะพูดเอาไว้ว่าจะไม่กลับเข้าสภา และไม่รับตำแหน่งทางการเมือง ตนรักษาคำพูดอยู่ เพราะไม่เป็นกรรมการบริหารพรรค จะไม่ลงสมัคร ส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ และเมื่อพรรคเป็นรัฐบาล จะไม่รับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี 
    จากนั้นนายสุเทพให้สัมภาษณ์กรณี คสช.จะมีการคลายล็อกให้พรรคการเมืองได้ทำกิจกรรมการเมืองว่า เราเตรียมการอยู่ และคิดว่า คสช.คงจะอนุญาตให้ทำกิจกรรมการเมืองได้ แต่เมื่อ คสช.ยังมีความจำเป็นที่ต้องควบคุมสถานการณ์บ้านเมืองให้เรียบร้อย เราก็เข้าใจ และได้เปลี่ยนวิธีใหม่ โดยการจัดประชุมกรรมการบริหารพรรค ส่วนกิจกรรมอะไรที่ทำได้โดยไม่ขัดต่อคำสั่ง คสช.เราก็ทำ เช่น การออกไปรับฟังปัญหาของประชาชน ทำให้ทราบถึงความต้องการของประชาชน ขณะเดียวกันประชาชนได้เป็นผู้ร่วมกำหนดนโยบาย ส่วนการเตรียมหาสมาชิกพรรคนั้น ตอนนี้เรายังไม่ได้พูดกันเลย เราต้องการได้ประชาชนมาเป็นเจ้าของร่วมกัน ซึ่งตอนนี้เรารอให้ กกต.รับรองให้เป็นพรรคการเมืองอย่างสมบูรณ์ก่อน เพียงแต่เราได้บอกกล่าวให้ทุกคนที่มีเจตจำนงมาล่วงหน้า
    "จุดยืนของพรรคเราเป็นพรรคของประชาชน วันนี้ไม่มีใครตอบแทนประชาชนได้ว่าเลือกตั้งแล้วจะสนับสนุนใครให้เป็นนายกฯ เราต้องรอให้ประชาชนเป็นคนกำหนด ซึ่งเราจะทำแบบเปิดเผย ทั้งนี้ ตราบใดที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ยังทำงานไปในแนวทางเดียวที่ตรงกับเจตนารมณ์ของประชาชน ก็เชื่อว่าประชาชนจะสนับสนุน" 
    นายสุเทพกล่าวอีกว่า ส่วนกรอบเวลาที่ให้พรรคการเมืองหาเสียงอาจจะไม่ทันนั้น ตนคิดว่าไม่มีปัญหาทั้งๆ ที่พรรคเราเป็นพรรคใหม่ ให้เวลาเท่าไหร่ก็ทำได้ เราก็เตรียมการเอาไว้ก่อน อะไรที่เรารู้ว่าจะต้องทำให้สอดคล้องกับกฎหมายและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ก็จะทำ เช่น การทำไพรมารีโหวต การที่ให้ประชาชนเป็นเจ้าของพรรคแต่ละเขตเลือกตั้งเป็นผู้กำหนดตัวผู้สมัครเราจะทำ ถือเป็นการยอมรับอำนาจของประชาชน ถือเป็นการยอมรับการชี้นำทางการเมืองของประชาชน ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งของการปฏิรูปประเทศ ทั้งนี้ เป้าหมายหลักของประชาชนที่ตั้งพรรคมาเป็นพรรคการเมือง คือเพื่อผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน ให้คนในประเทศอยู่ดีมีสุข 
    นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่า ถ้าหาเสียง 70 วันไม่พอก็เลื่อนเลือกตั้งออกไปเดือนพฤษภาคม 2562 จะได้มีเวลาหาเสียง 210 วันว่า ถือว่าเป็นการขู่ ทำทีจะเลื่อนออกไปอีกเพื่อให้นักการเมืองสงบเสงี่ยมกัน เพราะความเป็นจริงระยะเวลา 60-90 วันสำหรับการหาเสียงเลือกตั้งถือว่าไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าระยะเวลา 90 วันระหว่างรอให้ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้ จะต้องคลายล็อกให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สามารถไปแบ่งเขตเลือกตั้งได้ 
เพื่อไทยขานรับ 70 วัน
    เขาเชื่อว่า แค่ 60 วันจาก 90 วันก็น่าจะทำเสร็จ เพราะวันนี้ กกต.ทุกจังหวัดมีต้นร่างอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องผ่านกระบวนการทำความเห็นประชาชน พรรคการเมือง ก่อนส่งให้ 5 เสือ กกต.ใหม่เป็นผู้ชี้ขาด ขณะที่ พรรคการเมืองก็ปรับปรุงระบบภายในไป เช่น ประชุมแก้ไขข้อบังคับ เลือกกรรมการบริหารใหม่ กำหนดแนวอุดมการณ์ หาสมาชิกพรรคใหม่ และตั้งสาขาเพื่อจะได้ใช้ช่วงเวลาอีก 30 วันที่เหลือลงไปทำไพรมารีโหวต ทุกอย่างก็จะเดินหน้าได้ และเมื่อครบ 90 วันร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้ ก็นับหนึ่งจัดการเลือกตั้งภายใน 150 วันได้พอดี หรือจะใช้เวลา ไพรมารีโหวต 60 วัน ก็ยังอยู่ในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ดี ดังนั้น 60-90 วันสำหรับการหาเสียง จึงไม่ใช่ปัญหา
    ด้านนายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายวิษณุเป็นผู้ใหญ่ ไม่ควรประชดประชันว่าเวลาไม่พอแล้วต้องเลื่อนการเลือกตั้ง ควรพูดด้วยเหตุผลตามข้อเท็จจริง เพราะมันมีวิธีการทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ เมื่อกฎหมายลูกประกาศใช้ ก็ควรปลดล็อกให้พรรคการเมืองได้ทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งการหาสมาชิก อธิบายบทบาทหน้าที่ของการเป็นสมาชิก ไม่เช่นนั้นทำอะไรลงไปอาจกลายเป็นความผิดได้ ส่วนเวลาหาเสียงนั้น จะเป็นเท่าไหร่ก็ได้ แต่เราต้องการทำความเข้าใจประชาชนถึงรูปแบบการเลือกตั้งที่เปลี่ยนแปลงไปเท่านั้น
          นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย มองว่าถ้ากฎหมายทุกอย่างพร้อมยิ่งเลือกตั้งเร็วยิ่งดี ที่ฝ่ายการเมืองกลัวว่าจะเตรียมตัวไม่ทันนั้น นักการเมืองต้องมีความพร้อม คนที่จะลงการเมืองต้องพร้อม ทุกวันนี้นักการเมืองก็รับฟังความคิดเห็นประชาชนอยู่แล้วไม่ควรออกมาโวยวายเรื่องเงื่อนเวลา การวางกรอบให้หาเสียงในเวลา 70 วันถือว่าเหมาะสมแล้ว
    นายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า แม้ว่าสัญญาณต่างๆ จะบ่งบอกว่า การเลือกตั้งใกล้เข้ามาแล้ว แต่ต้องยอมรับว่า ถ้ายังไม่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งออกมาก็ไม่มีอะไร 100 เปอร์เซ็นต์ วันนี้การเมืองยังเปลี่ยนแปลงได้ตลอด แต่สิ่งสำคัญก็คือ ชทพ.จะต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมที่สุดสำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง โดยเฉพาะกำหนดเวลาแรกตามโรดแมปวันที่ 24 ก.พ.62 ส่วนระยะเวลาการหาเสียง 60 วันนั้น คิดว่าที่ผ่านมาก็อยู่ที่ 45-60 วันอยู่แล้ว แต่ คสช.จะต้องคลายล็อกให้พรรคได้เตรียมตัวก่อน ทั้งการหาสมาชิกพรรค ประชุมใหญ่ปรับปรุงข้อบังคับพรรค รวมไปถึงการทำนโยบาย เพราะมิเช่นนั้นจะไม่สามารถลงพื้นที่รับฟังความเห็นประชาชนเพื่อทำนโยบายใหม่ๆ ออกมาได้เลย 
ทักษิโณมิกส์เวอร์ชั่นใหม่
    วันเดียวกันนี้ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สาเหตุที่ตนเสนอแนะและวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจนี้ เป็นเหมือนการเตือนให้ทุกคนในประเทศตระหนักว่า ประเทศไทยได้เสียโอกาส และเสียหายทางเศรษฐกิจไปมากแล้ว เพราะหากไม่มีการประท้วงปิดกรุงเทพฯ และไม่มีปฏิวัติ เศรษฐกิจไทยต้องดีกว่านี้อย่างแน่นอน ประชาชนต้องมีรายได้เพิ่ม และมีความสุขกว่านี้แน่ จึงไม่อยากให้มีการประท้วงและนำมาสู่การปฏิวัติอีกในอนาคต และขอให้ปล่อยให้ระบอบประชาธิปไตยได้ทำงานอย่างเต็มที่ ประเทศก็จะไม่เสียหาย เศรษฐกิจก็จะก้าวหน้าไปได้
    เขายกตัวอย่างในประเทศมาเลเซีย ที่ผู้นำรัฐบาลชุดก่อนมีข้อครหาการทุจริตกันมาก โดยเฉพาะในเรื่องกองทุน 1 เอ็ดดีบี ประชาชนมาเลเซียไม่พอใจกันมาก ผู้นำก็ไม่ยอมลาออกและยังลงสมัครรับเลือกตั้งแข่งอีก สุดท้ายประชาชนก็ลงโทษโดยลงคะแนนเลือกฝ่ายค้านจนชนะการเลือกตั้ง เป็นต้น 
    "ประชาชนไทยก็ไม่ได้ฉลาดน้อยไปกว่าประชาชนมาเลเซีย และแม้แต่ในสหรัฐก็มีประชาชนสหรัฐไม่พอใจประธานาธิบดีทรัมป์กันเป็นจำนวนมาก เขาก็จะรอจนกว่ามีการเลือกตั้ง เศรษฐกิจเขาก็ไม่กระทบ แถมยังดีมากด้วย ก็อยากให้ประเทศไทยเรียนรู้จากบทเรียนเหล่านี้ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้และไม่เกิดความเสียหายอีก"
    นายพิชัยกล่าวว่า หากย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2549 จะพบความเสียหายยิ่งมากมายเป็นทวีคูณ และหากจำกันได้ว่าก่อนการเลือกตั้งปี 2554 พรรคเพื่อไทยได้เสนอวิสัยทัศน์ 2020 ไว้ ซึ่งเป็นแนวคิดตามแนวทางทักษิโณมิกส์ในสมัยนั้น ซึ่งจะปรับปรุงประเทศในทุกด้านอีกทั้งเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งเกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน พ่อค้า แม่ค้า คนระดับรากหญ้า คนระดับกลางและคนระดับบนจะได้รับประโยชน์กันทั้งหมด แต่การพัฒนาต้องมาหยุดลงหลังเกิดการปฏิวัติ 
    "ดังนั้น อยากให้ประชาชนได้มั่นใจว่า แนวคิดทักษิโณมิกส์เวอร์ชั่นใหม่ ที่ปรับปรุงตามสภาวะแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนแปลง และมีเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาเสริม ที่จะนำประเทศไทยก้าวหน้าต่อไปทัดเทียมกับนานาชาติได้ โดยเมื่อมีการปลดล็อก ผมจะเสนอให้พรรคได้พิจารณาเพื่อนำเสนอเป็นนโยบายของพรรคเพื่อให้ประชาชนได้ทราบและมั่นใจในการตัดสินใจลงคะแนนในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในต้นปีหน้านี้"
     ทั้งนี้ นายพิชัยแจ้งว่า ยังไม่ได้มีการติดต่อเรื่องการถูกเรียกตัวครั้งที่ 12 ตามที่ตนนับ หรือครั้งที่ 16 ตามที่พล.อ.ประยุทธ์นับแต่อย่างใด 
    นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ชาวนา จ.ลพบุรี ขอให้รัฐบาลช่วยพยุงราคาข้าว แต่ พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่าจะพยุงได้อย่างไร เพราะขณะนี้รัฐบาลยังใช้หนี้ 5 แสนล้านบาทให้กับโครงการรับจำนำข้าวอยู่ว่า สงสารชาวนาลพบุรีคนนั้นจับใจ เพราะถ้าชาวนาไม่เดือดร้อนอย่างแสนสาหัสจริง ๆ คงไม่กล้าเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากนายกฯ ซึ่งเป็นผู้บริหารประเทศที่อาสาเข้ามาบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชน ขอให้กำลังใจชาวนา ให้อดทนรอการเมืองปกติ ทั้งนี้ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยได้เตรียมแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาของพี่น้องเกษตรกรไว้แล้วระดับหนึ่ง ขอให้การเมืองเปิดและประชาชนให้โอกาสในการเลือกตั้ง
พิงชาวนาด่านายกฯ
         นายชวลิตกล่าวอีกว่า สำหรับโครงการรับจำนำข้าวที่เป็นประเด็นวิพากษ์มาจนถึงปัจจุบันนั้น ในภาพรวมคณะทำงานด้านเศรษฐกิจของพรรคคงจะได้ชี้แจงประชาชนต่อไปในโอกาสที่เหมาะสม แต่ในความเห็นส่วนตัวนั้น โครงการรับจำนำข้าวเป็นนโยบายสาธารณะที่รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ แถลงนโยบายต่อสภา เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ด้อยโอกาสที่ถูกเอาเปรียบมาช้านาน เมื่อเป็นนโยบายสาธารณะ จะคิดกำไรขาดทุนได้อย่างไร แม้แต่ประเทศที่เจริญแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ต่างก็มีนโยบายอุดหนุนเกษตรกรของตนทั้งนั้น แต่หากจะคิดกำไรขาดทุนจากนโยบายสาธารณะนั้น แล้วนโยบายสาธารณะของรัฐบาลนี้มีมากมายในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา ใช้เงินไปมากมายมหาศาล ได้คิดกำไรขาดทุนบ้างหรือเปล่า แล้วทำไมมาจ้องเอาแต่โครงการรับจำนำข้าว 
    "ผมมั่นใจว่ายิ่งตีโครงการรับจำนำข้าว ยิ่งตีคุณยิ่งลักษณ์ ยิ่งได้รับความเห็นใจจากชาวนาและประชาชนผู้รักความเป็นธรรม เพราะเมื่อเปรียบเทียบชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนาครั้งมีโครงการรับจำนำข้าวกับปัจจุบันภายใต้การบริหารของรัฐบาลนี้ ครั้งมีโครงการรับจำนำข้าวชาวนาเริ่มลืมตาอ้าปากได้" นายชวลิตกล่าว
    นายไพบูลย์ นิติตะวัน ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป กล่าวภายหลังการประชุมจัดตั้งสภาประชาชนปฏิรูปจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดอุตรดิตถ์ ว่ายังแสดงจุดยืนสนับสนุนนายกฯ ที่เป็นคนในรัฐธรรมนูญ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์มีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 88 และมาตรา  272 โดยมีคุณสมบัติที่จะเป็นนายกฯ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับเสียงข้างมากในสภา แต่ตนจะไม่สนับสนุนคนนอกรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะคนที่อยู่นอกประเทศ หรือคนในประเทศที่มีฐานะเป็นนอมินี
    ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกกลุ่มสามมิตร  เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 6-7 ก.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มสามมิตรภายใต้การนำของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร ได้เดินทางลงพื้นที่ อ.พรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก, อ.คีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย, อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร รวมถึงพื้นที่ อ.บรรพตพิสัย และ อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ เพื่อรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน โดยส่วนใหญ่พี่น้องประชาชน เกษตรกร จะประสบปัญหาเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ  ปัญหาราคาข้าว ปัญหาแหล่งน้ำ ปัญหาชาวไร่อ้อย และปัญหาที่ดินทำกิน ทั้งนี้ ทางกลุ่มจะนำเสนอปัญหาต่างๆ ส่งต่อไปยังรัฐบาลผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้รัฐบาลช่วยดำเนินการแก้ไขโดยเร่งด่วน
สามมิตรชูนโยบาย คสช.
     เขากล่าวว่า พญ.วิริยา บุรณศิริ รอง ผอ.โรงพยาบาลบรรพตพิสัย ยังกล่าวถึงปัญหาของโรงพยาบาลบรรพตพิสัยกับกลุ่มสามมิตรด้วยว่า โรงพยาบาลมีปัญหาเตียงไม่พอรองรับผู้ป่วย เนื่องจากโรงพยาบาลมีขนาดเล็ก และงบประมาณไม่เพียงพอต่อการขยายพื้นที่ ดังนั้น จึงได้ประสานทางกลุ่มสามมิตรเพื่อให้ช่วยเหลือประสานกับรัฐบาลให้ เนื่องจากที่ผ่านมาเราพยายามผลักดันแล้ว แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า โดยนายสมศักดิ์ระบุว่า ทางกลุ่มจะประสานกับรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ แต่ไม่รับปากว่าจะได้ เพราะจะส่งผลต่อกลุ่มสามมิตรว่ากระทำขัดกฎหมายได้ อาจถูกกล่าวหาว่าหาเสียง ทั้งๆ ที่เราเป็นเพียงไปรษณีย์เท่านั้น แต่จะพยายามช่วยให้ได้มากที่สุด โดยมอบหมายให้ตนรับผิดชอบไปดำเนินการต่อ  
     นายธนกรกล่าวด้วยว่า ชาวบ้านยังสะท้อนด้วยว่าชื่นชอบโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของรัฐบาลอย่างมาก เพราะพี่น้องคนยากคนจนได้ประโยชน์ โดยขณะนี้มีจำนวน 11.4 ล้านคน ยิ่งรัฐบาลเพิ่มเงินสดให้อีก 200 บาท ซึ่งสามารถรูดเป็นเงินสดได้เลยนั้น ยิ่งทำให้ชาวบ้านสามารถนำไปซื้อของได้สะดวกมากขึ้น ขณะที่การรูดบัตรเพื่อซื้อของ 300 หรือ 500 บาทนั้นก็ยังได้เหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม ทราบว่ารัฐบาลจะอนุมัติบัตรคนจนเพิ่มอีก 5 ล้านใบเป็น 16 ล้านใบด้วย ถือว่าตอบโจทย์พี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดี ชาวบ้านจึงฝากขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ที่เข้าใจพี่น้องคนยากคนจนด้วย
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรับฟังปัญหาของกลุ่มสามมิตรในครั้งนี้ มีประชาชนมาเสนอปัญหาในแต่ละที่ไม่ต่ำกว่า 500 คน นอกจากนี้ยังมีนักการเมืองมาร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นอีกด้วย อาทิ ที่ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก มี จ.ส.อ.พัฒนปกรณ์ ดอนตุ้มไพร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก พรรคชาติไทยพัฒนา มาเข้าร่วม ส่วนที่ อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย มีนายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง อดีตผู้สมัคร ส.ส.สุโขทัย พรรคเพื่อไทย มาเข้าร่วม ที่ อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร มีนายเรวัตร์ อินทพงษ์ ส.อบจ.อ.พรานกระต่าย มาเข้าร่วม นอกจากนี้ยังมีนายศิริสิทธิ์ พันธ์นรา อดีต นอภ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร, นายกัมพล ปัญกุล อดีตผู้สมัคร ส.ส.กำแพงเพชร พรรคภูมิใจไทย และนายธานันท์ หล่าวเจริญ กรรมการบริหารพรรคพลังพลเมืองไทย เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นด้วย ขณะที่ จ.นครสวรรค์นั้น มีนายสัญญา นิลสุพรรณ ที่ปรึกษาชมรมเอฟซี สัญญาใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน และนายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครสวรรค์ พรรคชาติไทยพัฒนา มาร่วมรับฟังปัญหา
    นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน อดีตแกนนำ นปช.และอดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ออกมาระบุว่าจะแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท ใส่ร้ายพรรคภูมิใจไทย กรณีกล่าวหาว่าไปจ้างคนเก็บบัตรประชาชนของชาวบ้านในเขต อ.ครบุรี และเสิงสาง จ.นครราชสีมา ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยว่า เรื่องนี้ยืนยันไปหลายครั้งแล้วว่าไม่มีเจตนาที่จะทำลายชื่อเสียงหรือใส่ร้ายป้ายสีพรรคภูมิใจไทยตามที่นายศุภชัยกล่าวหา เพราะตนเองก็เคารพนายอนุทิน ชาญวีรกูล หน.พรรค และผู้ใหญ่ของพรรค อาทิ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งตนก็เคยเป็นเลขานุการของท่านสมัยทำงานอยู่พรรคเพื่อไทยด้วยกัน 
แรมโบ้รักพ่อชัย
    นอกจากนี้ยังเคารพพ่อชัย ชิดชอบ เป็นพ่อของตนอีกคนหนึ่งด้วย แต่สิ่งที่ยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบ เพราะมีบุคคลในพื้นที่ได้ว่าจ้างคนไปเก็บบัตรประชาชนของชาวบ้านในเขต อ.ครบุรี และ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา นับหมื่นใบจริง โดยบุคคลที่ว่าจ้างก็ใส่เสื้อพรรคภูมิใจไทยถ่ายรูปคู่กับผู้นำของพรรค และได้ประกาศทุกงานที่ไปต่อหน้าชาวบ้านว่าจะลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคภูมิใจไทย ซึ่งตนมีหลักฐานและปั๊มตรายางที่สำเนาบัตรประชาชนของชาวบ้านระบุไว้ชัดเจนว่า เตรียมการสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย การเตรียมการถือว่าไม่ผิดกฎหมาย แต่การว่าจ้างให้คนไปเก็บบัตรประชาชนแล้วสัญญากับประชาชนเจ้าของบัตรว่าจะมีค่าตอบแทนให้ ตนอยากถามไปถึง กกต.ว่าการเตรียมการเช่นนี้ คือการซื้อเสียงล่วงหน้า และเป็นการกระทำผิด พ.ร.บ.ประกอบการเลือกตั้งใช่หรือไม่
    นายสุภรณ์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมานายศุภชัยออกมาระบุเพียงว่า บุคคลทั้งสองคือนายพรชัย อำนวยทรัพย์ และนายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ยังไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ตนอยากถามว่าทำไมผู้ใหญ่ของพรรคไม่เตือนหรือห้ามปรามว่าอย่าได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และอย่าได้เอาชื่อพรรคไปแอบอ้างนำความเสียหายมาให้กับพรรค บุคคลที่เอาชื่อพรรคไปแอบอ้างทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค ผู้บริหารของพรรคภูมิใจไทย ก็ควรจะเร่งดำเนินคดีกับบุคคลนั้นทันที ปัจจุบันการเก็บบัตรประชาชนในเขต อ.ครบุรีและ อ.เสิงสาง ก็ยังทำกันไม่หยุด ซึ่งตนมีพยานบุคคลและพยานหลักฐานมากมาย โดยภายใน 1-2 วันนี้ ตนจะรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนาเพื่อเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ครบุรีและ สภ.เสิงสาง ให้ดำเนินคดีกับผู้จ้างวานให้คนไปเก็บบัตรประชาชนชาวบ้าน และผู้ที่แอบอ้างว่าเป็นการเตรียมการสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย
        นายสุภรณ์กล่าวอีกว่า ตนอยากให้นายศุภชัย หรือผู้ใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย ออกมายืนยันให้ชัดเจนว่า นายพรชัยกับนายวีระศักดิ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับพรรคภูมิใจไทย และพรรคภูมิใจไทยไม่ได้มีนโยบายหรือสั่งการใดๆ ให้บุคคลทั้งสองไปเก็บบัตรประชาชนของชาวบ้านมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ตนก็จะได้ร้องเรียนเฉพาะสองคนนี้ โดยจะไม่ไปเกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทยแต่อย่างใดทั้งสิ้น
    ขณะที่นายอนุทินกล่าวว่า ฝ่ายตรงข้ามกำลังทำงานการเมืองแบบเก่า ซึ่งไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน สำหรับพรรคภูมิใจไทย เลิกสนใจเรื่องนี้ ขอคิดเรื่องนโยบายดีกว่า อย่างไรก็ตาม หากฝ่ายการเมืองยังจะทำงานแบบเดิม นอกจากจะแพ้แล้ว ยังอาจจะเป็นเหตุให้ประชาธิปไตยต้องหยุดชะงักลงอีกด้วย อย่าลืมว่า ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมือง ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้อำนาจนอกระบบเข้ามาแทรกแซง 
    “ถ้าเป็นสมัยก่อน ผมคงออกมาลุยเต็มที่ เพราะผมมั่นใจว่าเราไม่ผิด แต่จากประสบการณ์มันบอกแล้วว่าการออกไปสู้กันทางการเมือง ในลักษณะของการสาดโคลน ด่ากันไปด่ากันมา สิ่งที่ตามมามันไม่มีใครชนะ แถมประชาธิปไตยยังเสี่ยงถูกทำลาย มาวันนี้ผมจึงขอเงียบไว้ดีกว่า เพราะบ้านเมืองมีกฎหมาย และการเลือกตั้งในสมัยหน้า ผมเชื่อว่าการบิดเบือนข่าวสาร ไม่ช่วยให้ชนะเลือกตั้ง นโยบายต่างหากคือสิ่งที่ประชาชนอยากจะเห็นจากนักการเมือง” 
    นายอนุทินยังกล่าวเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทย ว่า ประเทศไทยต้องการเม็ดเงินหมุนเวียน แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา และจากการพูดคุยกับกลุ่มนักลงทุน พบปัญหาที่ต้องรีบแก้ไขคือ กฎหมายของประเทศไทย มีความยุ่งยาก ซับซ้อน ไม่อำนวยความสะดวกกับนักลงทุนเท่าที่ควร เนื่องจากการตั้งหน่วยงานรัฐเข้ามาตรวจสอบและอนุมัติการลงทุนอย่างละเอียด โดยไม่กำหนดกรอบเวลาในการพิจารณาอย่างชัดเจน ส่งผลให้หลายบริษัทต้องรอการอนุมัติอยู่นับเดือน นับปี เสียดายเงินที่รอเข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทย เพราะติดขั้นตอนทางราชการ
    “มันถึงเวลาที่ต้องทบทวนกฎหมาย ให้เอื้อประโยชน์กับนักลงทุน ผมเสนอให้นักลงทุนกำหนดสเปกของตนเองมาเลยว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง จากนั้นฝ่ายรัฐจะผ่านการอนุมัติในกรอบเวลาที่กำหนด ต้องไม่นานจนเกินไป ถ้าใครผ่านการตรวจสอบ จะได้ลงทุนทันที หลังจากนั้นภาครัฐจะไล่ตรวจสอบทีหลัง ใครทำไม่ได้ ต้องถูกลงโทษ แนวทางของผมจะทำให้ประเทศไทยน่าลงทุนมากขึ้น” นายอนุทินกล่าว. 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"