อย่าเปรียบเทียบกับมหาเธร์อย่างผิวเผิน


เพิ่มเพื่อน    

เมื่อมหาเธร์ที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซียที่เป็นคนสูงอายุ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียอีกครั้ง ก็ทำให้ปรากฏการณ์ครั้งนี้ไปสร้างแรงบันดาลใจให้อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยออกมาพูดว่า เขายินดีที่จะรอวันที่จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยในวัยชรา เหมือนกับมหาเธร์ที่สูงอายุมากแล้วยังกลับมาเป็นเบอร์หนึ่งของการบริหารประเทศได้ โดยลืมไปว่ามหาเธร์เขาลงจากตำแหน่งอย่างสง่างาม สะอาดสะอ้านไร้มลทิน สามารถอยู่ในประเทศมาเลเซียในฐานะพลเมืองดีของประเทศที่ชาวมาเลเซียยกย่อง เมื่อเขาเห็นความจำเป็นและคิดว่าเขาจะใช้ความรู้ความสามารถของเขาขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศได้ เขาก็เข้ามาพร้อมกับการขานรับของประชาชนที่ยกย่องชื่นชมความเก่งและความดีของเขา ไม่ว่าเขาต้องการกลับเข้ามาทำงานเพื่อประเทศชาติวันใดเขาก็สามารถกลับเข้ามาได้

สำหรับคนที่เปรียบเทียบตัวเองกับมหาเธร์นั้นมีบริบทที่แตกต่างจากมหาเธร์ราวฟ้ากับดิน เขาไม่ได้ลงจากตำแหน่งอย่างสง่างามตามวาระปรกติของการบริหารประเทศ แต่เขาถูกโค่นล้มอำนาจเพราะมีการบริหารประเทศที่ขาดหลักธรรมาภิบาล ไม่มีจริยธรรม ทำลายระบบตรวจสอบของประเทศ ฉ้อฉล คดโกง แสวงหาประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง มีการคอร์รัปชันเชิงนโยบาย ออกกฎหมาย แก้กฎหมายเอื้อประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง แม้จะมีประชาชนจำนวนหนึ่งพึงพอใจการบริหารงานของเขาด้วยความชื่นชมนโยบายประชานิยม แต่ก็มีประชาชนไม่น้อยมองเห็นการโกงและการทำผิดกฎหมายของเขาหลายสิบข้อ จนไม่อาจจะทนให้เขาบริหารประเทศอีกต่อไป ออกมาต่อต้านขับไล่เขา จนกระทั่งกองทัพเห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของประชาชน ทำให้เกิดรัฐประหารขึ้นในปี 2549 ทำให้เขาต้องเร่ร่อนอยู่นอกประเทศ ที่สำคัญก็คือเขาเป็นสัมภเวสีอยู่นอกประเทศเป็นเวลามากกว่า 10 ปีแล้ว ก็เพราะเขาเป็นนักโทษหนีคดีที่จะต้องติดคุก 2 ปี

      แม้ว่าเขาและลิ่วล้อจะสร้างวาทกรรมว่าเขาถูกกลั่นแกล้ง ถูกไล่ล่า และใช้กระบวนการยุติธรรมไล่ล่าเขาทำให้เขาไม่สามารถกลับเข้าประเทศได้ แต่ความเป็นจริงไม่มีใครห้ามให้เขาเข้าประเทศไทย แต่เมื่อเข้ามาแล้วจะต้องมาติดคุก 2 ปีตามที่ศาลได้ตัดสินไปแล้ว นอกจากนั้นแล้วยังมีอีกหลายคดีที่ศาลจำหน่ายคดีเอาไว้ก่อน เพราะจำเลยไม่มาศาล ไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ที่เขาพูดว่าเขาจะกลับมาเป็นผู้นำประเทศในยามที่เขาสูงวัย เป็นสิ่งที่พูดได้ตอนที่ยังไม่มีรัฐธรรมนูญใหม่ ตอนนั้นคดีความของเขาจะมีเวลาที่จะหมดอายุ แต่บัดนี้เมื่อรัฐธรรมนูญใหม่ประกาศใช้แล้ว คดีของเขาจะไม่หมดอายุความ และศาลสามารถพิจารณาคดีของเขาลับหลังเขาได้ ดังนั้นไม่ว่าเขาจะมาขึ้นศาลหรือไม่ก็ตาม ศาลก็อาจจะตัดสินให้เขาต้องติดคุกอีกหลายคดี จำนวนปีที่จะต้องติดคุกน่าจะมากกว่า 2 ปี ทำให้เขาจะต้องหนีเป็นสัมภเวสีอยู่นอกประเทศไปตลอดชีวิต โอกาสที่จะกลับมาเป็นผู้นำของประเทศไทยเหมือนมหาเธร์กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียนั้น ต้องบอกได้เลยว่าเป็นศูนย์ ไม่มีทางที่จะกลับมาได้อย่างแน่นอน ยกเว้นลิ่วล้อของเขาสามารถเอาชนะการเลือกตั้ง กลับมาเป็นรัฐบาลได้ และสามารถแก้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่จะเอื้อให้นายใหญ่กลับเข้าประเทศได้อย่างไร้มลทินซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย

นอกจากบริบทจะต่างกันแล้ว หลักการและนิสัยการทำงานของมหาเธร์และตัวเขาที่พยายามจะเปรียบเทียบตัวเองกับมหาเธร์นั้น น่าจะต่างกันอยู่มาก ในวิดีโอคลิปที่มีเยาวชนสัมภาษณ์มหาเธร์ในวันเกิดของเขานั้น มีคำถามว่าตัวเธอที่เป็นผู้สัมภาษณ์นั้นสามารถจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ มหาเธร์ตอบว่าได้สิ ถ้าหากเธอผู้นั้นมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

* ทำงานหนัก ทุ่มเทเวลาให้กับการทำงานเพื่อประชาชน ข้อนี้เราอาจจะเห็นการทำงานหนักของเขาคนนั้น แต่ทำเพื่อประชาชนหรือไม่นั้น ไม่แน่ใจ

* เป็นคนที่ประชาชนไว้ใจได้ซึ่งหมายถึงเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต ประชาชนไม่มีความเคลือบแคลงระแวงการทำงาน แต่หลายอย่างที่เขาคนนั้นทำ ประชาชนไม่ไว้ใจ

* คิดก่อนทำ คิดก่อนพูด เรื่องคิดก่อนทำหรือไม่เราไม่รู้ แต่พูดก่อนคิด เราได้ยินบ่อยๆ

* เอางานเป็นที่ตั้ง อันนี้เราก็ไม่แน่ใจ เรายอมรับว่าเขาเป็นคนขยัน แต่จะขยันด้วยการเอางานเป็นที่ตั้ง หรือเอาการแสวงประโยชน์ของตัวเองเป็นที่ตั้งหรือเปล่า เรื่องนี้เราไม่แน่ใจจริงๆ

* ครอบครัวสนับสนุน เรื่องนี้เราไม่สงสัยเลยว่าครอบครัวของเขาสนับสนุนเขาอย่างใกล้ชิด แต่สนับสนุนให้ทำงานเพื่อชาติหรือสนับสนุนเพื่อให้ได้ประโยชน์กับธุรกิจของครอบครัวหรือเปล่าเราไม่แน่ใจ

* มีตรรกะ หมายถึงการพูดจาสมเหตุสมผล ข้อนี้เราว่าเขาไม่มีนะ เพราะหลายครั้งเราจะได้ยินข้อความที่เขาพูด เขาอธิบายที่ไม่สมเหตุสมผล เหมือนเขาเป็นคนที่ตรรกะวิบัติที่คนกินข้าวหอมมะลิไม่คล้อยตามด้วย

* มีความคิดสร้างสรรค์ ข้อนี้เขาน่าจะมีนะ เพราะเห็นคิดอะไรที่เป็นนวัตกรรมได้หลายๆ เรื่อง ทำในสิ่งที่คนอื่นไม่เคยทำ แต่จะเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีนั้น ก็ต้องพิจารณาเป็นเรื่องไป

* มีความยุติธรรม ข้อนี้เขาไม่มีแน่ เพราะเขาเป็นนักธุรกิจที่เข้ามาทำงานการเมือง เขามักจะใช้อำนาจสร้างโอกาสในการจะเอารัดเอาเปรียบคู่แข่ง

* ดีต่อประชาชน เรื่องนี้ถ้าถามคนที่พอใจผลประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการประชานิยมก็คงจะใช่ แต่ถ้าถามคนที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการประชานิยมก็คงจะตอบว่าไม่ใช่ เพราะทำให้ประเทศเสียหาย

* รักษาสัญญา หากมองจากสิ่งที่พวกเขาหาเสียงไว้ หลายอย่างไม่เป็นไปตามคำสัญญา โดยเฉพาะเรื่องราคาน้ำมัน เรื่องเข้ามาแก้ไข ไม่แก้แค้น

* ทำสิ่งที่ควรทำ เรื่องนี้ไม่ใช่แน่ เพราะมีเรื่องที่ควรทำหลายเรื่อง แต่เขาไม่ทำ และมีเรื่องที่ไม่ควรทำหลายเรื่องเขากลับทำ จะด้วยเหตุผลอะไรก็รู้ๆ กันอยู่

* ไม่โกงบ้านโกงเมือง เรื่องนี้คงไม่ใช่คุณสมบัติของเขาแน่ เพราะเขาโกงบ้านโกงเมืองจนเป็นคดีถึงโรงถึงศาล มูลค่าเป็นแสนๆ ล้าน

* ต้องชนะใจประชาชน เรื่องนี้เขาทำได้ดีกับรากหญ้าบางกลุ่มที่พอใจผลประโยชน์จากโครงการประชานิยม แต่เขาไม่อาจเอาชนะใจประชาชนที่ต้องการรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลและจริยธรรม

อย่าพยายามเปรียบเทียบตัวเองกับมหาเธร์เลย เพราะคุณขาดคุณสมบัติหลายข้อ และอย่าหวังว่าจะได้กลับมามีตำแหน่งอย่างมหาเธร์เลย บริบทและคุณสมบัติมันต่างกันค่ะ.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"