ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งข้าราชการในพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ความว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งข้าราชการตำรวจและข้าราชการทหาร เป็นข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร จำนวน 2 นาย โดย 1 ใน 2 คือ  พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตารวจสอบสวนกลาง(ผบช.ก.) มารับราชการเป็นข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหารชั้นสัญญาบัตร ในตำแหน่งนายทหารปฏิบัติการประจำสำนักงานผู้บัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ (อัตราพลโท) และพระราชทานยศพลโท แต่งกายทหารบกเหล่าทหารราบ ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.2561 ๐

                นับถอยหลังอีกไม่กี่วัน "กองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ" น่าจะเป็น บก. น้องใหม่ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) เมื่อวงประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.) ที่มี บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นั่งหัวโต๊ะประธาน อนุมัติเปิดตำแหน่ง "ผู้บังคับการกองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ" ชั้นยศ พล.ต.ต. เรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย.2561 หลังจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ได้อนุมัติกำหนดตำแหน่ง ผู้บังคับการกองบังคับการถวายความปลอดภัยและกิจการพิเศษ ก่อนแล้วเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามขั้นตอนกฎหมายที่ระบุใน พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 โดยกองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษอยู่ในสังกัด บช.ก. ประกอบด้วย 10 กองกำกับการ เพราะเหลือเพียงการออกกฎกระทรวงตั้งหน่วยงาน ที่ดำเนินการคู่ขนานกันไปแล้ว ๐

                แม้ บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ไม่ยืนยันฟันธงจะแต่งตั้ง "ผบก.กองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ"ทันวาระแต่งตั้ง นายพล ประจำปี 2561 ที่ขีดเส้นตามการขอขยายเวลาแต่งตั้งเอาไว้ถึงสิ้นเดือนก.ย.นี้หรือไม่ แต่ถ้านับนิ้วถึงตอนนี้ก็ยังมีเวลาให้ทุกอย่างสมบูรณ์อีกกว่า 20 วัน การแต่งตั้ง "ผบก.กองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ"ของ บก.น้องใหม่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร โดยสถานที่ตั้งของหน่วยจะใช้พื้นที่ของคอมมานโด กองปราบปราม โชคชัย 4 ปรับเป็นกองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษไปก่อน ส่วน ผู้การฯป้ายแดง สปอร์ตไลท์โฟกัสไปที่ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บังคับการกองปราบปราม(รองผบก.ป.) ที่มีผลงานต่อเนื่องและครบสมบัติเพียบพร้อม ๐

                รายนี้กระแสมาแรงแซงทางโค้ง  "บิ๊กหนุ่ม" พล.ต.ต.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(รองผบช.ก.) นรต.36 เพื่อนร่วมรุ่น บิ๊กแป๊ะ ผบ.ตร. มีชื่อคว้าเก้าอี้ "ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล" หรือ  "ผบช.น." แตะไม้ต่อมือจาก บิ๊กหยม-พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. เพื่อน นรต.36 ที่จะเกษียณอายุราชการปลายเดือนก.ย.นี้ ่ทำให้ตอนนี้ศึกชิงเก้าอี้ "น.1" เริ่มจืดๆลง แต่ที่กำลังเป็นที่จับตาเพิ่มขึ้นคือ เมื่อเก้าอี้ ผบช.น. ถูกตีตราจองแล้ว บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.ต.สุรเชษฐ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(รองผบช.ทท.) น้องเลิฟลุงป้อม จะไปขึ้นเป็น "ผู้บัญชาการ" ติดยศ พล.ต.ท. ที่หน่วยไหนแทนเก้าอี้ "ผบช.น." ที่เคยเป็นแคนดิเดท เบอร์ 1 เพราะหากไปขึ้นเป็น ผบช.สตม. ตามข่าวลือช่วงหลังๆ แล้ว  บิ๊กบัว-พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.สตม. เจ้าของเก้าอี้ จะขยับไปไหน หรือจะโยกมาเป็น ผบช.ภ.1 ตามดผแรกที่กะเก็งกันไว้ แล้วดัน บิ๊กปั๊ด-พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 ขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. ตามโผแรกที่เคยสะพัดอยู่ในกรมปทุมวัน ต้องจับตาๆ ๐

                หลังมีพระราชโองการฯ โปรดเกล้าฯ นายทหารประจำปี   สปอร์ตไลท์ก็ฉายแสงไปที่ "บิ๊กแดง" พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ว่าที่ผู้บัญชาการทหารบก คนใหม่ เพราะแค่มีชื่อออกมา เหล่าบรรดานักรบคีย์บอร์ดก็เริ่มออกปฏิบัติการทันที แต่ในสื่อหลัก นิตยสารการเมืองรายสัปดาห์ต่างขึ้นปก "บิ๊กแดง"พร้อมกันหมด จน "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างลงพื้นที่ จ.ลพบุรี   เยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ ได้แนะนำพล.อ.อภิรัชต์ กับประชาชนด้วยว่า  "คนนี้ พล.อ.อภิรัชต์ ยังไม่ได้เป็นผบ.ทบ. แต่สื่อเขียนไปเรื่อย เขียนไปจนจะเป็นนายกฯอยู่แล้ว" ส่วน พล.อ.อภิรัชต์ ตอบคำถามสื่อที่ทักถามว่า ในช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง พล.อ.อภิรัชต์ ตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า "ช่วงนี้ ก็ต้อง ฟิตหน่อย" ถือเป็นภารกิจแรกหลังโผทหารประกาศ  และ "บิ๊กเจี้ยบ" พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก มอบหมายให้เดินทางร่วมคณะ นายกฯ แทน๐

                เหลือเวลาไม่ถึง 20 วัน  "บิ๊กเจี้ยบ" ก็จะเกษียณอายุราชการ   มีนัดหมายสังสรรค์อำลากับผู้สื่อข่าวสายทหาร พร้อม 3 ทหารเสือ ลูกหม้อ "กรมยุทธการทหารบก" ไล่ตั้งแต่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ว่าที่รองผู้บัญชาการทหารบก พล.ท.ชูชาติ  บัวขาว ว่าที่รองเสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย พล.ท.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์  ว่าที่เสนาธิการทหารบก  สายงานหลักในกองทัพบก แหล่งข้อมูลที่สามารถตอบคำถามผู้สื่อข่าวได้เกือบคลอบคลุม โดยเฉพาะ "บิ๊กเล็ก" พล.อ.ณัฐพล นั้น พล.อ.เฉลิมชัย  ชี้ให้ผู้สื่อข่าวไปติดตามให้ดี ทำให้ไปตีความกันไปว่า ในปี 63 หลัง "บิ๊กแดง" เกษียณ จะได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.ต่อไปหรือไม่ เพราะอายุราชการยาวถึงปี 64  แต่ที่แน่นอนคือในช่วงรับหน้าที่ รอง ผบ.ทบ. คนต่อไป น่าจะกลายเป็น ทั้ง "เพื่อน-ลูกน้อง" ที่ทำงานใกล้ชิด "บิ๊กแดง" ชนิดเงาตามตัว หรือ  เป็นตัวแทนกันได้ ในยามที่ ผบ.ทบ.ต้องมีภารกิจล้นมือ เรียกได้ว่า ยุคหน้าอาจมี ผบ.ทบ.พร้อมคู่ดูโอ ทำงานขับเคลื่อนงานของ "กองทัพบก"ไปพร้อมกับ ผบ.ทบ.ตามตำแหน่ง  โดยมี "บิ๊กเล็ก" เป็นรอง  ผบ.ทบ. ที่พร้อมเป็นตัวตายตัวแทนในการเก็บงานแบบ 100 % ๐

                กลับเข้ารั้วทหารเมื่อไหร่  "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ต้องเปิดใจแบบ "บาย ฮาร์ท" ยิ่งถ้าเป็นสถาบันการศึกษา ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) หรือวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ก็จะ "เล็คเชอร์" ยาวกว่าปกติ พฤหัสบดีที่ผ่านมา เข้ารับฟังการแถลงยุทธศาสตร์ชาติ ของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร วิทยาลัยเสนาธิการทหาร วิทยาลัยการทัพของทั้งสามเหล่าทัพ ประจำปีการศึกษา 2561 แต่ที่ขาดไม่ได้คือ "ปล่อยมุก"ฮาๆ แซวผู้ร่วมรับฟังการแถลงด้วย นอกจากประเด็น "คนไม่มีผม" ที่เรียกเสียงฮา ทั้งห้องประชุมใหม่ของสถาบันวิชาการป้องกันประเทศแล้ว ก็แอบแซวเล็กๆ ถึง"ด็อกเตอร์" ที่เคยเปิดเวทีอภิปรายในประเด็นการเมือง หลักการประชาธิปไตย  แม้จะจำชื่อไม่ได้ แต่ก็บอกเป็นรุ่นพี่ที่เคารพ นึกหน้าแล้วคิดถึงสถาบันพระปกเกล้าฯ  คงมีแต่ พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาส ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า อดีต ผบ.วปอ. และ นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 ที่มาโตทางสายงานวิชาการ ๐

                ศุกร์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงพระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ประทานพระวโรกาสให้ คณะของ "บิ๊กเล็ก" พล.ต.ปิยะพงศ์ กลิ่นพันธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11  (ผบ.มทบ.11)และว่าที่ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.ร.2รอ.)  ซึ่งนำผู้สื่อข่าวสายทหาร 20 คนเข้าเฝ้าฯ ถือเป็นพระกรุณาธิคุณ ฯ อย่างยิ่ง กับผู้สื่อข่าวทุกคน ได้รับพรที่เป็นสิริมงคลแด่ทุกคนโดยทั่วกัน ๐